นาย จิม ตัน ผู้อำนวยการการตลาดประจำภูมิภาคเอเชีย กลุ่มฮันเตอร์ ดักลาส ผู้ประกอบการม่านปรับแสง จากเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่า ตลาดม่านปรับแสงในไทยปัจจุบันยังเติบโตต่อเนื่อง แม้ภาวะตลาดอสังหาฯส่วนใหญ่จะชะลอตัว แต่ในกลุ่มลูกค้าที่ปลูกบ้านเอง กลุ่มคอนโดมิเนียมและออฟฟิศกลับมีการขยายตัว อีกทั้งตลาดมีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับมูลค่าของตลาดในประเทศแถบยุโรปและอเมริกาแล้ว มีมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านบาท
ความต้องการม่านปรับแสงที่มีคุณสมบัติพิเศษในประเทศแถบเอเชียยังมีอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่บริษัทฯทำตลาดมานานกว่า 17 ปีแล้ว นางสาวนวลชล ผ่องสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮันเตอร์ ดักลาส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแผนการรุกตลาดว่า จะเน้นสร้างพันธมิตรกับคู่ค้าที่มีศักยภาพในประเทศนั้นๆ ร่วมมือกันทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด และการบริการ พร้อมสนับสนุนพันธมิตรในการเปิด ฮันเตอร์ ดักลาส วินโดว์ แฟชั่นส์ แกลลอรี ซึ่งเป็นศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ สาธิต และบริการลูกค้า
ล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมกับ บริษัท อัลตร้า สกรีน ซิสเทม จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้า ผลิต และจัดจำหน่ายมุ้งระบบม้วนเก็บคุณภาพสูงและม่านปรับแสงรายใหญ่ เปิด ฮันเตอร์ ดักลาส วินโดว์ แฟชั่นส์ แกลลอรี แห่งแรกของเมืองไทย ตั้งอยู่ที่ลาดพร้าว ปีนี้บริษัทฯมีแผนจะขยายเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 8 แห่งทั่วประเทศ และจะขยายให้ได้อย่างน้อย 5-10 แห่งต่อปี
โดยจะพัฒนาจากเอเย่นต์เดิมที่มีอยู่ประมาณ 150 รายทั่วประเทศมาเป็นแกลลอรี่ ลงทุนขั้นต่ำ 5 แสนบาทต่อสาขา เกณฑ์คัดเลือกคือ เอเย่นต์รายนั้นต้องมีผลประกอบการที่ดี เชื่อมั่นในแบรนด์ฮันเตอร์ดักลาส มีทำเลที่ดี ซึ่งในเอเชียมีแล้ว 12 ประเทศรวมไทยด้วยเช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น ปัจจุบันบริษัทฯมีแชร์ประมาณ 10% จากตลาดรวม 1,00 กว่าล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะเติบโต 10%
นายวชิระ ปริญญานุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลตร้า สกรีน ซิสเทม จำกัด ผู้นำเข้า ผลิต และจำหน่ายมุ้งระบบม้วนเก็บคุณภาพสูงและเป็นผู้จัดจำหน่ายม่านปรับแสง กล่าวว่า การร่วมมือครั้งนี้จะสร้างศักยภาพทางการแข่งขันในตลาดม่านปรับแสงให้แก่กันได้มากขึ้น โดยทาง ฮันเตอร์ ดักลาส ได้ให้สิทธิพิเศษหลายด้าน รวมถึงการให้ความรู้และการฝึกอบรม ทั้งในด้านการติดตั้งและการให้บริการแก่ลูกค้า ส่วนตลาดม่านปรับแสงในปีนี้อาจมีการชะลอตัวบ้างแต่คิดว่าน่าจะเป็นระยะสั้น แต่จะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2 คาดว่าตลาดน่าจะโตขึ้นประมาณ 5 – 10% ส่วนสภาพการเมืองและเศรษฐกิจขณะนี้ส่งกระทบกับธุรกิจบ้างแต่ไม่มากนัก ซึ่งเรามีการปรับแผนและกลยุทธ์การตลาดให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น อาทิ เลือกทำกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
ความต้องการม่านปรับแสงที่มีคุณสมบัติพิเศษในประเทศแถบเอเชียยังมีอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่บริษัทฯทำตลาดมานานกว่า 17 ปีแล้ว นางสาวนวลชล ผ่องสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮันเตอร์ ดักลาส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแผนการรุกตลาดว่า จะเน้นสร้างพันธมิตรกับคู่ค้าที่มีศักยภาพในประเทศนั้นๆ ร่วมมือกันทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด และการบริการ พร้อมสนับสนุนพันธมิตรในการเปิด ฮันเตอร์ ดักลาส วินโดว์ แฟชั่นส์ แกลลอรี ซึ่งเป็นศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ สาธิต และบริการลูกค้า
ล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมกับ บริษัท อัลตร้า สกรีน ซิสเทม จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้า ผลิต และจัดจำหน่ายมุ้งระบบม้วนเก็บคุณภาพสูงและม่านปรับแสงรายใหญ่ เปิด ฮันเตอร์ ดักลาส วินโดว์ แฟชั่นส์ แกลลอรี แห่งแรกของเมืองไทย ตั้งอยู่ที่ลาดพร้าว ปีนี้บริษัทฯมีแผนจะขยายเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 8 แห่งทั่วประเทศ และจะขยายให้ได้อย่างน้อย 5-10 แห่งต่อปี
โดยจะพัฒนาจากเอเย่นต์เดิมที่มีอยู่ประมาณ 150 รายทั่วประเทศมาเป็นแกลลอรี่ ลงทุนขั้นต่ำ 5 แสนบาทต่อสาขา เกณฑ์คัดเลือกคือ เอเย่นต์รายนั้นต้องมีผลประกอบการที่ดี เชื่อมั่นในแบรนด์ฮันเตอร์ดักลาส มีทำเลที่ดี ซึ่งในเอเชียมีแล้ว 12 ประเทศรวมไทยด้วยเช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น ปัจจุบันบริษัทฯมีแชร์ประมาณ 10% จากตลาดรวม 1,00 กว่าล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะเติบโต 10%
นายวชิระ ปริญญานุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลตร้า สกรีน ซิสเทม จำกัด ผู้นำเข้า ผลิต และจำหน่ายมุ้งระบบม้วนเก็บคุณภาพสูงและเป็นผู้จัดจำหน่ายม่านปรับแสง กล่าวว่า การร่วมมือครั้งนี้จะสร้างศักยภาพทางการแข่งขันในตลาดม่านปรับแสงให้แก่กันได้มากขึ้น โดยทาง ฮันเตอร์ ดักลาส ได้ให้สิทธิพิเศษหลายด้าน รวมถึงการให้ความรู้และการฝึกอบรม ทั้งในด้านการติดตั้งและการให้บริการแก่ลูกค้า ส่วนตลาดม่านปรับแสงในปีนี้อาจมีการชะลอตัวบ้างแต่คิดว่าน่าจะเป็นระยะสั้น แต่จะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2 คาดว่าตลาดน่าจะโตขึ้นประมาณ 5 – 10% ส่วนสภาพการเมืองและเศรษฐกิจขณะนี้ส่งกระทบกับธุรกิจบ้างแต่ไม่มากนัก ซึ่งเรามีการปรับแผนและกลยุทธ์การตลาดให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น อาทิ เลือกทำกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย


