กรมการค้าต่างประเทศ เตือนผู้ส่งออกตรวจสอบพิกัดศุลกากรและรหัสสถิติก่อนขอหนังสือรับรองส่งสินค้าไปจีน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา และอาจทำให้ไม่ได้รับสิทธิในการลดภาษีนำเข้าภายใต้กรอบเอฟทีเอ
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2550 จีนได้เปลี่ยนแปลงพิกัดอัตราศุลกากรใหม่ และจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาในการนำเข้าสินค้าจากไทย หากผู้ส่งออกของไทยระบุหมายเลขพิกัดศุลกากร (HS Number) และรหัสสถิติ (Statistics Code) ในหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Form E) ของไทยไม่ตรงกับที่จีนได้เปลี่ยนแปลง จะทำให้ไม่ได้รับสิทธิในการลดภาษีนำเข้าภายใต้ความตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ)
โดยเฉพาะสินค้าผลไม้ของไทยที่ประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งทางการจีนได้เปลี่ยนรหัสสินค้า 2 หลักสุดท้าย เช่น สินค้ามะม่วง เดิม HS 0804.50.20 10 เปลี่ยนเป็น HS 0804.50.20 01 สินค้ามังคุด เดิม HS 0804.50.30 10 เปลี่ยนเป็น HS 0804.50.30 00 ดังนั้น ผู้ส่งออกไทยที่จะมาขอหนังสือรับรองต้องตรวจสอบพิกัดศุลกากรให้ถูกต้องเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2550 จีนได้เปลี่ยนแปลงพิกัดอัตราศุลกากรใหม่ และจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาในการนำเข้าสินค้าจากไทย หากผู้ส่งออกของไทยระบุหมายเลขพิกัดศุลกากร (HS Number) และรหัสสถิติ (Statistics Code) ในหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Form E) ของไทยไม่ตรงกับที่จีนได้เปลี่ยนแปลง จะทำให้ไม่ได้รับสิทธิในการลดภาษีนำเข้าภายใต้ความตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ)
โดยเฉพาะสินค้าผลไม้ของไทยที่ประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ ซึ่งทางการจีนได้เปลี่ยนรหัสสินค้า 2 หลักสุดท้าย เช่น สินค้ามะม่วง เดิม HS 0804.50.20 10 เปลี่ยนเป็น HS 0804.50.20 01 สินค้ามังคุด เดิม HS 0804.50.30 10 เปลี่ยนเป็น HS 0804.50.30 00 ดังนั้น ผู้ส่งออกไทยที่จะมาขอหนังสือรับรองต้องตรวจสอบพิกัดศุลกากรให้ถูกต้องเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง