แฉขบวนการเตะหมูเข้าปากหมา เงื่อนงำโครงการจัดหารถเมล์ใช้ก๊าซเอ็นจีวีใหม่ของ ขสมก. เผยวิชามารเปลี่ยนจากเช่าเป็นจัดซื้อ ให้ ปตท.บวกเพิ่มค่าแก๊สเอ็นจีวีแพงหูฉี่ แสร้งคิดดอกเบี้ยต่ำ 0.5% แต่ผูกเงื่อนสุดท้าย ขสมก.ต้องจ่ายสูงถึง 43% แพงกว่ากู้นอกระบบหลายเท่าตัว เบ็ดเสร็จต้องผลประโยชน์ให้ ปตท.งาบสบายๆ 2 พันล้านจากเงินให้กู้แค่ 1.7 พันล้าน
ขณะที่รัฐบาลประกาศจะจัดงาน ‘วันล้างทุจริตให้สิ้นแผ่นดินไทย เพื่อเทิดไท้องค์ราชัน’ โดยจะให้ข้าราชการและหน่วยงานรัฐร่วมกันถวายสัตย์ปฎิญาณในวันที่ 6 เม.ย.นี้ ขณะนี้กลับปรากฏกรณีตัวอย่างที่ส่อไปในทางที่ตรงกันข้าม
แหล่งข่าวจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า โครงการจัดหารถโดยสารที่ใช้ก๊าชธรรมชาติเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงส่อไปในทางมีผลประโยชน์ทับซ้อนเชิงทุจริตโดยมีขบวนการจากคนในสมรู้ร่วมคิดกับคนนอก ขสมก.พยายามผลักกันให้มีการเปลี่ยนจากวิธีเช่าเดิมมาเป็นจัดซื้อแทน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ขสมก.ขาดทุนมีหนี้สะสมอยู่กว่า 5 หมื่นล้านบาทจึงจำเป็นต้องปรับปรุงทั้งระบบบริหารภายใน เช่นระบบการเก็บค่าโดยสารให้ได้ตามสมควรไม่รั่วไหล จัดระบบซ่อมบำรุงให้เป็นไปตามจริง รวมถึงจัดหารถใหม่ที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี
โดยที่ประชุมคณะกรรมการตกลงในเบื้องต้นจะใช้วิธีเช่าเพราะไม่ต้องการก่อหนี้เพิ่ม การเช่าพร้อมกับภาระรับผิดชอบซ่อมบำรุงเครื่องยนต์จะเป็นวิธีที่เหมาะสม พร้อมกันนี้ก็รายงานให้ พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทราบเป็นระยะ
“บังเอิญบอร์ดยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า จำนวนคันที่จะเช่านั้นจะเป็นเท่าไหร่ 500 หรือ 800 คันซึ่งผิดจากนโยบายในสมัยรัฐบาลทักษิณที่มีจำนวน 2,000 คันซึ่งส่อเจตนาไม่โปร่งใสคราวนั้นจึงยังไม่” แหล่งข่าวกล่าว
ต่อมา คณะกรรมการได้นัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปและออกทีโออาร์ ในวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมาเพื่อประกาศเชิญชวนนิติบุคคลที่ประสงค์จะให้ขสมก.เช่าเสนอราคาค่าเช่ายื่นซอง แต่ปรากฎว่า ก่อนการประชุม1วัน มีกรรมการผู้มีบทบาทสูงคนหนึ่งได้ให้ผู้ใกล้ชิดจัดพิมพ์และแจกจ่ายให้กรรมการ เสนอให้ ขสมก.จัดซื้อรถใหม่แทนโดยเปรียบเทียบการเช่าว่า การซื้อจะทำให้ผลประกอบการของ ขสมก.ดีกว่าเช่า
การซื้อจะเปลี่ยนเครื่องยนต์จากใช้ดีเซลเป็นเอ็นจีวีจำนวน 1,538 คัน ประมาณการใช้จ่าย 1.5 ล้านบาทต่อคัน รวมเป็นเงิน 2,307 ล้านบาท โดยมีแหล่งเงินที่ ปตท.ให้กู้ 1,773 ล้านบาท(ส่วนต่าง 534 ล้าน ขสมก.จะก่อหนี้เพิ่ม) โดยขอเรียกเก็บเพิ่มจากราคาจำหน่ายก๊าซ 7.40 บาทต่อ กก.(ปกติขายอยู่ที่ 8.50 บาทต่อ กก.รวมเป็น 15.90 บาท) ตามปริมาณการใช้ก๊าซและคิดอัตราดอกเบี้ย 0.50%
“กรรมการท่านนี้พยายามเกลี้ยกล่อมให้กรรมการคนอื่นๆ สนับสนุนวิธีนี้ แถมยังรายงานเท็จอ้างว่าได้หารือสภาพัฒน์มีความเป็นห่วงว่าหากใช้วิธีเช่าจะเข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุนหรือไม่ พฤติกรรมน่าสงสัยมากว่าจะมีผลกระโยชน์ทับซ้อน” แหล่งข่าวกล่าว
กล่าวคือ หากมองผิวเผินการจัดซื้อแล้วดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว ดูเหมือน ขสมก.จะได้ดอกเบี้ยที่ถูกมากจาก ปตท.0.50% แต่เมื่อมีราคาก๊าชที่บวกเพิ่ม 7.40 บาทต่อ กก.ก็จะปรากฏว่าแพงยิ่งกว่าเงินกู้นอกระบบ ดังนี้ รถ 1,538 คัน ประมาณเดินรถในระยะทาง 300 กม.ต่อวันจะใช้ก๊าช 184 กก.ต่อคัน หรือจะต้องใช้ก๊าชรวม 282,992 กก.ต่อวัน หรือ 103,292,080 กก.ต่อปี
ฉะนั้น ขสมก.ต้องจ่าย ปตท.นอกเหนือจากดอกเบี้ย 0.50% ต่อปีแล้ว ยังต้องจ่ายเพิ่มอีก 7.40 บาทต่อกก.บนจำนวนก๊าซที่ใช้ต่อปีเท่ากับ 764,361,392 บาท เทียบเท่า 43.11% ต่อปีของเงินกู้ 1,773 ล้านบาท และเมื่อรวมเข้ากับ 0.50% ก็จะเท่ากับ 43.61% ที่ ขสมก.ต้องให้ผลประโยชน์ ปตท.สูงมาก
เมื่อคำนวณตามระยะสัญญา 5 ปี ขสมก.จะมีภาระต่อ ปตท.สูงถึง 3,821,806,960 บาท เมื่อหักเงินต้น 1,773 ล้านบาท ปตท.จะมีผลประโยชน์ถึง 2,048,806.960 บาท หรือเฉลี่ย 409,761,392 บาทต่อปี
“ดอกเบี้ยโหดมาก ปตท.ก็จะกำไรมหาศาล ซึ่งผู้ถือหุ้นปตท.ก็รู้ๆกันอยู่เครือข่ายของระบอบทักษิณถืออยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ เป็นต้น” แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ วิธีการจัดซื้อพยายามจะหลบเลี่ยงวิธีประมูล เพราะต้องการล็อกให้ผู้ติดตั้งก๊าซเอ็นจีวีเป็นการเฉพาะโดยปรับแต่งจากดีเซล ราคานี้ยังไม่รวมการซ่อมบำรุง การใช้งานจะไม่เหมือนรถทั่วไปซึ่งอะไหล่ ความเสียหายจะนำไปสู่การซ่อมแซมเกิดขึ้นแบบไม่มีราคากลาง ไม่มีขีดจำกัด และรั่วไหลต่อไปไม่รู้จบสิ้น
