xs
xsm
sm
md
lg

ดิอาจิโอชี้น้ำเมานำเข้าวูบ15% สุราพรีเมียมสดใส-กลุ่มอื่นหืดขึ้นคอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ ชี้พิษเศรษฐกิจกระทบตลาดเหล้านำเข้าหดตัว 15% ชูนโยบายฟูล พอร์ต โฟลิโอทะลวงแชร์คู่แข่ง  เร่งบูมไวท์สปิริต ขยายฐานคนรุ่นใหม่  ปั้นเรด เลเบิ้ล เรือธง หลังพบพรีเมี่ยมส่อแววโต 30% เพียงเซกเมนต์เดียว ส่วนเซกเมนต์อื่นการตลาดหืดขึ้นคอ โชว์ตัวเลขผลประกอบการโต 43% กวาดยอดขาย 7,290 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าโต 15%

นายวรเทพ รางชัยกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อจอห์นนี่ วอล์กเกอร์  เบนมอร์ สเมอร์นอฟ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเหล้านำเข้าปีนี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตติดลบ 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาตลาดรวมติดลบ 13% ทั้งนี้เป็นเพราะปีนี้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลง รวมทั้งปัจจัยลบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายรัฐบาล อาทิ แนวทางการขึ้นภาษี ทั้งนี้คาดว่าเซกเมนต์เหล้าอีโคโนมีจำนวน 2.5 ล้านลัง จะเป็นเซกเมนต์ที่ตกลงมากที่สุดในปีนี้ คือ ตกลง 25%เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาตกลง 25.1% และคาดว่าในอนาคตเซกเมนต์นี้จะค่อยๆหายไปจากตลาด

ส่วนเซกเมนต์พรีเมียม 5 แสนลัง เป็นเซกเมนต์เดียวที่มีอัตราการเติบโต คือ โต 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาโต 27.6% เซกเมนต์ดีลักซ์ 3 แสนลัง ตกลงกว่า 10% จากปีที่แล้วตกลง 9.6% และสแตนดาร์ดตกลง 15% จากปีที่แล้วตกลง 15.3% ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้เซกเมนต์สแตนดาร์ดตกลง มาจากผู้บริโภคหันไปดื่มเหล้าเซกเมนต์พรีเมี่ยมและเหล้าไทย

ดังนั้นจากภาวะที่ตลาดไม่มีอัตราการเติบโต แผนการตลาดของบริษัทในตลาดวิสกี้นำเข้าที่วางไว้ คือ การเติบโตจะต้องมาจากการแย่งส่วนแบ่งจากคู่แข่ง รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการทำเซกเมนต์พรีเมียมซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่มีอัตราการเติบโต โดยบริษัทได้เตรียมผลักดันจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล ผ่านการโฆษณา จัดกิจกรรม และขยายพาร์ทเนอร์เอาท์เลทเพิ่มขึ้น ส่วนเหล้าในเซกเมนต์อีโคโนมี่จะไม่ทำตลาด เนื่องจากแนวโน้มที่จะกลับมาเติบโตอีกครั้งคงเป็นไปได้ยาก

สร้างตลาดไวท์สปิริตรับมือวิสกี้ไม่โต
นายวรเทพ กล่าวว่า นโยบายการตลาดปี 2550 บริษัทเน้นการใช้กลยุทธ์ฟลู พอร์ต โฟลิโอ การนำเสนอแบนด์ที่แข็งแกร่งมาลงสู่ตลาด พร้อมกับการสร้างตลาดใหม่ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ของโลก ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เซกเมนต์ไวท์สปริต เพื่อขยายฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง และมีไลฟ์สไตล์แตกต่างจากกลุ่มผู้ที่นิยมดื่มวิสกี้ ภายใต้การใช้งบการตลาดโดยรวมมากกว่า 15% ขณะที่ผลประกอบการรอบบัญชีเดือนกรกฎาคม 2549- มิถุนายน 2550 ตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 15% จากยอดขายในช่วง 6 เดือนหรือระหว่างเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2549 โต 11% โดยมียอดขาย 4,479 ล้านบาท ส่วนยอดขายทั้งปีระหว่างเดือนกรกฎาคม 2548- มิถุนายน 2549 ราว 7,290 ล้านบาท โตเพิ่มขึ้น 43%

“แม้ในปีที่ผ่านมาจะมีปัจจัยลบหลายประการ ทั้งภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แนวทางการห้ามโฆษณาจากทางภาครัฐ ส่วนพฤติกรรมของผู้บริโภคมีความระมัดระวังการใช้จ่าย แต่สินค้าของเราทุกตัวสามารถเติบโตตามเป้าหมาย ซึ่งเป็นผลจากการแย่งส่วนแบ่งการตลาดมาจากคู่แข่งในทุกเซกเมนต์ ทั้งนี้พบว่าจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล ยอดขายในช่วงกรกฎาคม 2548- มิถุนายน 2549 โต 44% มีส่วนแบ่ง 83% ส่วนจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ก เลเบิ้ล โต 14% ส่วนแบ่ง 68% เบนเมอร์โต 484% มีส่วนแบ่ง 5% สเมอร์นอฟ โต 36% ครองส่วนแบ่ง 65%”

นายวรเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตในสภาพตลาดที่หดตัว เนื่องจากบริษัทมีแผนกสนับสนุนการตัดสินใจ เข้ามาช่วยประเมินโอกาส ความเสี่ยงในการทำธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้แผนการตลาดมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยแผนกดังกล่าวจะเข้าไปตรวจสอบงานทุก2-3 เดือน นอกจากนี้ยังปัจจัยเรื่องของความแข็งแกร่งของแบรนด์ ที่ทำให้ผลประกอบการ และส่วนแบ่งตลาดเติบโตต่อเนื่อง

วอนรัฐพิจารณาปรับภาษีละเอียด
นายวรเทพ กล่าวถึงแนวทางการปรับโครงสร้างภาษีของภาครัฐว่า ในฐานะผู้ประกอบการอยากให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงแนวทางความเป็นไปได้ในการออกกฎระเบียบเพื่อที่ควบคุมออกมาว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสมและมีมาตรฐาน เนื่องจากการปรับภาษีจะมีผลทำให้เหล้าเถื่อนทะลักเพิ่มขึ้น โดยมองว่าการให้การความรู้และการนำกฎหมายมาบังคับอย่างเคร่งครัด จะมีส่วนช่วยให้คนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น

ดังนั้นในปีนี้บริษัทยังคงผลักดันการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 70 โครงการใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา  ภายใต้ 3 โครงการหลัก ได้แก่ 1. การให้ความรู้แอลกอฮอล์ศึกษา (Alcohol Education) อาทิ การวิจัยพฤติกรรมและปัญหาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยมิชอบ  การผลิตและสื่อสารความรู้พื้นฐานเพื่อสร้างค่านิยม "คิดก่อนดื่ม"  2. การรณรงค์โครงการรับผิดชอบต่อสังคม "เด็กไม่ดื่ม" และ "ดื่มไม่ขับ" อย่างสม่ำเสมอ (Alcohol-related Social Campaign) และ3.การสร้างพันธมิตรกำหนดโยบายแอลกอฮอล์ (Alcohol Policy) เพื่อลดปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น