xs
xsm
sm
md
lg

หวั่นเหตุบึ้มกระทบตลาดไมซ์ โปรดักชั่นฯยันไม่ล้ม งานProud

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หวั่นเหตุการณ์ไม่สงบ กระทบธุรกิจไมซ์ สสปน.ระบุมีผลกับการเชิญต่างชาติเข้ามาจัดงานในประเทศไทยปีหน้า เหตุตลาดนี้เป็นกลุ่มนักธุรกิจและผู้บริหาร จึงห่วงเรื่องความปลอดภัย ส่งผลภาพรวมธุรกิจปีนี้โตลดลงเหลือแค่ 5-10% ทางด้าน บริษัท โปรดักชั่นแมเนจเม้นท์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด ยันเดินหน้าจัดงาน Proud Asia 2007 ตอกย้ำประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแห่งธุรกิจบริการ โดยเฉพาะการแพทย์ และ สปา

นายวิทยา สินทราพรรณทร ผู้อำนวยการฝ่ายจัดแสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน.(TCEB) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีก่อน เช่น การขัดแย้งทางการเมือง ,การปฎิรูปการปกครอง ,เหตุลอบวางระเบิดในกรุงเทพฯ ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อการทำงานของ สสปน. แต่ทั้งนี้ปัจจุบันก็ยังไม่การยกเลิกจากผู้จัดงานรายใดทั้งสิ้น โดยระยะสั้น 1-2 เดือนจากนี้ไป(ม.ค.-ก.พ.50) กลุ่มผู้จัดงานที่จะเข้ามาดูสถานที่ หรือเจรจาการจัดงานในปีต่อๆไปอาจมีน้อยลง เพราะวิตกเรื่องความปลอดภัย แต่เชื่อว่าหากสถานการณ์ไม่บานปลาย รัฐสามารถควบคุมได้ เชื่อว่าในเดือนมีนาคมก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งในการทำงานของ สสปน. ขณะนี้ก็มีการชี้แจงข้อเท็จจริงให้แก่ผู้จัดงานได้รับทราบด้วย

กระทบงานอินเตอร์โตลดลง
อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่า เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา จะกระทบ หรือมีผลกับการจัดงานขนาดใหญ่ ของกลุ่มไมซ์(MICE) ได้แก่ มิทติ้ง อินเซนทีฟ คอนเวนชั่น และเอ็กซิบิชั่น ในปีหน้า และปีต่อๆไป ที่จะมีน้อยลง เพราะกลุ่มดังกล่าวมีความอ่อนไหวในเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ โดยจะกังวลเรื่องของความปลอดภัยสูง เพราะส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้บริหาร นักธุรกิจ และกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับวีไอพีในรูปแบบการท่องเที่ยวแบบเป็นรางวัล(อินเซนทีฟ) ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมการจัดงานระดับอินเตอร์ปีนี้น่าจะเติบโตเพียง 5-10% จากปกติที่ธุรกิจนี้จะโตอยู่ที่ 15%

สำหรับในปีนี้ ล่าสุดทุกงานที่จะจัดปีนี้ไม่มีการยกเลิก เพราะได้มีการกำหนดจัดงานและเตรียมตัวล่วงหน้ามาแล้วเป็นปี โดยปีนี้เฉพาะที่เป็นงานเอ็กซิบิชั่นระดับอินเตอร์ขนาดใหญ่ สสปน.ให้การสนับสนุนกว่า 50 งาน แต่หากนับรวมการจัดงานทั้งหมดจะให้การสนับสนุนถึง 300 งาน โดยสสปน.จะเดินหน้าสนับสนุนให้มีการจัดงานในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะหากมีการงดจัดงานยิ่งทำให้บรรยากาศการจัดงานขนาดใหญ่ยิ่งแย่ลงไปอีก

แต่ทั้งนี้มองว่า จากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นเปรียบเทียบเดือน ธ.ค.49 กับเดือน ม.ค.50 โดยในสว่นของดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงจากเดือนธันวาคม 49 ที่ 82.4 ลดเหลือ 80.1 ในเดือน มกราคม 50 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจโดยรวมลดลงจาก 76.5 ในเดือนธันวาคม เหลือ 74.3 ในเดือนมกราคมดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานลดจาก 77.4 เหลือ 75.6 จะส่งผลให้การจัดงานประเภทคอนซูเมอร์แฟร์ ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นตลาดคนไทย เช่น งาน เฟอร์นิเจอร์แฟร์ งานของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้าแฟชั่น เป็นต้น ผู้จัดงานจะต้องคิดหนัก เพราะจากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องมาตลอด 5 เดือน สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อของคนไทยที่ลดลง อาจเป็นเพราะเรื่องเศรษฐกิจ และ ความไม่มั่นใจทางการเมือง จึงหันมาประหยัดการใช้จ่าย

