“เมเจอร์โบว์ล กรุ้ป” เตรียมเปิด “ซับ ซีโร่” ไอซ์ สเก็ต คลับ แห่งใหม่สไตล์บูทีคที่เอสพละนาด ชูจุดเด่นไอซ์สเก็ตเรืองแสง พร้อมทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท สร้างแบรนด์และรุกตลาดครบวงจร ตั้งเป้าปีแรกคนใช้บริการ 200,000 คน ทำรายได้รวมกว่า 40 ล้านบาท
นายอาทร เตชะตันติวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เมเจอร์โบว์ล กรุ้ป จำกัด ผู้ดำเนินโครงการ “ซับ ซีโร่” (Sub-Zero) ไอซ์สเก็ตคลับ ที่ ชั้น 4 เอสพละนาด ถนนรัชดา เปิดเผยว่า บริษัทฯจะเปิดให้บริการ “ซับ ซีโร่”อย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคมนี้ หลังจากได้ใช้งบในการลงทุนในโครงการฯนี้ถึงกว่า 50 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำของศูนย์รวมกีฬาเพื่อความบันเทิง (Sport Entertainment) ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทันสมัยของลูกค้าในปัจจุบัน
ในส่วนของพื้นที่ทั้งหมดของ “ซับ ซีโร่” ไอซ์สเก็ตคลับ มีขนาดรวมถึง 1,622.5 ตารางเมตร จัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 โซน คือ 1.“ซับ ซีโร่ ไอซ์สเก็ต” ลานไอซ์สเก็ตเรืองแสงขนาด 682 ตารางเมตร 2.“ ไอซ์ คาราโอเกะ” ห้องคาราโอเกะ 4 ห้อง จอ LCD 42 นิ้ว 3. “ไอซ์บาร์” 4.“ไอซ์สเก็ตคลาส” 5. ไอซ์ ลีฟวิ่ง แอเรีย
สำหรับจุดเด่นของ “ซับ ซีโร่” คือ เป็นไอซ์สเก็ตคลับ ที่มีคอนเซ็ปต์รวมที่สุดของความเท่ห์ (Cool) ทุกสิ่งไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสุดยอดลานไอซ์สเก็ตเรืองแสงที่งดงามเหนือคำบรรยายด้วยพาโนรามิค วิว สามารถมองเห็นทิวทัศน์ใจกลางเมืองบนถนนรัชดาในมุมมองไร้ขอบเขต ให้คุณได้เล่นกีฬาสนุกสุดฮิป อย่างไอซ์สเก็ต ภายใต้บรรยากาศที่เย็นสุดขั้ว พร้อมไอซ์ บาร์ บาร์สุดคูลที่จะฟรีซความสุขและเครื่องดื่มของคุณให้เย็นฉ่ำตลอดเวลา และสุดยอด D.J. Spin ที่พร้อมมอบความสนุกของเสียงเพลงฮิต
นายอาทร กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายจะเน้นขยายฐานลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มครอบครัว วัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา ด้านกลยุทธ์ทางการตลาด ในปีแรกบริษัทฯ จะใช้งบด้านการตลาดรวมกว่า 20 ล้านบาท เพื่อที่จะใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์สร้างแบรนด์และดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายมาใช้บริการ ด้านกิจกรรมทางการตลาด บริษัทฯมีแผนจัดกิจกรรมการตลาดและจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเปิดให้เช่าพื้นที่จัดกิจกรรม โดยมีบริการจัดเลี้ยง จัดอีเวนต์และจัดปาร์ตี้ส่วนตัวบนลานน้ำแข็ง นอกจากนี้จะมีแผนที่จะนำเสนอกิจกรรมในรูปแบบใหม่อีกจำนวนมาก ในปีแรกคาดว่าจะมีผู้เข้ามาใช้บริการใน “ซับ ซีโร่” จำนวน 200,000 คน แบ่งเป็นกลุ่ม Teen อายุ 6-15 ปี สัดส่วนประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่ม Youngster อายุ 16-25 ปี อีกประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ในปีนี้รวมกว่า 40 ล้านบาท