วงการค้าปลีก พัฒนาอสังหาริมทรัยพ์รวมทั้ง วงการธุรกิจหลากหลายต่างจับตาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มเซ็นทรัล กับ 4 โครงการขนาดใหญ่ ว่าจะมีอนาคตออกมาเช่นไร ทั้ง โครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว โครงการพัฒนาที่ดินบริเวณสถานทูตอังกฤษเดิมที่เพลินจิต โครงการพัฒนาที่ดินบริเวณสวนลุมไนท์บาซ่าร์เดิม และโครงการลงทุนค้าปลีกในต่างประเทศ
บางโครงการเป็นโครงการเก่าที่เปิดบริการอยู่แล้วคือ สาขาลาดพร้าว บางโครงการเป็นแผนงานที่เพิ่งเริ่มต้นทั้ง ที่ดินสถานทูตอังกฤษ ที่ดินสวนลุมไนท์บาซ่าร์ และต่างประเทศ แต่ก็เป็นโครงการที่มีความหมายทั้งสิ้นต่อกลุ่มเซ็นทรัล ผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจค้าปลีกของไทย
โดยโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าลาดพราวนั้น ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่แห่งหนึ่งของกลุ่มเซ็นทรัลในการสร้างรายได้ ซึ่งจะหมดสัญญาเช่าที่ดินจำนวน 30 ปี จากการรถไฟแห่งประเทศไทยในปี 2551 นี้แล้ว
นายสุทธิชัย จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวสั้นๆแต่มีความหมายว่า ในฐานะที่เราเป็นผู้สร้างและพัฒนาโครงการที่ลาดพร้าวนี้ขึ้นมา ก็น่าที่จะเป็นผู้ทำต่อไป แต่ทั้งนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับการรถไฟฯด้วยว่าจะเอาอย่างไร
ต้องยอมรับว่า สาขาที่ลาดพร้าว นี้ทั้งเซ็นทรัลกับภาครัฐผ่านการเจรจากันมาหลายรอบแล้วแต่ก็ยังไม่สรุป ล่าสุดแม้รัฐบาลชุดใหม่จะมีการตั้งคณะกรรมการฯขึ้นมา 1 ชุด จำนวน 13 คนเพื่อมาเจรจากับเซ็นทรัลแต่ก็ยังไม่มีการประชุมเป็นทางการเลย
นายสุทธิชาติ จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร-ทรัพยากรมนุษย์ กล่าวเสริมว่า เราต้องรอคณะกรรมการร่วมทุนทั้ง 13 คนที่ตั้งขึ้นมาใหม่ก่อนว่าจะเรียกประชุมเมื่อไร เพราะเขาพึ่งตั้งเสร็จ ทางการรถไฟฯต้องเรียกมาก่อน เรากำหนดไม่ได้ รวมทั้งคงจะต้องมีการตั้งบริษัทกลางเพื่อเข้ามาประเมินราคาใหม่กับมูลค่าโครงการและที่ดินแปลงดังกล่าว ยังเหลือเวลาอีก 2 ปีก่อนหมดสัญญา แต่เราเองคงขอเสนอต่อสัญญา 30 ปีเหมือนก่อนหน้านี้
ในขณะที่โครงการพัฒนาที่ดินบริเวณสถานทูตอังกฤษเดิมถนนเพลินจิตนั้น แม้ว่าทางเซ็นทรัลจะทุ่มเงินประมูลซื้อที่ดินมาในราคาเฉียด 900,000 กว่าบาทต่อตารางเมตรเมื่อปีที่แล้ว ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ซึ่งนายสุทธิชัย กล่าวว่า ภายในเดือนเมษายนนี้คาดว่าทางสถานฑูตอังกฤษจะส่งมอบพื้นที่ให้ ซึ่งเราได้สิทธิ์มาประมาณ 9 ไร่
พื้นที่แปลงนี้ ทางเซ็นทรัลกรุ๊ป มีแผนที่จะพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่สมบูรณ์แบบมีทุกอย่าง เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพให้กับโครงการของเซ็นทรัลในละแวกนั้นเองด้วยทั้งเซ็นทรัลชิดลม และเซ็นทรัลเวิลด์
รูปแบบของโครงการยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเซ็นทรัลกรุ๊ปเองต้องใช้เวลาในการศึกษาทั้งความต้องการตลาด และแนวโน้มของธุรกิจ
เช่นเดียวกับโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณสวนลุมไนท์บาซ่าร์เดิม ที่ดูเหมือนว่า เซ็นทรัลจะได้สิทธิ์อย่างแน่นอนแล้ว
แม้ว่าทางเซ็นทรัลกรุ๊ปเองจะยืนยันว่ายังไม่ได้รับจดหมายเป็นทางการจากทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าเซ็นทรัลได้สิทธิ์แล้ว
อย่างไรก็ดี เซ็นทรัลเองก็มีแผนในใจว่า ที่ดินที่น่าจะเหมาะสมควรจะไม่ต่ำกว่า 30-40 ไร่ และสัญญาเช่าอย่างต่ำต้อง 30 ปีขึ้นไป ซึ่งภายในเดือนเมษายนนี้ผู้เช่าเดิมจะครบสัญญากับทางสำนักงานทรัพย์สินฯแล้ว
ทั้งนี้ แผนงานหลักๆก็ยังคงเป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์แบบของความเป็นศูนย์การค้า โรงแรม ต่างๆ แต่ทั้งนี้คงต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ทางสำนักงานทรัพย์สินฯระบุและกำหนดออกมาก่อน
สำหรับแผนการบุกตลาดต่างประเทศนั้น นายสุทธิชัย เปิดเผยว่า ยังมีความสนใจต่อเนื่องแต่ยังต้องใช้เวลา โดยรูปแบบที่ลงทุนจะมีทั้ง ลงทุนเอง ร่วมทุน หรือการบริหาร ซึ่งต้องแล้วเต่เงื่อนไขและการเจรจาแต่ละกรณีไป โดย มี 3 ประเทศหลักที่ดำเนินการอยู่เวลานี้คือ อินโดนีเซีย เวียดนาม และจีน
ทั้งนี้ ในประเทศอินโดนีเชียนั้น ขณะนี้ได้ชะลอไว้ก่อนแล้ว หลังจากที่ไม่สามารถสรุปการเจรจาทางด้านเงื่อนไขต่างๆกับทางกลุ่มนักลงทุนท้องถิ่นอินโดนีเชียได้ ส่วนในจีนนั้น มองไปที่ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ซึ่งได้ติดต่อกับหลายราย แต่ยังไม่ตกลงปลงใจกับใคร ส่วนที่ประเทศเวียดนามนั้นก็ยังอู่ระหว่างการศึกษาตลาดอยู่ ส่วนที่ประเทศสิงคโปร์นั้นไม่ได้ลงทุนทางด้านค้าปลีกแต่ก่อนหน้านี้ได้ลงทุนทางด้านธุรกิจหนังสือไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่มีโครงการใดที่จะสามารถฟันธงได้ว่า จะเกิดขึ้นหรือไม่ หรือได้รับการต่อสัญญาหรือไม่กับโครงการที่ลาดพร้าว
ทว่า นายสุทธิชัย ก็ยอมรับว่า ในปีนี้ทางกลุ่มเองก็ได้มีการกันเงินสำรองไว้ประมาณ 10% จากงบลงทุนทั้งหมดปีนี้ เพื่อไว้รองรับกับการเริ่มดำเนินการโครงการดังกล่าวทั้งหมด
บางโครงการเป็นโครงการเก่าที่เปิดบริการอยู่แล้วคือ สาขาลาดพร้าว บางโครงการเป็นแผนงานที่เพิ่งเริ่มต้นทั้ง ที่ดินสถานทูตอังกฤษ ที่ดินสวนลุมไนท์บาซ่าร์ และต่างประเทศ แต่ก็เป็นโครงการที่มีความหมายทั้งสิ้นต่อกลุ่มเซ็นทรัล ผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจค้าปลีกของไทย
โดยโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าลาดพราวนั้น ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่แห่งหนึ่งของกลุ่มเซ็นทรัลในการสร้างรายได้ ซึ่งจะหมดสัญญาเช่าที่ดินจำนวน 30 ปี จากการรถไฟแห่งประเทศไทยในปี 2551 นี้แล้ว
นายสุทธิชัย จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวสั้นๆแต่มีความหมายว่า ในฐานะที่เราเป็นผู้สร้างและพัฒนาโครงการที่ลาดพร้าวนี้ขึ้นมา ก็น่าที่จะเป็นผู้ทำต่อไป แต่ทั้งนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับการรถไฟฯด้วยว่าจะเอาอย่างไร
ต้องยอมรับว่า สาขาที่ลาดพร้าว นี้ทั้งเซ็นทรัลกับภาครัฐผ่านการเจรจากันมาหลายรอบแล้วแต่ก็ยังไม่สรุป ล่าสุดแม้รัฐบาลชุดใหม่จะมีการตั้งคณะกรรมการฯขึ้นมา 1 ชุด จำนวน 13 คนเพื่อมาเจรจากับเซ็นทรัลแต่ก็ยังไม่มีการประชุมเป็นทางการเลย
นายสุทธิชาติ จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร-ทรัพยากรมนุษย์ กล่าวเสริมว่า เราต้องรอคณะกรรมการร่วมทุนทั้ง 13 คนที่ตั้งขึ้นมาใหม่ก่อนว่าจะเรียกประชุมเมื่อไร เพราะเขาพึ่งตั้งเสร็จ ทางการรถไฟฯต้องเรียกมาก่อน เรากำหนดไม่ได้ รวมทั้งคงจะต้องมีการตั้งบริษัทกลางเพื่อเข้ามาประเมินราคาใหม่กับมูลค่าโครงการและที่ดินแปลงดังกล่าว ยังเหลือเวลาอีก 2 ปีก่อนหมดสัญญา แต่เราเองคงขอเสนอต่อสัญญา 30 ปีเหมือนก่อนหน้านี้
ในขณะที่โครงการพัฒนาที่ดินบริเวณสถานทูตอังกฤษเดิมถนนเพลินจิตนั้น แม้ว่าทางเซ็นทรัลจะทุ่มเงินประมูลซื้อที่ดินมาในราคาเฉียด 900,000 กว่าบาทต่อตารางเมตรเมื่อปีที่แล้ว ถึงวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ซึ่งนายสุทธิชัย กล่าวว่า ภายในเดือนเมษายนนี้คาดว่าทางสถานฑูตอังกฤษจะส่งมอบพื้นที่ให้ ซึ่งเราได้สิทธิ์มาประมาณ 9 ไร่
พื้นที่แปลงนี้ ทางเซ็นทรัลกรุ๊ป มีแผนที่จะพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่สมบูรณ์แบบมีทุกอย่าง เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพให้กับโครงการของเซ็นทรัลในละแวกนั้นเองด้วยทั้งเซ็นทรัลชิดลม และเซ็นทรัลเวิลด์
รูปแบบของโครงการยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเซ็นทรัลกรุ๊ปเองต้องใช้เวลาในการศึกษาทั้งความต้องการตลาด และแนวโน้มของธุรกิจ
เช่นเดียวกับโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณสวนลุมไนท์บาซ่าร์เดิม ที่ดูเหมือนว่า เซ็นทรัลจะได้สิทธิ์อย่างแน่นอนแล้ว
แม้ว่าทางเซ็นทรัลกรุ๊ปเองจะยืนยันว่ายังไม่ได้รับจดหมายเป็นทางการจากทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าเซ็นทรัลได้สิทธิ์แล้ว
อย่างไรก็ดี เซ็นทรัลเองก็มีแผนในใจว่า ที่ดินที่น่าจะเหมาะสมควรจะไม่ต่ำกว่า 30-40 ไร่ และสัญญาเช่าอย่างต่ำต้อง 30 ปีขึ้นไป ซึ่งภายในเดือนเมษายนนี้ผู้เช่าเดิมจะครบสัญญากับทางสำนักงานทรัพย์สินฯแล้ว
ทั้งนี้ แผนงานหลักๆก็ยังคงเป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์แบบของความเป็นศูนย์การค้า โรงแรม ต่างๆ แต่ทั้งนี้คงต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ทางสำนักงานทรัพย์สินฯระบุและกำหนดออกมาก่อน
สำหรับแผนการบุกตลาดต่างประเทศนั้น นายสุทธิชัย เปิดเผยว่า ยังมีความสนใจต่อเนื่องแต่ยังต้องใช้เวลา โดยรูปแบบที่ลงทุนจะมีทั้ง ลงทุนเอง ร่วมทุน หรือการบริหาร ซึ่งต้องแล้วเต่เงื่อนไขและการเจรจาแต่ละกรณีไป โดย มี 3 ประเทศหลักที่ดำเนินการอยู่เวลานี้คือ อินโดนีเซีย เวียดนาม และจีน
ทั้งนี้ ในประเทศอินโดนีเชียนั้น ขณะนี้ได้ชะลอไว้ก่อนแล้ว หลังจากที่ไม่สามารถสรุปการเจรจาทางด้านเงื่อนไขต่างๆกับทางกลุ่มนักลงทุนท้องถิ่นอินโดนีเชียได้ ส่วนในจีนนั้น มองไปที่ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ซึ่งได้ติดต่อกับหลายราย แต่ยังไม่ตกลงปลงใจกับใคร ส่วนที่ประเทศเวียดนามนั้นก็ยังอู่ระหว่างการศึกษาตลาดอยู่ ส่วนที่ประเทศสิงคโปร์นั้นไม่ได้ลงทุนทางด้านค้าปลีกแต่ก่อนหน้านี้ได้ลงทุนทางด้านธุรกิจหนังสือไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่มีโครงการใดที่จะสามารถฟันธงได้ว่า จะเกิดขึ้นหรือไม่ หรือได้รับการต่อสัญญาหรือไม่กับโครงการที่ลาดพร้าว
ทว่า นายสุทธิชัย ก็ยอมรับว่า ในปีนี้ทางกลุ่มเองก็ได้มีการกันเงินสำรองไว้ประมาณ 10% จากงบลงทุนทั้งหมดปีนี้ เพื่อไว้รองรับกับการเริ่มดำเนินการโครงการดังกล่าวทั้งหมด