อย่างไรก็ดี กรณีใช้วิธีการเช่าตามความเห็นของคณะกรรมการเดิม หากระบุในทีโออาร์ได้รถใหม่ที่ผลิตจากสหรัฐ เครื่อง Cummins ที่ใช้ CNG Emmission Euro III ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ค่าเช่าพร้อมค่าซ่อมบำรุงและประกันประเภท 3 ไม่เกินคันละ 4,500 บาทต่อคัน เช่า 2,000 คัน เสียค่าเช่า 9 ล้านบาทต่อวัน
ขณะที่รัฐบาลประกาศจะจัดงาน ‘วันล้างทุจริตให้สิ้นแผ่นดินไทย เพื่อเทิดไท้องค์ราชัน’ โดยจะให้ข้าราชการและหน่วยงานรัฐร่วมกันถวายสัตย์ปฎิญาณในวันที่ 6 เม.ย.นี้ ขณะนี้กลับปรากฏกรณีตัวอย่างที่ส่อไปในทางที่ตรงกันข้าม
แหล่งข่าวจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า โครงการจัดหารถโดยสารที่ใช้ก๊าชธรรมชาติเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงส่อไปในทางมีผลประโยชน์ทับซ้อนเชิงทุจริตโดยมีขบวนการจากคนในสมรู้ร่วมคิดกับคนนอก ขสมก.พยายามผลักกันให้มีการเปลี่ยนจากวิธีเช่าเดิมมาเป็นจัดซื้อแทน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ขสมก.ขาดทุนมีหนี้สะสมอยู่กว่า 5 หมื่นล้านบาทจึงจำเป็นต้องปรับปรุงทั้งระบบบริหารภายใน เช่นระบบการเก็บค่าโดยสารให้ได้ตามสมควรไม่รั่วไหล จัดระบบซ่อมบำรุงให้เป็นไปตามจริง รวมถึงจัดหารถใหม่ที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี
โดยที่ประชุมคณะกรรมการตกลงในเบื้องต้นจะใช้วิธีเช่าเพราะไม่ต้องการก่อหนี้เพิ่ม การเช่าพร้อมกับภาระรับผิดชอบซ่อมบำรุงเครื่องยนต์จะเป็นวิธีที่เหมาะสม พร้อมกันนี้ก็รายงานให้ พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทราบเป็นระยะ
“บังเอิญบอร์ดยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า จำนวนคันที่จะเช่านั้นจะเป็นเท่าไหร่ 500 หรือ 800 คันซึ่งผิดจากนโยบายในสมัยรัฐบาลทักษิณที่มีจำนวน 2,000 คันซึ่งส่อเจตนาไม่โปร่งใสคราวนั้นจึงยังไม่” แหล่งข่าวกล่าว
ต่อมา คณะกรรมการได้นัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปและออกทีโออาร์ ในวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมาเพื่อประกาศเชิญชวนนิติบุคคลที่ประสงค์จะให้ขสมก.เช่าเสนอราคาค่าเช่ายื่นซอง แต่ปรากฎว่า ก่อนการประชุม1วัน มีกรรมการผู้มีบทบาทสูงคนหนึ่งได้ให้ผู้ใกล้ชิดจัดพิมพ์และแจกจ่ายให้กรรมการ เสนอให้ ขสมก.จัดซื้อรถใหม่แทนโดยเปรียบเทียบการเช่าว่า การซื้อจะทำให้ผลประกอบการของ ขสมก.ดีกว่าเช่า
การซื้อจะเปลี่ยนเครื่องยนต์จากใช้ดีเซลเป็นเอ็นจีวีจำนวน 1,538 คัน ประมาณการใช้จ่าย 1.5 ล้านบาทต่อคัน รวมเป็นเงิน 2,307 ล้านบาท โดยมีแหล่งเงินที่ ปตท.ให้กู้ 1,773 ล้านบาท(ส่วนต่าง 534 ล้าน ขสมก.จะก่อหนี้เพิ่ม) โดยขอเรียกเก็บเพิ่มจากราคาจำหน่ายก๊าซ 7.40 บาทต่อ กก.(ปกติขายอยู่ที่ 8.50 บาทต่อ กก.รวมเป็น 15.90 บาท) ตามปริมาณการใช้ก๊าซและคิดอัตราดอกเบี้ย 0.50%
