เดอะ พิซซ่า คอมปะนี เดินเครื่องเจาะขยายตลาด ดิลิเวอร์รี่ เต็มสูบ หลังพบอัตราการเติบโตภาพรวมทะยานสู่ 17% ล่าสุดหว่านเม็ดเงินกว่า 140 ล้านบาท เปิดแคมเปญฉลองครบ 6 ปี ประกาศละเลงศึกรับหน้าร้อน
นายแฮนดี้ โฮลแมน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในเครือ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้จัดเตรียมงบประมาณไว้ 140 ล้านบาท เพื่อการเตรียมแผนรุกทำตลาดในรูปแบบการจัดส่งแบบด่วน (ดิลีเวอรรี่) อย่างจริงจังมากขึ้น พร้อมกับการจัดทำแคมเปญ ฉลองครบรอบ 6 ปี ในการขายของบริษัทฯ ภายใต้ แคมเปญ “ซื้อ 1 แถม 1” เสิร์ฟความอร่อยคูณสองถึงมือลูกค้า เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาด
เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดของดิลิเวอร์รี่ เป็นเซ็กเมนต์ที่มีอัตราการเติบโตมากถึง 17 % โดยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 45% ของตลาดพิซซ่าโดยรวม ซึ่งถ้าวิเคราะห์ถึงความพร้อมของตลาด การหันมารุกจับตลาดในกลุ่มนี้บริษัทฯเชื่อว่าจะสามารถตอบไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันที่มีความเร่งรีบมากขึ้น
ทั้งนี้บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายในการขายในโปรโมชั่นนี้ที่จะมีทั้งหมด 17 วันในการจัด จะสามารถกระตุ้นตลาดให้กับกลุ่มลูกค้าได้ตื่นตัวและมียอดการสั่งสูงถึง 1.2 ล้านถาด และส่งต่อให้ยอดของช่วงจัดแคมเปญต้นปี มีอัตราการเติบโตขึ้นได้กว่า 20 %
“การที่เรามุ่งมั่นทำตลาดดิลิเวอร์รี่มากขึ้น นอกจากการตอบรับทุกโจทย์ของกลุ่มลูกค้าที่นิยม ทานอาหารจานด่วนมากขึ้น และอีกส่วนหนึ่งก็เพื่อต้อนรับช่วงซัมเมอร์ที่กำลังจะมาถึง เพราะช่วงนี้จะเป็นช่วงเทศกาลแห่งการจับจ่ายอย่างแท้จริง จึงมี เม็ดเงินที่สะพัดมาก อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อสร้างยอดรายได้ ให้กับบริษัท”
สำหรับกลยุทธ์ในการทำตลาด บริษัทฯจะยังคงมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ เปิดตัวเมนูใหม่ลงสู่ตลาดอย่างน้อย 6 เมนูต่อปี ควบคู่กับการจัดกิจกรรม ขณะเดียวกันบริษัทฯวางแผนจะปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการครองส่วนแบ่ง 80% จากมูลค่าตลาดรวม 4,200 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มตลาดพิซซ่ามูลค่า 4,200 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 15% โดยลูกค้าประจำมีพฤติกรรมการรับประทาน 1 ครั้งต่อเดือน และลูกค้าไม่ประจำรับประทาน 3 เดือนต่อ 1-2 ครั้ง แบ่งเป็น การรับประทานที่ร้าน 40% ดิลิเวอรี่ 45% และกลับบ้าน 15% ซึ่งในปีที่ผ่านมาเดอะพิซซ่า มีอัตราการเติบโต 29% สูงกว่าปีที่ผ่านๆมา และสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้คือโต 12% โดยบริษัทฯมียอดขายกว่า 3,000 ล้านบาท สำหรับสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา