ไทยเอเชีย แปซิฟิค ดิ้นรับพิษเศรษฐกิจชะลอตัว-ปรับภาษี กระทบตลาดน้ำเมาปีนี้หดตัวลงรอบ 5 ปี อัดฉีดงบกว่า 500 ล้านบาท เดินเกมรักษายอดขาย-แชร์ โหนกลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง ครีเอท ดีมานต์ทะลวงคอเบียร์ เท 10 ล้านบาท ส่งโครงการ ”ไฮเนเก้น พาร์ 73 ปาร์ตี้” เปิดบริการจัดแข่งขันกอล์ฟ-ปาร์ตี้ครั้งแรกของโลกในประเทศไทย สิ้นปียอดขายรวม 7,000 ล้านบาท แชร์รวม 5%
นายปิย สมุทรโคจร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด – เบียร์ไฮเนเก้น บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น เป็นต้น เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดปีนี้บริษัทมุ่งเน้นรักษาส่วนแบ่งซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 5% จากตลาดเบียร์โดยรวมมูลค่า 95,800ล้านบาท และรักษายอดขายไว้ที่ 7,000 ล้านบาทเป็นหลัก เนื่องจากมองว่าแนวโน้มตลาดเบียร์ปีนี้คาดว่าจะหดตัวลง โดยเฉพาะเบียร์พรีเมียมมูลค่า 7,300 ล้านบาท คาดว่าจะหดตัวลงอีกหลังจากเมื่อปีที่ผ่านมาหดตัวลง8%
ส่วนเบียร์สแตนดาร์ดมูลค่า 10,490 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าหดตัวลงเช่นกันจากปีที่ผ่านมาโต 5% ขณะที่เบียร์อีโคโนมี่มูลค่า 78,040 ล้านบาท จะเป็นเพียงเซกเมนต์เดียวที่มีการเติบโตในปีนี้ จากเมื่อปีที่ผ่านมาโต 19% สืบเนื่องจากเบียร์ลีโอมีอัตราการเติบโตสูงถึง 56%
“นับว่าเป็นรอบ 5 ปีที่ภาวะตลาดเบียร์หดตัวลง ตั้งแต่ปี 2545 ภาวะตลาดเบียร์เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจากปี 61,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 73,200ล้านบาท ในปี 2546 และเพิ่มเป็น 82,000 ล้านบาทในปี 2547 ขณะที่ปี 2548 ตลาดทรงตัว และปี 2549 ตลาดเบียร์โต 16% มูลค่าขยับเป็น 95,800 ล้านบาท”
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้ตลาดเบียร์ปีนี้หดตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ พฤติกรรมของผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้ยอดขายผ่านช่องทางออนพรีมิส หรือสถาบันเทิง ผับ บาร์ และร้านอาหารลดลง รวมไปถึงปัจจัยลบความไม่แน่นอนมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากทางภาครัฐ โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างภาษีเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีผลทำให้ตลาดเบียร์มีแนวโน้มหดตัวลงอีก
เปิดบริการจัดแข่งกอล์ฟ-ปาร์ตี้
นายปิย กล่าวถึงแผนการตลาดเบียร์ไฮเนเก้น ซึ่งเป็นสินค้าเรือธงของบริษัทว่า ปีนี้ได้ทุ่มงบมากกว่า 500ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในการทำตลาด แบ่งเป็น อะโบฟเดอะไลน์ 60% โดยจะเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่เดือนพฤษภาคม นี้ และบีโลว์เดอะไลน์ 40% ซึ่งบริษัทยังมุ่งเน้นกลยุทธ์มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง และสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง ภายใต้การจัดกิจกรรม 10รายการ อาทิ แจ๊ซ เฟสติวัล สปอนเซอร์ ยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก แคมเปญระดับโกลเบิ้ล และกิจกรรมสำคัญ คือ การจัดแข่งขัน ไฮเนเก้น กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 แล้ว
ล่าสุดทุ่ม 10 ล้านบาท เปิดโครงการ ”ไฮเนเก้น พาร์ 73 ปาร์ตี้” บริการจัดแข่งขันกอล์ฟและจัดปาร์ตี้หลังจากจบการแข่งขันครั้งแรกของโลกในประเทศไทย โดยมีการจัดทีมงาน เจ้าหน้าที่ต้อนรับ การจัดโปร และเบียร์บริการ 144 กระป๋อง,เบียร์สดไฮเนเก้น 3 ถัง เป็นต้น โดยคิดอัตราการค่าบริการครั้งและ 2 หมื่นบาท ทั้งนี้โครงการดังกล่าวอยู่ในแผนระยะยาวที่จะทำอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเป้าหมายของการจัดโครงการไฮเนเก้น พาร์ 73 ปาร์ตี้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตราสินค้าให้กับกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้เล่นกีฬากอล์ฟซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สอดคล้องกับตำแหน่งของไฮเนเก้นเบียร์ระดับพรีเมียม ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าที่เป็นสมาชิกชมรม และสโมสรร่วม 100 แห่ง บริษัทตั้งเป้าการจัดการแข่งขันกอล์ฟและปาร์ตี้ 30 รายการในปีแรก
ภาวะตลาดเบียร์สดคิดเป็นสัดส่วน 1-2% จากมูลค่า 95,800 ล้านบาท นับว่าเป็นตลาดที่เล็กมากแต่ก็เป็นตลาดที่มีศักยภาพ ซึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ดื่มเบียร์สด จะดื่มในงานปาร์ตี้เป็นส่วนใหญ่ ที่ผ่านมามีคู่แข่งบางรายจัดทำแคเทอริ่งหรือเปิดบริการจัดตามงานเช่นกัน นับว่าเป็นความพยายามของผู้ประกอบการ ที่ต้องการสร้างพฤติกรรมการดื่มเบียร์สด นอกเหนือจากเทศกาลลานเบียร์และตามร้านอาหาร
เดินหน้าปั้นไทเกอร์-เชียร์แจ้งเกิด
นายปิย กล่าวว่า สำหรับเบียร์ไทเกอร์ปีนี้บริษัทจะใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง หรือการสนับสนุนฟุตบอล ไทเกอร์ คัพ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากปัจจุบันการรับรู้ภายใต้แบรนด์ไทเกอร์มีน้อยมาก โดยปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่ง 4% สิงห์ 94.5% ช้างไลท์ 1% และบลูไอซ์ 0.5% ส่วนเบียร์เชียร์เน้นกระจายสินค้าผ่านช่องทางจำหน่ายลงลึกระดับรากหญ้ามากขึ้น เพราะเป็นเบียร์ระดับอีโคโนมี่ สำหรับเบียร์เชียร์ปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่ง 0.5% ส่วนผู้นำตลาดเบียร์ช้างครองส่วนแบ่ง 56% ลีโอ 40% และอาชา 2% ส่วนไฮเนเก้นผู้นำตลาดเบียร์พรีเมียมครองส่วนแบ่ง 93% อาซาฮี 2% ซานมิเกล 2% และคลอสเตอร์ 1%
นายปิย สมุทรโคจร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด – เบียร์ไฮเนเก้น บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ไฮเนเก้น เป็นต้น เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดปีนี้บริษัทมุ่งเน้นรักษาส่วนแบ่งซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 5% จากตลาดเบียร์โดยรวมมูลค่า 95,800ล้านบาท และรักษายอดขายไว้ที่ 7,000 ล้านบาทเป็นหลัก เนื่องจากมองว่าแนวโน้มตลาดเบียร์ปีนี้คาดว่าจะหดตัวลง โดยเฉพาะเบียร์พรีเมียมมูลค่า 7,300 ล้านบาท คาดว่าจะหดตัวลงอีกหลังจากเมื่อปีที่ผ่านมาหดตัวลง8%
ส่วนเบียร์สแตนดาร์ดมูลค่า 10,490 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าหดตัวลงเช่นกันจากปีที่ผ่านมาโต 5% ขณะที่เบียร์อีโคโนมี่มูลค่า 78,040 ล้านบาท จะเป็นเพียงเซกเมนต์เดียวที่มีการเติบโตในปีนี้ จากเมื่อปีที่ผ่านมาโต 19% สืบเนื่องจากเบียร์ลีโอมีอัตราการเติบโตสูงถึง 56%
“นับว่าเป็นรอบ 5 ปีที่ภาวะตลาดเบียร์หดตัวลง ตั้งแต่ปี 2545 ภาวะตลาดเบียร์เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจากปี 61,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 73,200ล้านบาท ในปี 2546 และเพิ่มเป็น 82,000 ล้านบาทในปี 2547 ขณะที่ปี 2548 ตลาดทรงตัว และปี 2549 ตลาดเบียร์โต 16% มูลค่าขยับเป็น 95,800 ล้านบาท”
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้ตลาดเบียร์ปีนี้หดตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ พฤติกรรมของผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้ยอดขายผ่านช่องทางออนพรีมิส หรือสถาบันเทิง ผับ บาร์ และร้านอาหารลดลง รวมไปถึงปัจจัยลบความไม่แน่นอนมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากทางภาครัฐ โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างภาษีเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีผลทำให้ตลาดเบียร์มีแนวโน้มหดตัวลงอีก
เปิดบริการจัดแข่งกอล์ฟ-ปาร์ตี้
นายปิย กล่าวถึงแผนการตลาดเบียร์ไฮเนเก้น ซึ่งเป็นสินค้าเรือธงของบริษัทว่า ปีนี้ได้ทุ่มงบมากกว่า 500ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในการทำตลาด แบ่งเป็น อะโบฟเดอะไลน์ 60% โดยจะเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่เดือนพฤษภาคม นี้ และบีโลว์เดอะไลน์ 40% ซึ่งบริษัทยังมุ่งเน้นกลยุทธ์มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง และสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง ภายใต้การจัดกิจกรรม 10รายการ อาทิ แจ๊ซ เฟสติวัล สปอนเซอร์ ยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก แคมเปญระดับโกลเบิ้ล และกิจกรรมสำคัญ คือ การจัดแข่งขัน ไฮเนเก้น กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 แล้ว
ล่าสุดทุ่ม 10 ล้านบาท เปิดโครงการ ”ไฮเนเก้น พาร์ 73 ปาร์ตี้” บริการจัดแข่งขันกอล์ฟและจัดปาร์ตี้หลังจากจบการแข่งขันครั้งแรกของโลกในประเทศไทย โดยมีการจัดทีมงาน เจ้าหน้าที่ต้อนรับ การจัดโปร และเบียร์บริการ 144 กระป๋อง,เบียร์สดไฮเนเก้น 3 ถัง เป็นต้น โดยคิดอัตราการค่าบริการครั้งและ 2 หมื่นบาท ทั้งนี้โครงการดังกล่าวอยู่ในแผนระยะยาวที่จะทำอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเป้าหมายของการจัดโครงการไฮเนเก้น พาร์ 73 ปาร์ตี้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตราสินค้าให้กับกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้เล่นกีฬากอล์ฟซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สอดคล้องกับตำแหน่งของไฮเนเก้นเบียร์ระดับพรีเมียม ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าที่เป็นสมาชิกชมรม และสโมสรร่วม 100 แห่ง บริษัทตั้งเป้าการจัดการแข่งขันกอล์ฟและปาร์ตี้ 30 รายการในปีแรก
ภาวะตลาดเบียร์สดคิดเป็นสัดส่วน 1-2% จากมูลค่า 95,800 ล้านบาท นับว่าเป็นตลาดที่เล็กมากแต่ก็เป็นตลาดที่มีศักยภาพ ซึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ดื่มเบียร์สด จะดื่มในงานปาร์ตี้เป็นส่วนใหญ่ ที่ผ่านมามีคู่แข่งบางรายจัดทำแคเทอริ่งหรือเปิดบริการจัดตามงานเช่นกัน นับว่าเป็นความพยายามของผู้ประกอบการ ที่ต้องการสร้างพฤติกรรมการดื่มเบียร์สด นอกเหนือจากเทศกาลลานเบียร์และตามร้านอาหาร
เดินหน้าปั้นไทเกอร์-เชียร์แจ้งเกิด
นายปิย กล่าวว่า สำหรับเบียร์ไทเกอร์ปีนี้บริษัทจะใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง หรือการสนับสนุนฟุตบอล ไทเกอร์ คัพ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากปัจจุบันการรับรู้ภายใต้แบรนด์ไทเกอร์มีน้อยมาก โดยปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่ง 4% สิงห์ 94.5% ช้างไลท์ 1% และบลูไอซ์ 0.5% ส่วนเบียร์เชียร์เน้นกระจายสินค้าผ่านช่องทางจำหน่ายลงลึกระดับรากหญ้ามากขึ้น เพราะเป็นเบียร์ระดับอีโคโนมี่ สำหรับเบียร์เชียร์ปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่ง 0.5% ส่วนผู้นำตลาดเบียร์ช้างครองส่วนแบ่ง 56% ลีโอ 40% และอาชา 2% ส่วนไฮเนเก้นผู้นำตลาดเบียร์พรีเมียมครองส่วนแบ่ง 93% อาซาฮี 2% ซานมิเกล 2% และคลอสเตอร์ 1%