มิสทินรุกเจาะสาวเวียดนาม

มิสทิน โหมลุยตลาดต่างประเทศ เจาะเวียดนามตลาดใหม่ ประเดิมกลุ่มเพอร์ชันนัลแคร์ หลังปลื้มยอดขายที่กัมพูชาและฟิลิปปินส์มาแล้ว ส่วนตลาดในประเทศทุ่มงบ 500 ล้านบาท ลุยเพิ่มสมาชิก พร้อมทำตลาดเต็มที่ ดึงอั้ม-พัชราภา พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ ดันรายได้โต 7%

นายดนัย ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงแบรนด์มิสทิน เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของ มิสทินในปีนี้ จะรุกทำตลาดต่างประเทศมากกว่า โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม สำหรับสินค้าที่จะขายในประเทศเวียดนามก็คือ กลุ่มของเพอร์ซันนัล แคร์ เช่น พวกเครื่องหอมและโลชั่นต่างๆ ปีนี้คาดตลาดเวียดนามโตแน่นอน หลังจากประสบความสำเร็จที่กัมพูชาและฟิลิปปินส์มาแล้ว ซึ่งปีที่แล้วรายได้จากตลาดกัมพูชาโตเกือบ 80%

ด้านกลยุทธ์การตลาดในประเทศก็จะมีการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง ในกลุ่มของเครื่องสำอาง เนื่องจากตลาดกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ และยังได้มีการเพิ่มช่องทางการวางขายตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ เช่น 7-11, bootsฯ ซึ่งมีอัตราการโตเกือบ 100% เลยทีเดียว

สำหรับงบการตลาดในปีนี้ ทางบริษัทฯ ตั้งไว้ที่ 500 ล้านบาท และในปีนี้ก็จะเน้นที่การเพิ่มจำนวนสมาชิก เพื่อให้ยอดขายกระเตื้องขึ้น หลังจากที่ยอดตกมา 5% ในปีที่แล้วที่ประสบกับปัญหาต่างๆ โดยจะเพิ่มจำนวนสมาชิก จาก 6 แสนคนในปีที่แล้ว อาจจะเพิ่มถึง 7 แสนคนภายในปีนี้ บริษัทฯคาดว่าปีนี้จะมีอัตราการโตของรายได้อยู่ที่ 7% จากยอดของปีที่แล้ว ซึ่งยอดรายได้ของปีที่แล้ว มียอดรายได้รวม 6,600 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นในประเทศ 6,200 กว่าล้านบาท และต่างประเทศ 300 กว่าล้านบาท ซึ่งยอดขายของต่างประเทศนั้นมีอัตราการลดลงถึง 20%

สำหรับทางด้านคู่แข่งปีนี้ คงจะไม่มีการแข่งขันกันรุนแรงเท่ากับปีที่ผ่านๆมา เนื่องจากต่างก็ประสบปัญหาสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเหมือนๆกัน ดังนั้นทางบริษัทฯ จึงจะไปเน้นในเรื่องของการตั้งรับมากกว่าการรุก โดยจะเปลี่ยนมาใช้วิธีการสร้างความแข็งแรงให้กับแบรนด์มากกว่า

ส่วนการเปิดร้านขายสินค้าของมิสทินในขณะนี้ คาดว่าคงยังไม่มีการเปิดเพิ่มอย่างแน่นอน เพราะไม่อยากแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ สำหรับร้านของมิสทินที่มีอยู่ได้เปิดไว้ 1 ร้าน เป็นการเปิดเพื่อศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคมากกว่าที่จะชิงชัยกับคู่แข่งรายอื่น

ในส่วนของตัวสินค้าสำหรับปีนี้ คงจะไม่มีสินค้าตัวใดมาเพิ่ม แต่จะเน้นที่การผลิตสินค้าในเครือที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น และเฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น เช่น แป้งผสมรองพื้น มิสทิน นัมเบอร์วัน พริ๊นเซส ที่ได้ อั้ม พัชราภา มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ สำหรับแคมเปญใหม่นี้ใช้งบการตลาดไปเกือบ 50 ล้านบาท

ด้านกลุ่มเป้าหมายของสินค้าจะเน้นที่กลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่มคือ กลุ่มสตรีที่นิยมใช้แป้งที่ไม่ต้องเติมทั้งวัน และกลุ่มของสาวออฟฟิศที่ไม่มีเวลาในการแต่งหน้า