รพ.พญาไท เร่งขยายธุรกิจครั้งใหญ่หลังออกแผนฟื้นฟู ทุ่ม 3.2 พันล้านบาท รีโนเวตใหม่ สั่งเครื่องมือแพทย์ยกใหญ่ พร้อมปรับตัวเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์แพทย์ชั้นนำ ล่าสุดดึง ดร.ศิริ การเจริญดี นั่งแท่นซีอีโอ ชูวิชั่นใหม่ขยายฐานลูกค้าคนไทยระดับซี ปีหน้าเตรียมเพิ่มทุน ระบุเล็งนำพญาไท-เปาโลควบรวม 3 ปีตั้งเป้าพญาไทโตปีละ 25%
นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการ เครือโรงพยาบาลพญาไท เปิดเผยว่า หลังจากที่โรงพยาบาลฯ ออกจากแผนฟื้นฟูตั้งแต่ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานี้ ดังนั้นจึงได้เตรียมทุ่มงบ 3,200 ล้านบาท ขยายโรงพยาบาลพญาไทภายในช่วง 2-3 ปีจากนี้ โดยแบ่งเป็น ลงทุนเครื่องมือทางการแพทย์ 1,450 ล้านบาท นำร่องปีนี้ด้วยการทุ่มงบ 850 ล้านบาท ซื้อเครื่องมือการแพทย์ใหม่ พร้อมกันนี้ยังได้เจรจาผู้จำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ซึ่งยังไม่สามาถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยได้ทุ่มงบ 650 ล้านบาท ในการเป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์จำหน่ายเครื่องมือแพทย์ในประเทศไทย และจะเป็นรายแรกที่จะได้ใช้เครื่องมือการแพทย์ระดับสูง
ส่วนงบที่เหลือบริษัทฯได้นำมาปรับปรุงอาคารสถานที่ในโรงพยาบาลใหม่ราว 1,350 ล้านบาท โดยได้เตรียมจัดแยกแผนกการรักษาไว้อย่างชัดเจน จากรูปแบบเดิมแผนการรักษาอยู่รวมกัน ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการ ขณะที่งบอีก 400ล้านบาท ได้เตรียมปรับระบบคอมพิวเตอร์ใหม่ทั้งหมด พร้อมกันนี้บริษัทยังได้ทุ่มงบอีก 50-60ล้านบาท ลงทุนในเรื่องของการพัฒนาบุคลากร ทั้งแพทย์ นางพยาบาล
ดึงนักบริหารชื่อดังนั่งแท่นซีอีโอ
นายวิชัย กล่าวว่า ในแง่ของการบริหารงานล่าสุดได้ดึง ดร.ศิริ การเจริญดี รับตำแหน่งประธานบริหารแทนตน หลังจากที่ตนควบ 2 ตำแหน่ง ทั้งประธานกรรมการ และ ประธานบริหารมานาน พร้อมกันนี้ยังได้ปรับวิชั่นใหม่ โดยวางตำแหน่งโรงพยาบาลพญาไท เป็นสถาบันแนวหลักในการรักษาพยาบาลที่คนไทยเข้าถึงได้ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายระดับซีถึงซีบวก จากที่ผ่านมาจะเน้นเจาะกลุ่มชาวต่างประเทศเป็นหลัก โดยรพ.จะนำกลยุทธ์ ในการบริหารโรงพยาบาลแนวใหม่ “Multi Disciplinary” คือ การเน้นให้แพทย์ต่างสาขาทำงานร่วมกันเป็นทีม กรณีมีคนไข้หนักเข้ามา แพทย์ที่มาจากต่างสาขา จะมาร่วมประชุมกันเพื่อออกแบบการรักษาคนไข้รายเดียวกัน เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้
“ผมมีแนวคิดที่จะนำโรงพยาบาลพญาไท ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นในสัดส่วน 48% และโรงพยาบาลเปาโล ถือหุ้นมากกว่า 51% มาควบรวมกันในอนาคต โดยในปีหน้านี้ได้เตรียมเพิ่มทุนรพ.พญาไท ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะหาพันธมิตรมาร่วมทุนหรือลงทุนเอง“
ด้านดร.ศิริ การเจริญดี ประธานกรรมการบริหาร เครือโรงพยาบาลพญาไท กล่าวถึงในแง่ของการบริหารงานโรงพยาบาลพญาไทว่า ต้องเป็นสถาบันที่มีการบริหารที่ได้มาตรฐานสากลและอยู่ในระดับแนวหน้า รวมทั้งต้องมีการบริการที่ดี และสถานที่จะต้องมีความสะอาด ซึ่งขณะนี้มีหลายที่จะต้องปรังปรุงใหม่ ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านบุคลากร ส่วนด้านการตลาดจะเน้นขยายฐานลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มระดับกลาง เนื่องจากเป็นฐานประชากรที่ใหญ่ในประเทศไทย จากที่ผ่านมาโรงพยาบาลมุ่งเน้นเจาะแต่ลูกค้าจากต่างประเทศเป็นหลัก
นายอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือโรงพยาบาลพญาไท กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 2 ปีนี้รพ.พญาไท เน้นการสร้างฐานให้มีความแข็งแกร่งเป็นหลักก่อน เพื่อให้สามารกแข่งขันกับต่างประเทศได้ ดังนั้นจึงไม่ได้มองในเรื่องของกำไรมากนัก สำหรับในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้โรงพยาบาลพญาไท ตั้งเป้ามีอัตราการเติบโตปีละ 25% สำหรับในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 15% สำหรับโรงพยาบาลพญาไทได้ปรับโครงสร้างหนี้เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา จากหนี้ 5,800 ล้านบาท เนื่องจากกู้เงินไปดำเนินธุรกิจที่นอกเหนือจากธุรกิจโรงพยาบาล อาทิ โรงเรียน เป็นต้น
“จุดยืนของพญาไทเป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานการบริการทางการแพทย์ในระดับเวิลด์คลาสเพื่อคนไทย ด้วยการต้อนรับและดูแลเอาใจใส่อย่างไทยๆ พญาไทให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องก้าวให้ทันกับวิทยาการทางการแพทย์สากลที่มีพัฒนาการอย่างไม่หยุดยั้ง ไปจนถึงบุคลากรของโรงพยาบาล ที่มุ่งเน้นการบริการที่เป็นเลิศ” นายอัฐกล่าวทิ้งท้าย
นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการ เครือโรงพยาบาลพญาไท เปิดเผยว่า หลังจากที่โรงพยาบาลฯ ออกจากแผนฟื้นฟูตั้งแต่ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานี้ ดังนั้นจึงได้เตรียมทุ่มงบ 3,200 ล้านบาท ขยายโรงพยาบาลพญาไทภายในช่วง 2-3 ปีจากนี้ โดยแบ่งเป็น ลงทุนเครื่องมือทางการแพทย์ 1,450 ล้านบาท นำร่องปีนี้ด้วยการทุ่มงบ 850 ล้านบาท ซื้อเครื่องมือการแพทย์ใหม่ พร้อมกันนี้ยังได้เจรจาผู้จำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ซึ่งยังไม่สามาถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยได้ทุ่มงบ 650 ล้านบาท ในการเป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์จำหน่ายเครื่องมือแพทย์ในประเทศไทย และจะเป็นรายแรกที่จะได้ใช้เครื่องมือการแพทย์ระดับสูง
ส่วนงบที่เหลือบริษัทฯได้นำมาปรับปรุงอาคารสถานที่ในโรงพยาบาลใหม่ราว 1,350 ล้านบาท โดยได้เตรียมจัดแยกแผนกการรักษาไว้อย่างชัดเจน จากรูปแบบเดิมแผนการรักษาอยู่รวมกัน ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการ ขณะที่งบอีก 400ล้านบาท ได้เตรียมปรับระบบคอมพิวเตอร์ใหม่ทั้งหมด พร้อมกันนี้บริษัทยังได้ทุ่มงบอีก 50-60ล้านบาท ลงทุนในเรื่องของการพัฒนาบุคลากร ทั้งแพทย์ นางพยาบาล
ดึงนักบริหารชื่อดังนั่งแท่นซีอีโอ
นายวิชัย กล่าวว่า ในแง่ของการบริหารงานล่าสุดได้ดึง ดร.ศิริ การเจริญดี รับตำแหน่งประธานบริหารแทนตน หลังจากที่ตนควบ 2 ตำแหน่ง ทั้งประธานกรรมการ และ ประธานบริหารมานาน พร้อมกันนี้ยังได้ปรับวิชั่นใหม่ โดยวางตำแหน่งโรงพยาบาลพญาไท เป็นสถาบันแนวหลักในการรักษาพยาบาลที่คนไทยเข้าถึงได้ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายระดับซีถึงซีบวก จากที่ผ่านมาจะเน้นเจาะกลุ่มชาวต่างประเทศเป็นหลัก โดยรพ.จะนำกลยุทธ์ ในการบริหารโรงพยาบาลแนวใหม่ “Multi Disciplinary” คือ การเน้นให้แพทย์ต่างสาขาทำงานร่วมกันเป็นทีม กรณีมีคนไข้หนักเข้ามา แพทย์ที่มาจากต่างสาขา จะมาร่วมประชุมกันเพื่อออกแบบการรักษาคนไข้รายเดียวกัน เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้
“ผมมีแนวคิดที่จะนำโรงพยาบาลพญาไท ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นในสัดส่วน 48% และโรงพยาบาลเปาโล ถือหุ้นมากกว่า 51% มาควบรวมกันในอนาคต โดยในปีหน้านี้ได้เตรียมเพิ่มทุนรพ.พญาไท ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะหาพันธมิตรมาร่วมทุนหรือลงทุนเอง“
ด้านดร.ศิริ การเจริญดี ประธานกรรมการบริหาร เครือโรงพยาบาลพญาไท กล่าวถึงในแง่ของการบริหารงานโรงพยาบาลพญาไทว่า ต้องเป็นสถาบันที่มีการบริหารที่ได้มาตรฐานสากลและอยู่ในระดับแนวหน้า รวมทั้งต้องมีการบริการที่ดี และสถานที่จะต้องมีความสะอาด ซึ่งขณะนี้มีหลายที่จะต้องปรังปรุงใหม่ ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านบุคลากร ส่วนด้านการตลาดจะเน้นขยายฐานลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มระดับกลาง เนื่องจากเป็นฐานประชากรที่ใหญ่ในประเทศไทย จากที่ผ่านมาโรงพยาบาลมุ่งเน้นเจาะแต่ลูกค้าจากต่างประเทศเป็นหลัก
นายอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือโรงพยาบาลพญาไท กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 2 ปีนี้รพ.พญาไท เน้นการสร้างฐานให้มีความแข็งแกร่งเป็นหลักก่อน เพื่อให้สามารกแข่งขันกับต่างประเทศได้ ดังนั้นจึงไม่ได้มองในเรื่องของกำไรมากนัก สำหรับในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้โรงพยาบาลพญาไท ตั้งเป้ามีอัตราการเติบโตปีละ 25% สำหรับในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 15% สำหรับโรงพยาบาลพญาไทได้ปรับโครงสร้างหนี้เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา จากหนี้ 5,800 ล้านบาท เนื่องจากกู้เงินไปดำเนินธุรกิจที่นอกเหนือจากธุรกิจโรงพยาบาล อาทิ โรงเรียน เป็นต้น
“จุดยืนของพญาไทเป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานการบริการทางการแพทย์ในระดับเวิลด์คลาสเพื่อคนไทย ด้วยการต้อนรับและดูแลเอาใจใส่อย่างไทยๆ พญาไทให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องก้าวให้ทันกับวิทยาการทางการแพทย์สากลที่มีพัฒนาการอย่างไม่หยุดยั้ง ไปจนถึงบุคลากรของโรงพยาบาล ที่มุ่งเน้นการบริการที่เป็นเลิศ” นายอัฐกล่าวทิ้งท้าย