เดอะพิซซ่า เปิดศึกตลาดต่างประเทศ สู้พิซซ่าฮัทในภูมิภาคเอเชีย-ตะวันออกกลาง เปิดตลาดใหม่ 3 ประเทศ ลุยขยายเพิ่ม 20 สาขา ดึงสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งสร้างแบรนด์ อัดแคมเปญ “ 2007 เดอะ พิซซ่า คอมปะนี มอเตอร์สปอร์ต” โปรโมต ส่วนตลาดในไทยทุ่ม 180 ล้านบาท ขยายเพิ่ม 15 แห่ง โชว์ยอดขายปี 49 โต 29% ทะลุเป้าหมาย กวาดยอดขายกว่า 3,000 ล้านบาท
นายพอล เคนนี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯวางแผนรุกขยายตลาดแบรนด์เดอะพิซซ่า คอมปะนี ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางให้ครอบคลุม ภายใต้การใช้กลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง เพื่อสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างและภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ด้วยการสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ตต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ภายใต้การใช้งบระหว่างปี 2549-2550 ราว 10 ล้านบาท ล่าสุดปีนี้จัดแคมเปญ “ 2007 เดอะ พิซซ่า คอมปะนี มอเตอร์สปอร์ต พุ่งทะยานสู่ความยิ่งใหญ่” ซึ่งจะมีโปรแกรมการแข่งขันใน 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย จีน อินโดนีเซีย และไทย
“คู่แข่งสำคัญของเราในตลาดโลก คือ พิซซ่า ฮัท ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์มากกว่าในเรื่องของยอดขาย โดยหลังจากใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งสร้างแบรนด์ในต่างประเทศ ทำให้เดอะพิซซ่า คอมปะนีเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ผู้บริโภคสามารถจดจำตราสินค้าได้เป็นอย่างดี และได้รับการตอบรับในระยะเวลารวดเร็ว ซึ่งนอกจากการจัดกิจกรรมดังกล่าวแล้ว บริษัทฯยังได้จัดกิจกรรมเสริมมอบส่วนลด คูปอง และของพรีเมียมในช่วงที่จัดสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง”
สำหรับแผนการขยายสาขาต่างประเทศ ปีนี้เตรียมเปิดตลาดใหม่ 3 ประเทศ ได้แก่ จอร์แดน บาห์เรน และเวียดนาม และเตรียมขยายสาขาต่างประเทศอีก 20 แห่ง จากเดิมมีทั้งหมด 19 สาขา แบ่งเป็น ดูไบ 1 สาขา ซาอุฯ 3 แห่ง จีน 9 สาขา ฟิลิปปินส์ 2 สาขา เขมร 2 สาขา เป็นต้น ส่วนแผนขยายสาขาในประเทศไทย ปีนี้จะเปิดเพิ่ม 15 แห่ง จากปัจจุบันมีทั้งหมด 169 สาขา โดยรูปแบบการขยายจะเป็นแฟรนไชส์ 50% และลงทุนเอง 50% ซึ่งคาดว่าจะใช้งบลงทุน 12 ล้านบาทต่อสาขา หรือคิดเป็นงบลงทุนทั้งสิ้น 180 ล้านบาท
ด้านกลยุทธ์ในการทำตลาดในประเทศไทย บริษัทฯจะมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ เปิดตัวเมนูใหม่ลงสู่ตลาดอย่างน้อย 6 เมนูต่อปี ควบคู่กับการจัดกิจกรรม ขณะเดียวกันบริษัทฯวางแผนจะปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง โดยการเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาซอฟท์บอล บาสเกตบอล และมอเตอร์สปอร์ต ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการครองส่วนแบ่ง 75% จากมูลค่า 4,200 ล้านบาท ที่เหลือ 25% เป็น พิซซ่า ฮัท
แนวโน้มตลาดพิซซ่ามูลค่า 4,200 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 15% โดยลูกค้าประจำมีพฤติกรรมการรับประทาน 1 ครั้งต่อเดือน และลูกค้าไม่ประจำรับประทาน 2 เดือนต่อ 1 ครั้ง แบ่งเป็น การรับประทานที่ร้าน 40% ดีลิเวอรี่ 45% และกลับบ้าน 15% ซึ่งในปีที่ผ่านมาเดอะพิซซ่า มีอัตราการเติบโต 29% สูงสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา และสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้คือโต 12% โดยบริษัทฯมียอดขายกว่า 3,000 ล้านบาท สำหรับสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่ำกว่าปีนี้
นายพอล เคนนี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯวางแผนรุกขยายตลาดแบรนด์เดอะพิซซ่า คอมปะนี ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางให้ครอบคลุม ภายใต้การใช้กลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง เพื่อสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างและภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ด้วยการสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ตต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ภายใต้การใช้งบระหว่างปี 2549-2550 ราว 10 ล้านบาท ล่าสุดปีนี้จัดแคมเปญ “ 2007 เดอะ พิซซ่า คอมปะนี มอเตอร์สปอร์ต พุ่งทะยานสู่ความยิ่งใหญ่” ซึ่งจะมีโปรแกรมการแข่งขันใน 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย จีน อินโดนีเซีย และไทย
“คู่แข่งสำคัญของเราในตลาดโลก คือ พิซซ่า ฮัท ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์มากกว่าในเรื่องของยอดขาย โดยหลังจากใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้งสร้างแบรนด์ในต่างประเทศ ทำให้เดอะพิซซ่า คอมปะนีเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ผู้บริโภคสามารถจดจำตราสินค้าได้เป็นอย่างดี และได้รับการตอบรับในระยะเวลารวดเร็ว ซึ่งนอกจากการจัดกิจกรรมดังกล่าวแล้ว บริษัทฯยังได้จัดกิจกรรมเสริมมอบส่วนลด คูปอง และของพรีเมียมในช่วงที่จัดสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง”
สำหรับแผนการขยายสาขาต่างประเทศ ปีนี้เตรียมเปิดตลาดใหม่ 3 ประเทศ ได้แก่ จอร์แดน บาห์เรน และเวียดนาม และเตรียมขยายสาขาต่างประเทศอีก 20 แห่ง จากเดิมมีทั้งหมด 19 สาขา แบ่งเป็น ดูไบ 1 สาขา ซาอุฯ 3 แห่ง จีน 9 สาขา ฟิลิปปินส์ 2 สาขา เขมร 2 สาขา เป็นต้น ส่วนแผนขยายสาขาในประเทศไทย ปีนี้จะเปิดเพิ่ม 15 แห่ง จากปัจจุบันมีทั้งหมด 169 สาขา โดยรูปแบบการขยายจะเป็นแฟรนไชส์ 50% และลงทุนเอง 50% ซึ่งคาดว่าจะใช้งบลงทุน 12 ล้านบาทต่อสาขา หรือคิดเป็นงบลงทุนทั้งสิ้น 180 ล้านบาท
ด้านกลยุทธ์ในการทำตลาดในประเทศไทย บริษัทฯจะมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ เปิดตัวเมนูใหม่ลงสู่ตลาดอย่างน้อย 6 เมนูต่อปี ควบคู่กับการจัดกิจกรรม ขณะเดียวกันบริษัทฯวางแผนจะปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง โดยการเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาซอฟท์บอล บาสเกตบอล และมอเตอร์สปอร์ต ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการครองส่วนแบ่ง 75% จากมูลค่า 4,200 ล้านบาท ที่เหลือ 25% เป็น พิซซ่า ฮัท
แนวโน้มตลาดพิซซ่ามูลค่า 4,200 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 15% โดยลูกค้าประจำมีพฤติกรรมการรับประทาน 1 ครั้งต่อเดือน และลูกค้าไม่ประจำรับประทาน 2 เดือนต่อ 1 ครั้ง แบ่งเป็น การรับประทานที่ร้าน 40% ดีลิเวอรี่ 45% และกลับบ้าน 15% ซึ่งในปีที่ผ่านมาเดอะพิซซ่า มีอัตราการเติบโต 29% สูงสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา และสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้คือโต 12% โดยบริษัทฯมียอดขายกว่า 3,000 ล้านบาท สำหรับสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่ำกว่าปีนี้