“เกริกไกร จีระแพทย์” เผย ผลเยือนตูนิเซียประสบความสำเร็จเกินคาด รับออเดอร์เอกชนสั่งซื้อข้าวไทยแล้ว 150,000 ตัน ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันเป็น 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 3 ปี ขณะที่ทางอินโดนีเซียสั่งซื้อข้าวไทยแบบรัฐต่อรัฐ อีกไม่ต่ำกว่า 200,000 ตัน ด้านยอดส่งออกข้าวช่วงเกือบ 2 เดือน กว่า 1 ล้านตันแล้ว
นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากการนำคณะเยือนประเทศตูนิเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มในประเทศแอฟริกาเหนือ ว่า จากการเข้าพบนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมตูนิเซีย ทั้ง 2 ฝ่าย มองว่า น่าจะสามารถขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้ในอนาคต ปัจจุบันไทยส่งออกสินค้าไปตูนิเซีย ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค ข้าว ผลไม้ ที่ผ่านมากว่า 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปตูนิเซียถึง 68 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ไทยนำเข้าจากตูนิเซียเพียง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเท่านั้น และได้มีการประชุมตั้งเป้าหมายว่าจะขยายการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยในส่วนของการค้าภายในปี 2010 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า มูลค่าการค้าระหว่างกันจะเพิ่มเป็น 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถขยายมูลค่าการค้าได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ยังได้เป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงระหว่างภาคเอกชนไทย และภาคเอกชนตูนิเซีย ในการสั่งซื้อข้าว โดยเอกชนตูนิเซียได้ตกลงซื้อข้าวจากเอกชนไทย จำนวน 150,000 ตัน และยังได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการส่งออกทั้ง 2 ประเทศ และเอกชนทั้ง 2 ฝ่าย ยังได้เห็นชอบจัดตั้งสภาธุรกิจไทยและตูนิเซียขึ้นมา รวมถึงขยายความร่วมมือด้านอื่นๆ อีกด้วย
นายเกริกไกร กล่าวอีกว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การจัดซื้อสินค้าแห่งอินโดนีเซีย หรือกลุ่มบูล็อก ได้ตกลงที่จะซื้อข้าวไทยแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) แล้ว จำนวน 200,000 ตัน โดยเป็นข้าวขาว 15% ซึ่งจะมีการส่งมอบระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ปีนี้ ซึ่งเป็นการขายข้าวสูงกว่าราคาตลาด อยู่ที่ 309 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ทำให้ขณะนี้รัฐบาลสามารถขายข้าวแบบจีทูจีแล้วไม่ต่ำกว่า 400,000 ตัน และคาดว่า จะเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน
สำหรับการส่งข้าวออกต่างประเทศในระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 19 กุมภาพันธ์ 2550 ไทยสามารถส่งออกข้าวได้แล้วทั้งสิ้น 1,005,000 ตัน คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 379 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยราคาเฉลี่ยสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 19 หากคิดเป็นปริมาณสูงขึ้น ร้อยละ 10.89 จึงเชื่อว่า การส่งออกข้าวในปีนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 8.5 ล้านตัน ได้
นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากการนำคณะเยือนประเทศตูนิเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มในประเทศแอฟริกาเหนือ ว่า จากการเข้าพบนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมตูนิเซีย ทั้ง 2 ฝ่าย มองว่า น่าจะสามารถขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้ในอนาคต ปัจจุบันไทยส่งออกสินค้าไปตูนิเซีย ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค ข้าว ผลไม้ ที่ผ่านมากว่า 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปตูนิเซียถึง 68 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ไทยนำเข้าจากตูนิเซียเพียง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเท่านั้น และได้มีการประชุมตั้งเป้าหมายว่าจะขยายการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยในส่วนของการค้าภายในปี 2010 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า มูลค่าการค้าระหว่างกันจะเพิ่มเป็น 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถขยายมูลค่าการค้าได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ยังได้เป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงระหว่างภาคเอกชนไทย และภาคเอกชนตูนิเซีย ในการสั่งซื้อข้าว โดยเอกชนตูนิเซียได้ตกลงซื้อข้าวจากเอกชนไทย จำนวน 150,000 ตัน และยังได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการส่งออกทั้ง 2 ประเทศ และเอกชนทั้ง 2 ฝ่าย ยังได้เห็นชอบจัดตั้งสภาธุรกิจไทยและตูนิเซียขึ้นมา รวมถึงขยายความร่วมมือด้านอื่นๆ อีกด้วย
นายเกริกไกร กล่าวอีกว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การจัดซื้อสินค้าแห่งอินโดนีเซีย หรือกลุ่มบูล็อก ได้ตกลงที่จะซื้อข้าวไทยแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) แล้ว จำนวน 200,000 ตัน โดยเป็นข้าวขาว 15% ซึ่งจะมีการส่งมอบระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ปีนี้ ซึ่งเป็นการขายข้าวสูงกว่าราคาตลาด อยู่ที่ 309 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ทำให้ขณะนี้รัฐบาลสามารถขายข้าวแบบจีทูจีแล้วไม่ต่ำกว่า 400,000 ตัน และคาดว่า จะเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน
สำหรับการส่งข้าวออกต่างประเทศในระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 19 กุมภาพันธ์ 2550 ไทยสามารถส่งออกข้าวได้แล้วทั้งสิ้น 1,005,000 ตัน คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 379 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยราคาเฉลี่ยสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 19 หากคิดเป็นปริมาณสูงขึ้น ร้อยละ 10.89 จึงเชื่อว่า การส่งออกข้าวในปีนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 8.5 ล้านตัน ได้