xs
xsm
sm
md
lg

ขายตรงบูมสวนเศรษฐกิจแย่ คนแห่เป็นนักขายหารายได้กู้ชีวิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดขายตรงเติบโต ภายใต้เศรษฐกิจไม่ดี ชี้คนแห่สมัครเป็นนักขายอิสระเพียบ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด นูสกสินเผยนักขายอิสระเพิ่มกว่า 35% ส่วนจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น 20% มั่นใจปีนี้เติบโต 10% จากปีที่แล้วที่ทำยอดได้ 1,200 ล้านบาท

นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์
นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นูสกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดีในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ธุรกิจขายตรงได้รับความสนใจมากขึ้นจากผู้บริโภคที่ต้องการหารายได้เสริมและบางคนก็ทำเพื่อเป็นอาชีพหลัก โดยเฉพาะทั้งในส่วนของการสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกซื้อสินค้ารวมทั้งการสมัครเป็นนักขายอิสระด้วย จากกลุ่มคนอายุ 25-40 ปีมากที่สุด และพบว่า คนต่างจังหวัดหันมาสมัครเป็นสมาชิกและนักขายอิสระเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากต้องการหารายได้เข้ามาเสริมในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี

โดยพบว่า ปีที่แล้ว ตัวเลขสิ้นสุดปี 2549 จำนวนนักขายอิสระระดับผู้นำของนูสกินมีประมาณ 30,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นมามากถึง 35% แบ่งเป็นอยู่ในกรุงเทพฯ สัดส่วน 70% และต่างจังหวัด 30% ขณะที่จำนวนสมาชิกมีประมาณ 230,000 ราย แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 70% และต่างจังหวัด 30% เพิ่มขึ้นมาประมาณ 20% โดยสมาชิกและนักขายนั้นปัจจุบันพบว่าเป็นผู้หญิงกับผู้ชายในอัตราส่วนใกล้เคียงกันแล้ว โดยในช่วง 10 ปีที่เปิดบริการในไทยมา บริษัทฯได้จ่ายค่าคอมมิชชั่นไปแล้วรวมไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท

ในส่วนสมาชิก 230,000 รายนั้น มีประมาณ 30% ที่เป็นกลุ่มแอคทีฟมีการซื้อสินค้าใช้ประจำอย่างต่อเนื่อง นอกนั้นก็มีซื้อสินค้าบ้างแต่ไม่ได้ประจำหรือนานๆซื้อครั้ง

ทั้งนี้พบว่า การที่นักขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯมีผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากช่องทางการจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง โดยในปีที่แล้วบริษัทฯมีรายได้ประมาณ 1,200 ล้านบาท เติบโต 10% จากปี 2548 ที่มีรายได้ประมาณ 1,100 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2550 นี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 10% เช่นเดียวกัน และคาดว่านักขายอิสระจะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

นางภคพรรณกล่าวต่อว่า ผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,200 ล้านบาทนั้น สัดส่วนรายได้มาจาก กลุ่ม อาหารเสริมมากถึง 70% และกลุ่มคอสเมติกส์ สกินแคร์ 40% ซึ่ง คาดว่าในปีนี้สัดส่วนรายได้ยังคงเหมือนเดิม ซึ่งตลาดอาหารเสริมเป็นตลาดที่มีการเติบโตดี แต่ก็มีการแข่งขันที่รุนแรงเช่นกัน

ทั้งนี้ปีนี้บริษัทฯยังไม่มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่มากนัก แต่จะเป็นการเสริมไลน์ในสินค้าเดิมเป็นหลัก เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง โดยปัจจุบัน กลุ่มอาหารเสริมแบรนด์ ฟาร์มาเน็กซ์ มีประมาณ 18 รายการ ส่วนกลุ่มคอสเมติกส์ สกินแคร์มี แบรนด์นูสกิน ประมาณ 150 รายการ โดยสินค้าเรือธงคือ วิตะมินเกลือแร่ ที่เปิดตัวมา 8 ปี ขณะนี้ทำรายได้คิดเป็น 40% จากยอดขายรวมทั้งบริษัทฯ

ส่วนแผนการลงทุนใหญ่ๆในปีนี้คาดว่าจะไม่มีมากนัก ส่วนศูนย์กระจายสินค้าปีนี้คาดว่าจะไม่มีการเปิดเพิ่ม จากปัจจุบันที่มีประมาณ 11 ศูนย์ ซึ่งเพิ่งรีโนเวตไปเสร็จคือ หาดใหญ่ เชียงใหม่ เป็นต้น

ขณะเดียวกันศูนย์ที่เอสซีบีปาร์คนั้น บริษัทฯได้รีโนเวตใหม่ พร้อมทั้งการเปิดตัวครั้งแรกและแห่งแรกของนูสกินคือ “นูสกิน โปรเฟสชันแนล บิวตี้ เซ็นเตอร์” ซึ่งจะเป็นศูนย์สำหรับการทำทรีทเมนท์ผิวหหน้าและผิวกาย บนชั้นที่ 15 ของเอสซีบีปาร์ค ใช้งบลงทุน 2 ล้านกว่าบาท พื้นที่ไม่มาก ซึ่งจะใช้เป็นศูนย์สำหรับการให้ผู้บริโภคได้เข้ามาทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ด้วย มีห้องบริการต่างๆ ครบครัน รวมทั้งยังเป็นช่องทางในการสร้างแบรนด์และภาพลักษณ์ได้ด้วย ส่วนค่าบริการนั้นก็ไม่แพงเพราะไม่ได้ต้องการกำไรจากตรงนี้เป็นหลัก โดยมีราคาเป็นคอร์ส เช่น 300 บาท 500 บาท และ 2,000 กว่าบาท เป็นต้น จะทดลองในช่วง 6 เดือนนี้หากได้รับการตอบรับที่ดีก็มีแผนจะเปิดเพิ่มด้วย

สำหรับแผนการทำตลาดปีนี้ จะใช้งบประมาณ 5% จากยอดขาย และอีก 5% เป็นงบทางด้านการให้รางวัลตอบแทนกับนักขาย ซึ่งส่าสุดเมื่อปีที่แล้ว ได้พานักขายที่ทำได้ตามเป้าหมายกว่า 300 คนไปเที่ยวที่ประเทศฝรั่งเศส และยังเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีของบริษัทฯที่เปิดกิจการในไทยด้วย

นอกจากนั้นในปีนี้คาดว่าจะเริ่มเปิดตัวบริการใหม่คือ เว็บไซต์ www.maxcast.com เป็นเว็บไซต์ของบริษัทแม่ที่ประเทศอเมริกา เป็นเว็บไซต์ที่ให้ผู้บริโภคเปิดไปเพื่อทราบเรื่องราวต่างๆ ตลอดจนสินค้า เป็นสื่อที่ช่วยสนับสนุนเรื่องการบริการมากกว่าการสร้างยอดขาย
กำลังโหลดความคิดเห็น