อธิบดีกรมศุลกากรยอมรับเขตปลอดอากร (ฟรีโซน) ของสนามบินสุวรรณภูมิยังมีปัญหา เนื่องจากยังไม่สามารถปรับปรุงระบบข้อมูลให้ใช้งานเพื่อรองรับการนำเข้าส่งออกได้ ส่วนการย้ายเที่ยวบินบางส่วนมายังดอนเมืองพร้อมจัดเจ้าหน้าที่ศุลกากรมาประจำเพิ่มตามความจำเป็น
นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ยอมรับปัญหานำเข้าส่งออกสินค้าในเขตปลอดอากร (ฟรีโซน) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังมีปัญหา จากข้อกำหนดของ บมจ.ทอท. ซึ่งกำหนดให้ทุกหน่วยงานต้องเชื่อมโยงระบบข้อมูลเดียวกันทั้งระบบ แต่ปัจจุบัน ทอท.ได้ลงทุนไปแล้ว 3,000-4,000 ล้านบาท ก็ยังไม่สามารถปรับปรุงระบบให้ใช้งานเพื่อรองรับการนำเข้าส่งออกได้ ดังนั้น กรมจึงหาทางออกด้วยการให้บริษัทเอกชนซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทั้งแท็กส์และบริษัท บีเอฟเอส ต้องนำระบบของข้อมูลตัวเองมาใช้ร่วมกับระบบเดิม เพื่อให้การส่งออกสามารถเดินหน้าต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ต้องเร่งแก้ปัญหาสินค้าเกษตรหรือสินค้าที่เน่าเสียง่ายเพื่อไม่ต้องผ่านเข้าไปในเขตฟรีโซน เพราะจะมีขั้นตอนที่ใช้เวลานานจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อสินค้า ซึ่งจะต้องเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ส่วนกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายให้ดอนเมืองเป็นสนามบินนานาชาติควบคู่กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น หากมีความชัดเจนกรมศุลกากรก็พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ เพราะขณะนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำที่ดอนเมือง 5 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อให้บริการเกี่ยวกับสายการบินเช่าเหมาลำ แต่หากสายการบินในประเทศแบบไม่ต่อจุดย้ายมาดอนเมือง ในเบื้องต้นจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปให้บริการไม่เกิน 10 คน สำหรับการเป็นสนามบินนานาชาติส่วนหนึ่งเพื่อนำสนามบินดอนเมืองมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่