“กรรมการท่านนี้พยายามเกลี้ยกล่อมให้กรรมการคนอื่นๆ สนับสนุนวิธีนี้ แถมยังรายงานเท็จอ้างว่าได้หารือสภาพัฒน์มีความเป็นห่วงว่าหากใช้วิธีเช่าจะเข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุนหรือไม่ พฤติกรรมน่าสงสัยมากว่าจะมีผลกระโยชน์ทับซ้อน” แหล่งข่าวกล่าว
กล่าวคือ หากมองผิวเผินการจัดซื้อแล้วดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว ดูเหมือน ขสมก.จะได้ดอกเบี้ยที่ถูกมากจาก ปตท.0.50% แต่เมื่อมีราคาก๊าชที่บวกเพิ่ม 7.40 บาทต่อ กก.ก็จะปรากฏว่าแพงยิ่งกว่าเงินกู้นอกระบบ ดังนี้ รถ 1,538 คัน ประมาณเดินรถในระยะทาง 300 กม.ต่อวันจะใช้ก๊าช 184 กก.ต่อคัน หรือจะต้องใช้ก๊าชรวม 282,992 กก.ต่อวัน หรือ 103,292,080 กก.ต่อปี
ฉะนั้น ขสมก.ต้องจ่าย ปตท.นอกเหนือจากดอกเบี้ย 0.50% ต่อปีแล้ว ยังต้องจ่ายเพิ่มอีก 7.40 บาทต่อกก.บนจำนวนก๊าซที่ใช้ต่อปีเท่ากับ 764,361,392 บาท เทียบเท่า 43.11% ต่อปีของเงินกู้ 1,773 ล้านบาท และเมื่อรวมเข้ากับ 0.50% ก็จะเท่ากับ 43.61% ที่ ขสมก.ต้องให้ผลประโยชน์ ปตท.สูงมาก
เมื่อคำนวณตามระยะสัญญา 5 ปี ขสมก.จะมีภาระต่อ ปตท.สูงถึง 3,821,806,960 บาท เมื่อหักเงินต้น 1,773 ล้านบาท ปตท.จะมีผลประโยชน์ถึง 2,048,806.960 บาท หรือเฉลี่ย 409,761,392 บาทต่อปี
“ดอกเบี้ยโหดมาก ปตท.ก็จะกำไรมหาศาล ซึ่งผู้ถือหุ้นปตท.ก็รู้ๆกันอยู่เครือข่ายของระบอบทักษิณถืออยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ เป็นต้น” แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ วิธีการจัดซื้อพยายามจะหลบเลี่ยงวิธีประมูล เพราะต้องการล็อกให้ผู้ติดตั้งก๊าซเอ็นจีวีเป็นการเฉพาะโดยปรับแต่งจากดีเซล ราคานี้ยังไม่รวมการซ่อมบำรุง การใช้งานจะไม่เหมือนรถทั่วไปซึ่งอะไหล่ ความเสียหายจะนำไปสู่การซ่อมแซมเกิดขึ้นแบบไม่มีราคากลาง ไม่มีขีดจำกัด และรั่วไหลต่อไปไม่รู้จบสิ้น
อย่างไรก็ดี กรณีใช้วิธีการเช่าตามความเห็นของคณะกรรมการเดิม หากระบุในทีโออาร์ได้รถใหม่ที่ผลิตจากสหรัฐ เครื่อง Cummins ที่ใช้ CNG Emmission Euro III ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ค่าเช่าพร้อมค่าซ่อมบำรุงและประกันประเภท 3 ไม่เกินคันละ 4,500 บาทต่อคัน เช่า 2,000 คัน เสียค่าเช่า 9 ล้านบาทต่อวัน