บางกอกฟิล์มปีนี้ส่อแววไม่คึกคัก

งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปีนี้ส่อแววไม่คึกคัก เลื่อนจัดช่วงเดือนกรกฎาคม ซ้ำร้ายงบประมาณถูกตัดลง เหลือแค่ 80 ล้านบาท ดาราดังอาจจะมาร่วมน้อยลง รวมทั้งการซื้อขายหนังอาจไม่คึกคัก

นายชัยวัฒน์ ทวีวงศ์แสงทอง นายกสมาคม สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ในปีนี้การจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ กรุงเทพฯ ประจำปี 2550 ครั้งที่ 5 หรือ BKKIFF 2007 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-29 กรกฎาคม 2550 ที่โรงภาพยนตร์เอสเอฟเวิลด์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งการจัดงานในปีนี้อาจจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบรวมทั้งกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งผู้ที่จะมาร่วมงานโดยเฉพาะดาราดัง ไม่เหมือนที่ผ่านมาบ้าง

เนื่องจากปัญหาใหญ่คือ งบประมาณการจัดงานในปีนี้ มีเพียงแค่ 80 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถูกตัดลดลงจากปีที่แล้วที่ใช้ประมาณ 130 ล้านบาท ทำให้การดำเนินงานอาจจะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเชิญแขกเหรื่อต่างประเทศเช่นกัน เพราะว่าแต่เดิมนั้นคณะกรรมการฯจัดงาน จะเป็นผู้รับผิดชอบออกค่าใช้จ่ายการเดินทางและค่าที่พักให้กับแขกที่เชิญมาเช่น ผู้กำกับ นักแสดง ต่างประเทศ เป็นต้น แต่คราวนี้คงไม่สามารถทำได้เช่นเดิม หรืออาจจะไม่ได้ทุกคน

ส่วนบรรยากาศการซื้อขายหนังในปีนี้ในงานคาดว่าคงจะไม่คึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากว่า ผู้ซื้อและผู้ขายหนัง ได้ผ่านเวทีการซื้อขายระดับใหญ่ไปก่อนหน้านี้แล้ว เช่น เทศกาลหนังเมืองคานส์ เป็นต้น คาดว่าปีนี้จะมีเม็ดเงินสะพัดในการซื้อขายหนังในงานประมาณ 30-40 ล้านบาทเท่านั้น จากช่วงเวลาของฟิล์มมาร์ทในงานประมาณ 3 วัน

ปีนี้ทางสมาคมฯจะรับผิดชอบในการเชิญผู้ที่จะมาร่วมงานทั้งผู้ซื้อและผู้ขายประมาณ 100 ราย ซึ่งคาดว่าน่าจะมากกว่าาช่วงปี 2548 ที่สมาคมฯเชิญมาได้ประมาณ 50-60 ราย ส่วนปีที่แล้วที่ทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นคนเชิญนั้นมีมาประมาณ 100 กว่าราย

นายสุรพล เศวตเศรณี รองผู้ว่าการ ด้านการสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. กล่าวว่า ปีนี้พันธมิตรร่วมจัดงานประกอบด้วย โรงภาพยนตร์เครือเอสฟกรุ๊ป บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ และททท. ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมแล้ว โดยจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนศิลปะภาพยนตร์ โดยกิจกรรมหลักประกอบด้วยการคัดเลือกภาพยนตร์คุณภาพจากทั่วโลกมาฉาย การเผยแพร่ความพร้อมเทคโนโลยี และการซื้อขายหนัง เป็นต้น

โดยหนังที่จะฉายในช่วงเปิดงานจะเป็นหนังไทย แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าจะเป็นเรื่องใด ส่วนหนังที่ฉายปิดงานเป็นหนังต่างประเทศ

อย่างไรก็ตามในปีนี้ได้เลื่อนการจัดงานออกไปเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม จากเดิมที่ช่วงผ่านมาได้จัดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากว่า ช่วงเวลาเดิมนั้นจะใกล้เคียงกับการจัดงานใหญ่ๆทางด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เช่นที่เบอร์ลิน เป็นต้น ทำให้ผู้ที่มาร่วมงานนั้นจะไม่มาก และจะซ้ำซ้อนกับงานที่เบอร์ลินและที่อื่นๆที่เพิ่งเริ่มไป

อย่างไรก็ตามแม้ว่าช่วงเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงโลว์ซีซันของไทยก็ตาม แต่ว่าการจัดงานดังกล่าวก็น่าจะส่งเสริมแะละสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวได้บ้าง รวมทั้งสร้างเม็ดเงินให้สะพัดได้บ้างเช่นกัน