ชบา ระเบิดศึกตลาดน้ำผลไม้ 40% เต็มสูบ แก้จุดบอดกระจายสินค้าใหม่ แต่งตั้งไวไวดิสทริบิวเตอร์ทะลวงเทรดิชันนัลเทรด อัดฉีดงบ 50 ล้านบาท จ่อคิวส่ง 3-5 รสชาติใหม่ลงไตรมาสสอง พร้อมส่งสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟเสริมแนวรบในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ปลายปีเปิดเกมลุยทุกเซกเมนต์แตกน้ำผลไม้ 25% สิ้นปีคาดแชร์พุ่งจาก 2% เป็น 3-5%
นางสาวจารุณี กุลปิยะวาจา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาลีบางกอก จำกัด ผู้ผลิตน้ำผลไม้ชบา เปิดเผยว่า แนวทางการตลาดปีนี้บริษัทฯต้องการรุกตลาดน้ำผลไม้ 40% เพิ่มขึ้น จากเดิมในกลุ่มนี้มีสัดส่วนรายได้ 20% เนื่องจากการกระจายสินค้ายังไม่ครอบคลุมโดยเฉพาะในช่องทางเทรดิชันนัลเทรดหรือร้านค้าปลีกรายย่อยมีสัดส่วนเพียง 20% เท่านั้น โดยที่ผ่านมาบริษัทฯเน้นกระจายสินค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดในสัดส่วนถึง 80%
ดังนั้นบริษัทฯจึงได้แต่งตั้งให้บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตราไวไว เป็นตัวแทนกระจายน้ำผลไม้ชบาเริ่มต้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยมุ่งเน้นในช่องทางเทรดิชันนัลเทรดเป็นหลัก ทั้งนี้คาดว่าหลังจากไวไวกระจายสินค้าภายใต้การมี 90 หน่วยรถ จะเพิ่มสัดส่วนในช่องทางเทรดิชันนัลเทรดเป็น 30% โมเดิร์นเทรดเหลือ 70% และภายใน 2-3 ปี สัดส่วนจะเป็นระหว่าง 40:60
สำหรับงบการตลาดปีนี้บริษัทฯได้ทุ่ม 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วใช้ 20-25 ล้านบาท แบ่งเป็นการจัดกิจกรรมบีโลว์เดอะไลน์ เป็นหลัก โดยการรุกตลาดน้ำผลไม้ 40% ได้เตรียมเปิดตัว 3-5 รสชาติใหม่ในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมจัดกิจกรรมตามร้านค้าหลากหลายรูปแบบ
โดยนำร่องด้วยการจับมือร่วมกับไวไว จัดแคมเปญโปรโมชั่นร่วมกันในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ เพื่อขยายฐานลูกค้าระดับซี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของไวไว ขณะที่กลุ่มเป้าหมายชบาเป็นกลุ่มระดับบีบวก นอกจากนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้า จำหน่ายในลักษณะเอ็กซ์คลูซีฟในเซเว่นอีเลฟเว่น ส่วนปลายปีหากการกระจายสินค้าได้ครอบคลุมจะพิจารณาเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
ปัจจัยที่บริษัทฯเลือกทำตลาดน้ำผลไม้ 40% ในเชิงรุกเนื่องจากตลาดน้ำผลไม้ 100% มีผู้นำตลาดที่แข็งแกร่ง ส่วนตลาดน้ำผลไม้ 25% ผู้นำตลาดอย่างดีโด้ดำเนินกลยุทธ์ราคา อีกทั้งยังมีผู้ประกอบการรายใหญ่มีงบการตลาดเป็นจำนวนมาก อาทิ เป๊ปซี่ ซึ่งเปิดตัวทรอปิคาน่าลงสู่ตลาด และโค้กเปิดตัวสแปลช ดังนั้นการลงสู่ตลาดดังกล่าว จึงต้องวางแผนอย่างรัดกุมและมีความแตกต่างจากคู่แข่ง ซึ่งในช่วงปลายปีนี้บริษัทจะเปิดตัวน้ำผลไม้ 25% ลงสู่ตลาด
แนวโน้มตลาดน้ำผลไม้มูลค่า 5,000 ล้านบาท คาดว่ามีอัตราการเติบโต 13-15% ในช่วง ปีนี้ไปจนถึงปีหน้า โดยตลาดน้ำผลไม้ 100% มีสัดส่วน 50% หรือคิดเป็นมูลค่า 2,500 ล้านบาท คาดว่ามีอัตราการเติบโตกว่า 20% ส่วนตลาดน้ำผลไม้ 40% และ 25% มีมูลค่า 2,500 ล้านบาท โดยตลาดน้ำผลไม้ 40% มีอัตราการเติบโตช้า ส่วน 25% คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดี
ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าว่าหลังจากที่ไวไวเป็นตัวแทนกระจายสินค้า ยอดขายทางเทรดิชันเทรดจะเพิ่มขึ้น 70% ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 3-5% จากมูลค่า 5,000 ล้านบาท โดยรายได้เฉพาะการจำหน่ายน้ำผลไม้ชบาภายในประเทศเพิ่มจาก 90 ล้านบาทปีที่ผ่านมา เป็น 120-150 ล้านบาทในปีนี้ ขณะที่รายได้รวมปีที่ผ่านมา 500 ล้านบาท แบ่งเป็น ต่างประเทศ 70% และในประเทศ 30% โดยเป็นการรับจ้างผลิต 40%
ไวไวลงอาหารกระป๋อง-ปัดฝุ่นคูลิคูลิ
นายสุชัย ตันติยาสวัสดิกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว เปิดเผยว่า จากนโยบายของบริษัทฯตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ที่เปิดรับเป็นตัวแทนกระจายสินค้าแบรนด์อื่นนอกเหนือจากแบรนด์ไวไว ล่าสุดบริษัทได้น้ำผลไม้ชบาเป็นลูกค้ารายแรก สำหรับปีนี้คาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่ม 1-2 ราย ส่วนแผนระยะยาวตั้งเป้ารายได้จากการเป็นตัวแทนกระจายสินค้าแบรนด์อื่นๆ 15% จากปัจจุบันมี 2% ส่วนแบรนด์ไวไว 85% จากปัจจุบัน 98%
สำหรับปีนี้บริษัทฯได้วางแผนแตกโปรดักส์ไลน์ใหม่ ในกลุ่มอาหารสำเร็จรูปในรูปแบบบรรจุภัณฑ์กระป๋องลงสู่ตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยจะจ้างให้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้ผลิตให้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้ชื่อแบรนด์ไวไว หรือภายใต้อัมเบลล่าแบรนด์
ส่วนแผนการตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว ช่วงครึ่งปีแรกเน้นรสชาติเดิมเป็นหลัก และ 2 รสชาติใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ ควิกกุ้งมะนาว และสาหร่ายญี่ปุ่น ขณะที่ปลายปีนี้เตรียมเปิดตัว 1 รสชาติใหม่
ทั้งนี้ปัจจัยที่บริษัทฯออกรสชาติใหม่น้อยลงและแตกโปรดักส์ไลน์ใหม่ เนื่องจากประมาณการณ์ว่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมูลค่า 10,500-11,000ล้านบาท ปีนี้มีอัตราการเติบโต 6-7%เท่านั้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 8% ดังนั้นงบตลาดปีนี้จึงได้ปรับลดลงจาก 280 ล้านบาทจากปีที่ผ่านมา เป็น 260-270 ล้านบาท โดยเน้นการทำบีโลว์เดอะไลน์เพิ่มขึ้น ส่วนการทำอโบฟเดอะไลน์ลดลง
ส่วนการทำขนมขบเคี้ยวคูลิคูลิได้หยุดทำตลาดไปตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเตรียมที่จะรีลอนช์ใหม่ ซึ่งจะมีการปรับปรุงทั้งรสชาติและบรรจุภัณฑ์ เจาะกลุ่มเป้าหมายเด็กในระดับกลางและล่างเป็นหลัก
