รอยัล พารากอน ฮอลล์ ใส่เกียร์เดินหน้า ทำแผนการตลาดเชิงรุก เล็งจับมือ สสปน. ร่วมเดินทางโรดโชว์ ในต่างประเทศ ประเดิมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นอันดับแรก ขณะที่พร้อมใช้เวทีการจัดงาน อาเซียนไมซ์ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ หวัง 3-5 ปีข้างหน้า เพิ่มสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศเป็น 50% ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 100 ล้านบาท โตจากปีก่อน7-10%
นายอรุณ เทง ผู้จัดการทั่วไป รอยัล พารากอน ฮอลล์ ผู้ให้บริการพื้นที่เพื่อจัดการประชุมและนิทรรศการ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯจะเริ่มทำตลาดเชิงรุก เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มผู้จัดงานในตลาดต่างประเทศ เป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆให้เข้ามาใช้บริการ โดยมีแผนร่วมเดินทางไปโรดโชว์กับสำนักงานจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.(TCEB) ตลาดเป้าหมายกลุ่มแรกที่บริษัทฯจะมุ่งไป เบื้องต้นจะอยู่ในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อาทิ มาเลเซีย ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง บรูไน ออสเตรเลีย เป็นต้น
ทั้งนี้จุดขายของ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ที่จะนำเสนอให้แก่ลูกค้า คือ โลเกชั่น ที่อยู่ใจกลางเมือง สะดวกเรื่องการเดินทาง และ เป็นแหล่งชอปปิ้ง และ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร ทำให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถท่องเที่ยวหรือ ชอบปิ้ง ได้ทันทีหลังเสร็จงาน นอกจากนั้นเรายังเน้นเรื่องของบริการที่ดี ให้ลูกค้าเกิดความพอใจสูงสุด เช่น การช่วยผู้เช่าพื้นที่ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ หรือ ช่วยเป็นที่ปรึกษา หากลูกค้ามีงบประมาณจำกัด สามารถเข้ามาพูดคุยกันได้ ซึ่งหมายถึงการบริการที่ยืดหยุ่น ทั้งรับจัดงานแบบเป็นแพกเกจ การเช่าพื้นที่เพื่อจัดแสดงสินค้าและนิทรรศการต่างๆ การจัดคอนเสิร์ต ซึ่งแต่ละรูปแบบอัตราค่าบริการย่อมแตกต่างกัน
อย่างไรก็ตามเนื่องจาก รอยัล พารากอน ฮอลล์ มีพื้นที่จำกัด ประมาณ 12,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น 3 ฮอลล์ ใหญ่ และห้องประชุมกลุ่มย่อยอีกเล็กน้อย ความจุ 8,000 คน ดังนั้นลักษณะลูกค้าที่เหมาะกับการเข้ามาใช้บริการ คือ ลิฟวิ่งไลฟสไตล์ ที่เหมาะกับสังคมปัจจุบัน ตลอดจนงานจัดเลี้ยงรับรองกลุ่มผู้เข้าร่วมประชุม และ การจัดประชุมกลุ่มย่อย ที่ต้องการแยกออกจากงานใหญ่ ซึ่ง บริษัทฯเป็นพันธมิตรกับทุกโรงแรมในกรุงเทพ โดยเฉพาะย่านสุขุมวิท และ ราชประสงค์ ในการอำนวยความสะดวกเรื่องการจัดงาน เพราะงานบางอย่างห้องบอลรูมของโรงแรมอาจรองรับไม่เพียงพอ โดยเฉพาะงานประเภท เอ็กซิบิชั่น และ คอนเวนชั่น
ด้านผลการดำเนินงาน ปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้จากการบริหารพื้นที่ศูนย์ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ที่ประมาณ 80- 100 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้ราว 80 ล้านบาท เพียงเล็กน้อย ทั้งนี้เพราะ บริษัทฯเพิ่งเปิดให้บริการปีนี้เป็นปีที่ 2 ดังนั้นจึงอยู่ในช่วงโปรโมต จึงไม่ได้มีการปรับอัตราค่าบริการ ประกอบกับ ต้องการเก็บลูกค้าเก่าให้กลับมาใช้บริการซ้ำอีก จึงมีการให้อินเซนทีฟ แก่ลูกค้าเก่าที่จัดงานเมื่อปีก่อน ขณะเดียวกัน ในส่วนลูกค้าใหม่ ก็มีแพกเกจโปรโมชั่น โดยปีนี้ได้กลุ่มลูกค้าใหม่ประมาณ 10-15% ซึ่งตลอดทั้งปีนี้ พื้นที่ที่ถูกจองแล้วมีประมาณ 80-90% ของพื้นที่ ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ
สำหรับสัดส่วนงานที่จัด ปีนี้ตั้งเป้าสัดส่วนผู้จัดในประเทศ 70% ผู้จัดต่างประเทศ 30% โดยสัดส่วนตลาดต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีอยู่ประมาณ 20% ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าหมายใน 3-5 ปี จะปรับสัดส่วนผู้จัดงานต่างประเทศให้เป็น 50% ส่วนผลประกอบการตั้งเป้าโตเฉลี่ยที่ปีละ 7-10%
อย่างไรก็ตาม จากการเข้าร่วมจัดงาน ASEAN MICE กับทาง สสปน. ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 มีนาคมศกนี้ บริษัทฯจะใช้โอกาสนี้ เปิดตัว บริการของ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้ที่อยู่ในวงการธุรกิจนี้ที่จะเดินทางเข้ามาร่วมงาน ได้รู้จักเรามากขึ้น และยังจะใช้ฐานข้อมูลลูกค้าที่ได้จากงานนี้ มาใช้ประเมินแผนธุรกิจในปีถัดไป เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
นายอรุณ เทง ผู้จัดการทั่วไป รอยัล พารากอน ฮอลล์ ผู้ให้บริการพื้นที่เพื่อจัดการประชุมและนิทรรศการ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯจะเริ่มทำตลาดเชิงรุก เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มผู้จัดงานในตลาดต่างประเทศ เป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆให้เข้ามาใช้บริการ โดยมีแผนร่วมเดินทางไปโรดโชว์กับสำนักงานจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.(TCEB) ตลาดเป้าหมายกลุ่มแรกที่บริษัทฯจะมุ่งไป เบื้องต้นจะอยู่ในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อาทิ มาเลเซีย ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง บรูไน ออสเตรเลีย เป็นต้น
ทั้งนี้จุดขายของ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ที่จะนำเสนอให้แก่ลูกค้า คือ โลเกชั่น ที่อยู่ใจกลางเมือง สะดวกเรื่องการเดินทาง และ เป็นแหล่งชอปปิ้ง และ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร ทำให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถท่องเที่ยวหรือ ชอบปิ้ง ได้ทันทีหลังเสร็จงาน นอกจากนั้นเรายังเน้นเรื่องของบริการที่ดี ให้ลูกค้าเกิดความพอใจสูงสุด เช่น การช่วยผู้เช่าพื้นที่ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ หรือ ช่วยเป็นที่ปรึกษา หากลูกค้ามีงบประมาณจำกัด สามารถเข้ามาพูดคุยกันได้ ซึ่งหมายถึงการบริการที่ยืดหยุ่น ทั้งรับจัดงานแบบเป็นแพกเกจ การเช่าพื้นที่เพื่อจัดแสดงสินค้าและนิทรรศการต่างๆ การจัดคอนเสิร์ต ซึ่งแต่ละรูปแบบอัตราค่าบริการย่อมแตกต่างกัน
อย่างไรก็ตามเนื่องจาก รอยัล พารากอน ฮอลล์ มีพื้นที่จำกัด ประมาณ 12,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น 3 ฮอลล์ ใหญ่ และห้องประชุมกลุ่มย่อยอีกเล็กน้อย ความจุ 8,000 คน ดังนั้นลักษณะลูกค้าที่เหมาะกับการเข้ามาใช้บริการ คือ ลิฟวิ่งไลฟสไตล์ ที่เหมาะกับสังคมปัจจุบัน ตลอดจนงานจัดเลี้ยงรับรองกลุ่มผู้เข้าร่วมประชุม และ การจัดประชุมกลุ่มย่อย ที่ต้องการแยกออกจากงานใหญ่ ซึ่ง บริษัทฯเป็นพันธมิตรกับทุกโรงแรมในกรุงเทพ โดยเฉพาะย่านสุขุมวิท และ ราชประสงค์ ในการอำนวยความสะดวกเรื่องการจัดงาน เพราะงานบางอย่างห้องบอลรูมของโรงแรมอาจรองรับไม่เพียงพอ โดยเฉพาะงานประเภท เอ็กซิบิชั่น และ คอนเวนชั่น
ด้านผลการดำเนินงาน ปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้จากการบริหารพื้นที่ศูนย์ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ที่ประมาณ 80- 100 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้ราว 80 ล้านบาท เพียงเล็กน้อย ทั้งนี้เพราะ บริษัทฯเพิ่งเปิดให้บริการปีนี้เป็นปีที่ 2 ดังนั้นจึงอยู่ในช่วงโปรโมต จึงไม่ได้มีการปรับอัตราค่าบริการ ประกอบกับ ต้องการเก็บลูกค้าเก่าให้กลับมาใช้บริการซ้ำอีก จึงมีการให้อินเซนทีฟ แก่ลูกค้าเก่าที่จัดงานเมื่อปีก่อน ขณะเดียวกัน ในส่วนลูกค้าใหม่ ก็มีแพกเกจโปรโมชั่น โดยปีนี้ได้กลุ่มลูกค้าใหม่ประมาณ 10-15% ซึ่งตลอดทั้งปีนี้ พื้นที่ที่ถูกจองแล้วมีประมาณ 80-90% ของพื้นที่ ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ
สำหรับสัดส่วนงานที่จัด ปีนี้ตั้งเป้าสัดส่วนผู้จัดในประเทศ 70% ผู้จัดต่างประเทศ 30% โดยสัดส่วนตลาดต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีอยู่ประมาณ 20% ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าหมายใน 3-5 ปี จะปรับสัดส่วนผู้จัดงานต่างประเทศให้เป็น 50% ส่วนผลประกอบการตั้งเป้าโตเฉลี่ยที่ปีละ 7-10%
อย่างไรก็ตาม จากการเข้าร่วมจัดงาน ASEAN MICE กับทาง สสปน. ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 มีนาคมศกนี้ บริษัทฯจะใช้โอกาสนี้ เปิดตัว บริการของ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้ที่อยู่ในวงการธุรกิจนี้ที่จะเดินทางเข้ามาร่วมงาน ได้รู้จักเรามากขึ้น และยังจะใช้ฐานข้อมูลลูกค้าที่ได้จากงานนี้ มาใช้ประเมินแผนธุรกิจในปีถัดไป เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย