กระทรวงพาณิชย์เร่งเจรจาสหรัฐขยายเวลาการให้สิทธิพิเศษทางการค้า (จีเอสพี) สินค้าไทย ขณะที่กรมส่งเสริมการส่งออกจับมือเอกชนจัดงานบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่แฟร์ ครั้งที่ 39 ปลายเดือนนี้ คาดอุตสาหกรรมอัญมณีปีนี้ส่งออกได้เพิ่มขึ้นเป็น 4,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า กรมส่งเสริมการส่งออกร่วมกับสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ จัดงานบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ ครั้งที่ 39 ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคมนี้ ที่อิมแพค เมืองทองธานี โดยจะมีผู้ประกอบการอัญมณีจำนวนมากมาร่วมแสดงสินค้า มีการเจรจาการค้า ซึ่งในปีนี้ภายในงานจะมีการจัดนิทรรศการ 80 ปี พ่อหลวงแห่งศิลป์ และมีการจัดจ้างกระต่ายทองคำประดับบุษราคัม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งปีพระราชสมภพเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา คาดว่า จะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 30,000 คน
นายราเชนทร์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมอัญมณีมีบทบาทสำคัญต่อภาคการส่งออก ซึ่งคาดว่า ปีนี้จะเติบโตประมาณร้อยละ 20 จาก 3,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มเป็น 4,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีพลอยเป็นอัญมณีที่โดดเด่นทางด้านการออกแบบและคุณภาพ ซึ่งสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเร่งผลักดันเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อขอสิทธิพิเศษทางการค้าให้นานที่สุด เพราะขณะนี้สหรัฐฯขยายเวลาให้จีเอสพีแก่สินค้าส่งออกไทยเพียง 6 เดือน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสหรัฐฯอาจจะทำให้การเจรจาขอจีเอสพีล่าช้าไปบ้าง
นายพรชัย ชื่นชมลดา นายกสมาคมผู้ค้าอัญมณี กล่าวว่า ทางอุตสาหกรรมอัญมณีจะพยายามขยายการส่งออกให้ได้ร้อยละ 20 ตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ โดยสิ่งสำคัญขณะนี้ คือต้องการให้สหรัฐฯให้สิทธิจีเอสพี นานถึง 4-5 ปี เพื่อภาคธุรกิจจะได้เกิดความมั่นใจ โดยจะมีการพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับเน้นเจาะตลาดบนมากขึ้น เพราะไม่สามารถแข่งขันกับจีน ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าสำหรับลูกค้าตลาดล่างได้ ส่วนการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจไม่มีผลกระทบต่อการส่งออกอัญมณี
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า กรมส่งเสริมการส่งออกร่วมกับสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ จัดงานบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ ครั้งที่ 39 ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคมนี้ ที่อิมแพค เมืองทองธานี โดยจะมีผู้ประกอบการอัญมณีจำนวนมากมาร่วมแสดงสินค้า มีการเจรจาการค้า ซึ่งในปีนี้ภายในงานจะมีการจัดนิทรรศการ 80 ปี พ่อหลวงแห่งศิลป์ และมีการจัดจ้างกระต่ายทองคำประดับบุษราคัม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งปีพระราชสมภพเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา คาดว่า จะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 30,000 คน
นายราเชนทร์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมอัญมณีมีบทบาทสำคัญต่อภาคการส่งออก ซึ่งคาดว่า ปีนี้จะเติบโตประมาณร้อยละ 20 จาก 3,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มเป็น 4,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีพลอยเป็นอัญมณีที่โดดเด่นทางด้านการออกแบบและคุณภาพ ซึ่งสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเร่งผลักดันเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อขอสิทธิพิเศษทางการค้าให้นานที่สุด เพราะขณะนี้สหรัฐฯขยายเวลาให้จีเอสพีแก่สินค้าส่งออกไทยเพียง 6 เดือน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสหรัฐฯอาจจะทำให้การเจรจาขอจีเอสพีล่าช้าไปบ้าง
นายพรชัย ชื่นชมลดา นายกสมาคมผู้ค้าอัญมณี กล่าวว่า ทางอุตสาหกรรมอัญมณีจะพยายามขยายการส่งออกให้ได้ร้อยละ 20 ตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ โดยสิ่งสำคัญขณะนี้ คือต้องการให้สหรัฐฯให้สิทธิจีเอสพี นานถึง 4-5 ปี เพื่อภาคธุรกิจจะได้เกิดความมั่นใจ โดยจะมีการพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับเน้นเจาะตลาดบนมากขึ้น เพราะไม่สามารถแข่งขันกับจีน ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าสำหรับลูกค้าตลาดล่างได้ ส่วนการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจไม่มีผลกระทบต่อการส่งออกอัญมณี