ด้านผลประกอบการปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 7-8% จากในปีที่ผ่านมามีรายได้ 3,400 ล้านบาท ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไวคาดว่าจะเพิ่มอีก 2% จากเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมามี 28%
นางสาวจารุณี กุลปิยะวาจา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาลีบางกอก จำกัด ผู้ผลิตน้ำผลไม้ชบา เปิดเผยว่า แนวทางการตลาดปีนี้บริษัทฯต้องการรุกตลาดน้ำผลไม้ 40% เพิ่มขึ้น จากเดิมในกลุ่มนี้มีสัดส่วนรายได้ 20% เนื่องจากการกระจายสินค้ายังไม่ครอบคลุมโดยเฉพาะในช่องทางเทรดิชันนัลเทรดหรือร้านค้าปลีกรายย่อยมีสัดส่วนเพียง 20% เท่านั้น โดยที่ผ่านมาบริษัทฯเน้นกระจายสินค้าผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดในสัดส่วนถึง 80%
ดังนั้นบริษัทฯจึงได้แต่งตั้งให้บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตราไวไว เป็นตัวแทนกระจายน้ำผลไม้ชบาเริ่มต้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยมุ่งเน้นในช่องทางเทรดิชันนัลเทรดเป็นหลัก ทั้งนี้คาดว่าหลังจากไวไวกระจายสินค้าภายใต้การมี 90 หน่วยรถ จะเพิ่มสัดส่วนในช่องทางเทรดิชันนัลเทรดเป็น 30% โมเดิร์นเทรดเหลือ 70% และภายใน 2-3 ปี สัดส่วนจะเป็นระหว่าง 40:60
สำหรับงบการตลาดปีนี้บริษัทฯได้ทุ่ม 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วใช้ 20-25 ล้านบาท แบ่งเป็นการจัดกิจกรรมบีโลว์เดอะไลน์ เป็นหลัก โดยการรุกตลาดน้ำผลไม้ 40% ได้เตรียมเปิดตัว 3-5 รสชาติใหม่ในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมจัดกิจกรรมตามร้านค้าหลากหลายรูปแบบ
โดยนำร่องด้วยการจับมือร่วมกับไวไว จัดแคมเปญโปรโมชั่นร่วมกันในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ เพื่อขยายฐานลูกค้าระดับซี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของไวไว ขณะที่กลุ่มเป้าหมายชบาเป็นกลุ่มระดับบีบวก นอกจากนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้า จำหน่ายในลักษณะเอ็กซ์คลูซีฟในเซเว่นอีเลฟเว่น ส่วนปลายปีหากการกระจายสินค้าได้ครอบคลุมจะพิจารณาเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
ปัจจัยที่บริษัทฯเลือกทำตลาดน้ำผลไม้ 40% ในเชิงรุกเนื่องจากตลาดน้ำผลไม้ 100% มีผู้นำตลาดที่แข็งแกร่ง ส่วนตลาดน้ำผลไม้ 25% ผู้นำตลาดอย่างดีโด้ดำเนินกลยุทธ์ราคา อีกทั้งยังมีผู้ประกอบการรายใหญ่มีงบการตลาดเป็นจำนวนมาก อาทิ เป๊ปซี่ ซึ่งเปิดตัวทรอปิคาน่าลงสู่ตลาด และโค้กเปิดตัวสแปลช ดังนั้นการลงสู่ตลาดดังกล่าว จึงต้องวางแผนอย่างรัดกุมและมีความแตกต่างจากคู่แข่ง ซึ่งในช่วงปลายปีนี้บริษัทจะเปิดตัวน้ำผลไม้ 25% ลงสู่ตลาด
แนวโน้มตลาดน้ำผลไม้มูลค่า 5,000 ล้านบาท คาดว่ามีอัตราการเติบโต 13-15% ในช่วง ปีนี้ไปจนถึงปีหน้า โดยตลาดน้ำผลไม้ 100% มีสัดส่วน 50% หรือคิดเป็นมูลค่า 2,500 ล้านบาท คาดว่ามีอัตราการเติบโตกว่า 20% ส่วนตลาดน้ำผลไม้ 40% และ 25% มีมูลค่า 2,500 ล้านบาท โดยตลาดน้ำผลไม้ 40% มีอัตราการเติบโตช้า ส่วน 25% คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดี
ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าว่าหลังจากที่ไวไวเป็นตัวแทนกระจายสินค้า ยอดขายทางเทรดิชันเทรดจะเพิ่มขึ้น 70% ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 3-5% จากมูลค่า 5,000 ล้านบาท โดยรายได้เฉพาะการจำหน่ายน้ำผลไม้ชบาภายในประเทศเพิ่มจาก 90 ล้านบาทปีที่ผ่านมา เป็น 120-150 ล้านบาทในปีนี้ ขณะที่รายได้รวมปีที่ผ่านมา 500 ล้านบาท แบ่งเป็น ต่างประเทศ 70% และในประเทศ 30% โดยเป็นการรับจ้างผลิต 40%
ไวไวลงอาหารกระป๋อง-ปัดฝุ่นคูลิคูลิ
นายสุชัย ตันติยาสวัสดิกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว เปิดเผยว่า จากนโยบายของบริษัทฯตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ที่เปิดรับเป็นตัวแทนกระจายสินค้าแบรนด์อื่นนอกเหนือจากแบรนด์ไวไว ล่าสุดบริษัทได้น้ำผลไม้ชบาเป็นลูกค้ารายแรก สำหรับปีนี้คาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่ม 1-2 ราย ส่วนแผนระยะยาวตั้งเป้ารายได้จากการเป็นตัวแทนกระจายสินค้าแบรนด์อื่นๆ 15% จากปัจจุบันมี 2% ส่วนแบรนด์ไวไว 85% จากปัจจุบัน 98%
สำหรับปีนี้บริษัทฯได้วางแผนแตกโปรดักส์ไลน์ใหม่ ในกลุ่มอาหารสำเร็จรูปในรูปแบบบรรจุภัณฑ์กระป๋องลงสู่ตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยจะจ้างให้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้ผลิตให้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้ชื่อแบรนด์ไวไว หรือภายใต้อัมเบลล่าแบรนด์
ส่วนแผนการตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว ช่วงครึ่งปีแรกเน้นรสชาติเดิมเป็นหลัก และ 2 รสชาติใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว ได้แก่ ควิกกุ้งมะนาว และสาหร่ายญี่ปุ่น ขณะที่ปลายปีนี้เตรียมเปิดตัว 1 รสชาติใหม่
ทั้งนี้ปัจจัยที่บริษัทฯออกรสชาติใหม่น้อยลงและแตกโปรดักส์ไลน์ใหม่ เนื่องจากประมาณการณ์ว่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมูลค่า 10,500-11,000ล้านบาท ปีนี้มีอัตราการเติบโต 6-7%เท่านั้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโต 8% ดังนั้นงบตลาดปีนี้จึงได้ปรับลดลงจาก 280 ล้านบาทจากปีที่ผ่านมา เป็น 260-270 ล้านบาท โดยเน้นการทำบีโลว์เดอะไลน์เพิ่มขึ้น ส่วนการทำอโบฟเดอะไลน์ลดลง
ส่วนการทำขนมขบเคี้ยวคูลิคูลิได้หยุดทำตลาดไปตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเตรียมที่จะรีลอนช์ใหม่ ซึ่งจะมีการปรับปรุงทั้งรสชาติและบรรจุภัณฑ์ เจาะกลุ่มเป้าหมายเด็กในระดับกลางและล่างเป็นหลัก
ด้านผลประกอบการปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 7-8% จากในปีที่ผ่านมามีรายได้ 3,400 ล้านบาท ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไวคาดว่าจะเพิ่มอีก 2% จากเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมามี 28%