xs
xsm
sm
md
lg

จีเอ็มเอ็มโกยรายได้6.4พันล. เผยกลุ่มอีเว้นต์เติบโตสูงสุด14%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ เปิดผลประกอบการปี 2549 รายได้ทะลุ 6,427.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นแค่ 1.8% เผยธุรกิจอีเว้นต์เติบโตสูงสุด 14%

รายงานข่าวจาก บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) แจ้งถึงผลประกอบการของบริษัทฯว่า บริษัทฯสามารถทำรายได้รวมปี 2549 เป็นจำนวนเงิน 6,427.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ซึ่งมีรายได้รวม 6,313.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 114 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.8%

ทั้งนี้สัดส่วนของรายได้ทั้งกลุ่มนั้นแบ่งออกเป็น 1. ธุรกิจเพลง 2.มีเดีย 3. ภาพยนตร์ และ4. อื่นๆโดยรายได้แยกตามกลุ่มได้ดังนี้ 1.ธุรกิจเพลง ทำรายได้ 52% ของรายได้รวมคือ 3,348 ล้านบาท สูงกว่าปี 2548 ประมาณ 2% หรือ 54 ล้านบาท แบ่งออกเป็นรายได้จากการจำหน่ายสินค้าในรูปแบบของเทป ซีดี และวีซีดี61% การบริหารศิลปิน13%อีบิซิเนส 11% การบริหารลิขสิทธิ์ 9 % และโชว์บิซ 6% โดยภาพรวมรายได้จาการจำหน่ายสินค้าในรูปแบบของเทป ซีดี และวีซีดี ลดลงไปกว่าปี 2548 เล็กน้อยไม่เกิน 10% แต่รายได้ด้านอื่นเติบโตขึ้น อีบิซิเนสโตขึ้น 8% การบริหารลิขสิทธ์เติบโตขึ้น 12% การบริหารศิลปินเติบโตขึ้น 9% และโชว์บิซเติบโตขึ้น 12%

รายได้ของกลุ่มเพลงนั้นเติบโตขึ้น แม้ว่าไตรมาสสุดท้ายจะเกิดสถานการณ์ไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมืองหลายอย่าง ทั้งนี้เพราะความสำเร็จของการทำ Integrated Marketing ให้กับลูกค้ารายใหญ่ อาทิเช่น MISO,Na Ma Cha ( Green Tea) Toyota Vigo, MAMA, Yamaha นั่นเอง

2.ธุรกิจมีเดีย หรือ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน) เป็น 38% ของรายได้รวมกลุ่ม หรือ 2854.7 ล้านบาท สูงกว่าปี 2548 ซึ่งมีรายได้รวม 2748.6 ล้านบาท ประมาณ106.1 ล้านบาท หรือ 3.9% แบ่งออกเป็นรายได้จากวิทยุ 25% หรือ 718 ล้านบาท โทรทัศน์ 37% หรือ 1149 ล้านบาท อีเว้นต์ 27% หรือ 635 ล้านบาท สิ่งพิมพ์ 11% หรือ 314 ล้านบาท

รายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นมารจากธุรกิจอีเว้นต์ที่เติบโตถึง 14% แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่สงบในช่วงปลายปีอยู่บ้าง สะท้อนว่ากลยุทธ์ตอบโจทย์ลูกค้าทั้ง อะโบพ แอนด์ บีโลว์ เดอะไลน์ สอดคล้องกับความต้องการของสปอนเซอร์อย่างแท้จริง และธุรกิจสิ่งพิมพ์เติบโตขึ้น 8% ตามจำนวนหัวของนิตยสารที่เพิ่มขึ้น

3.ธุรกิจภาพยนตร์ เป็น 4% ของรายได้กลุ่ม หรือ 407 ล้านบาท ซึ่งมีมาร์เก็ตแชร์เป็น อันดับ 2 ของอุตสาหกรรมภาพยนต์ และมีผลงานติด 10 สุดยอดของภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดของปี 2549 ถึง 4 เรื่อง อีกทั้งได้รับรางวัลมากมายทั้งระดับในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้แบรนด์ของภาพยนตร์ในเครือได้รับการยอมรับและสามารถต่อยอดไปทำธุรกิจในต่างประเทศได้ดังเช่นภาพยนตร์เรื่อง แฝด (Alonc) ที่เข้าฉายในปีนี้ก็สามารถจำหน่ายไปได้ถึง 10 ประเทศแล้วก่อนฉายในไทย

สำหรับภาพรวมนั้น นายสิริชัย ตินติพงศ์อนันต์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบัญชีการเงิน กล่าวว่า บริษัทฯพอใจกับผลประกอบการดังกล่าว เนื่องจากเป็นที่ทราบกันว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา บ้านเมืองเกิดเหตุการณ์ไม่เรียบร้อยหลายประการส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจโดยรวมทั้งสังคม แต่เนื่องจากบริษัทมีผลประกอบการในไตรมาส 2 และ 3ดี จึงสามารถทำรายได้ในระดับที่น่าพอใจ นอกจากนั้นโครงการสร้างรายได้ดังกล่าวยังตอกย้ำว่ากลยุทธ์ที่แกรมมี่จะเดินในปี 2550 มาถูกทาง ไม่ว่าจะเป็นรายได้ที่มาจากธุรกิจเพลงมากกว่า 50% การเติบโตของอีบิซิเนส โชว์บิซ และอีเวนต์ การตอบสนองลูกค้าทั้งอะโบฟ แอนด์ บีโลว์ เดอะไลน์ ในที่เดียวกัน เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น