โรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดตัวระบบ E-Immigration ต่อวีซ่าให้กับผู้ป่วยชาวต่างประเทศของโรงพยาบาล ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
นายแพทย์ชาตรี ดวงเนตร ประธานคณะผู้บริหาร ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า โรงพยาบาลได้เปิดตัวระบบ E-Immigration ณ จุดบริการย่อย สำนักงานกองตรวจคนเข้าเมือง สาขาศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่ง E-Immigration เป็นการต่อวีซ่า โดยการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามา โดยผู้ต่อวีซ่าสามารถแสดงตัวผ่านกล้อง Tele Conference ซึ่งสามารถพูดคุยและโต้ตอบกันผ่านกล้องได้ โดยผ่านระบบอินเทอร์เน็ต Ethernet-enable Devices Wireless ความเร็ว 512 เมกกะไบท์
ในเบื้องต้นจะให้บริการเฉพาะผู้ป่วย เนื่องจากยังมีข้อจำกัดในส่วนข้อบังคับของกฎหมาย ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ป่วยต่างชาติที่เข้ามาทำการรักษาที่ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ และในอนาคตอันใกล้นี้จะสามารถให้บริการครอบคลุมถึงญาติผู้ป่วยที่มาดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาล ทั้งนี้เฉพาะวีซ่าประเภท 1. Tourist Visa 2. On Arrival Visa 3. Transit Visa 4. ผ.30 5.Without Visa ซึ่งการดำเนินการในการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ในครั้งนี้ ใช้งบประมาณร่วม 400,000 บาท
นายแพทย์ชาตรีกล่าวต่อว่า ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้รับความร่วมมืออย่างดี กับสำนักงานกองตรวจคนเข้าเมือง ในการนำระบบการทำงาน E-Immigration นี้มาใช้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นบริการพิเศษ สำหรับผู้ป่วยชาวต่างชาติ ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วยแบบครบวงจร เข้ามาบริการ ณ ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ
ขณะนี้ ทางสำนักงานกองตรวจคนเข้าเมือง ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่มาคอยบริการด้านการต่ออายุวีซ่าและบริการต่าง ๆ ณ แผนกคอนเชียส เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ โดยรับบริการต่อวีซ่าได้ทุกวันพฤหัสบดี
นายแพทย์ชาตรี ดวงเนตร ประธานคณะผู้บริหาร ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า โรงพยาบาลได้เปิดตัวระบบ E-Immigration ณ จุดบริการย่อย สำนักงานกองตรวจคนเข้าเมือง สาขาศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่ง E-Immigration เป็นการต่อวีซ่า โดยการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามา โดยผู้ต่อวีซ่าสามารถแสดงตัวผ่านกล้อง Tele Conference ซึ่งสามารถพูดคุยและโต้ตอบกันผ่านกล้องได้ โดยผ่านระบบอินเทอร์เน็ต Ethernet-enable Devices Wireless ความเร็ว 512 เมกกะไบท์
ในเบื้องต้นจะให้บริการเฉพาะผู้ป่วย เนื่องจากยังมีข้อจำกัดในส่วนข้อบังคับของกฎหมาย ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ป่วยต่างชาติที่เข้ามาทำการรักษาที่ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ และในอนาคตอันใกล้นี้จะสามารถให้บริการครอบคลุมถึงญาติผู้ป่วยที่มาดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาล ทั้งนี้เฉพาะวีซ่าประเภท 1. Tourist Visa 2. On Arrival Visa 3. Transit Visa 4. ผ.30 5.Without Visa ซึ่งการดำเนินการในการนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ในครั้งนี้ ใช้งบประมาณร่วม 400,000 บาท
นายแพทย์ชาตรีกล่าวต่อว่า ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้รับความร่วมมืออย่างดี กับสำนักงานกองตรวจคนเข้าเมือง ในการนำระบบการทำงาน E-Immigration นี้มาใช้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นบริการพิเศษ สำหรับผู้ป่วยชาวต่างชาติ ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วยแบบครบวงจร เข้ามาบริการ ณ ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ
ขณะนี้ ทางสำนักงานกองตรวจคนเข้าเมือง ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่มาคอยบริการด้านการต่ออายุวีซ่าและบริการต่าง ๆ ณ แผนกคอนเชียส เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ โดยรับบริการต่อวีซ่าได้ทุกวันพฤหัสบดี