เกี่ยวแขนเอกชนออกโรดโชว์
นายวิทยา กล่าวถึงแผนการทำงานของฝ่ายจัดแสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ หรือ เอ็กซิบิชั่น ปีนี้ จะทำตลาดต่างจากปีก่อน โดยจะเน้นเรื่องของการเดินสายออกโรดโชว์ในต่างประเทศแต่จะไปพร้อมกับผู้ประกอบการเอกชน และสมาคมต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนของไทย ได้พบปะกับภาคเอกชนในต่างประเทศ เกิดการเจรจาทางธุรกิจ และความร่วมมือในการจัดงาน ซึ่งปีก่อน จะเน้นการโรดโชว์เพื่อโปรโมต หรือประชาสัมพันธ์ศักยภาพของประเทศไทยในการจัดงานเอ็กซิบิชั่นระดับนานาชาติเท่านั้น และปีนี้จะขยายตลาดไปโรดโชว์ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางด้วย เนื่องจากที่ผ่านมา พบว่าตลาดตะวันออกกลาง มีการเดินทางเข้ามาชมงานเอ็กซิบิชั่นในประเทศไทยจำนวนมาก ส่วนแผนการเดินทางโรดโชว์ที่กำหนดไว้เบื้องต้น คือ มีนาคม โรดโชว์ในแถบอาเซียน ,เมษายน โรดโชว์ กลุ่มประเทศเอเชียใต้ และ พฤษภาคม โรดโชว์กลุ่มประเทศยุโรป โดยปีนี้ จะขยายตลาดออกไปยังประเทศ สเปน ฝรั่งเศา และเนเธอร์แลนด์ ด้วย

จัด Proud Asia ชูศักยภาพธุรกิจบริการไทย
นางณัฐประภา หยกพุทธรักษา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรดักชั่นแมเนจเม้นท์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ริเริ่มจัดงาน Proud Asia 2007 เป็นปีแรก โดยรวมกับ บริษัทอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเมทน์ จำกัด กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 27-30 กันยายน 2550 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยใช้งบประมาณจัดงานที่ 12 ล้านบาท รวมด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ มีพื้นที่จัดงาน 10,000 ตารางเมตร ผู้ร่วมแสดงสินค้ากว่า 300 บริษัท ขณะนี้มีผู้จองบูธแล้วกว่า 20% คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 15,000 คน เงินสะพัด

โดยงานดังกล่าวเป็นงานเทรดโชว์และโรดโชว์ ของกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจบริการ เช่น Medical Tourism , Beauty และ Wellness ซึ่งจะมีผู้ประกอบการคนไทยและต่างชาติมาร่วมออกบูธ แสดงศักยภาพของตัวเอง ขณะที่กลุ่มผู้เข้าชมงานจะเป็นผู้ซื้อจากต่างชาติ ทั้งกลุ่มคอนซูเมอร์ และ กลุ่มเอเยนต์ ซึ่งงานนี้ บริษัทคาดหวังที่จะโชว์ศักยภาพธุรกิจบริการของไทย เช่นเรื่องการแพทย์ สปา และอื่นๆ ให้แก่ต่างชาติได้รับรู้ เป็นการตอกย้ำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจเกี่ยวกับไมซ์ ในอาเซียน

“ธุรกิจบริการของไทยโดดเด่นเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ ซึ่งงานนี้จะตอกย้ำได้เป็นอย่างดี โดยกลุ่มบริการที่มาแรงสุด ได้แก่ ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ , ศัลยกรรมพลาสติกและอื่นๆ , บริการด้านความสวยความงาม และสปา เป็นต้น โดยตัวเลขจาก ททท.ระบุว่า ต่อปีมีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 5 ล้านคน ที่เข้ามาประเทศไทยเพื่อใช้บริการด้านการบำบัดทางการแพทย์โดยเฉพาะ ”

สำหรับประเทศที่จะเข้ามาร่วมออก บูธ ในงาย ได้แก่ ไต้หวัน จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง ซึ่งจะเน้นเรื่องการนำเทคโนโลยีเข้ามาโชว์ ส่วนลูกค้าเข้าชมงานจะมีจากนานาประเทศ เช่น จากกลุ่มยุโรป เอเชีย ได้แก่ จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย



กำลังโหลดความคิดเห็น