xs
xsm
sm
md
lg

เมอร์ชันไดส์“พระนเรศวร”ออกรบ พร้อมมิตรคาดรายได้800ล.ล้มแชมป์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“พร้อมมิตร” ประกาศ กลยุทธ์ทำตลาดครบวงจร หนังฟอร์มยักษ์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” มั่นใจทั้งงบและกิจกรรม มากที่สุดในตลาดหนังเมืองไทย ด้วยงบตลาดเฉพาะกว่า 70 ล้านบาท ไม่รวมอีก 4 พันธมิตรหลักที่ร่วมหอลงโรงด้วย ด้านเซเว่นอีเลฟเว่นคว้าสิทธิ์เมอรชันไดส์เรียบวุธ คาดหนังทำรายได้มากว่า 800 ล้านบาททั้งสองภาค ล้มแชมป์สุริโยทัยแน่นอน

นายคุณากร เศรษฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร้อมมิตร โปรดักชั่น จำกัด เปิดเผย “ผู้จัดการรายวัน” ว่า กลยุทธ์การทำตลาดของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ทั้งสองภาค (ภาค 1 องค์ประกันหงสา จะลงโรงฉายเป็นทางการวันที่ 18 มกราคมนี้ และภาค 2 ประกาศอิสรภาพ ลงโรงฉายวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้) ด้วยงบลงทุนสร้างกว่า 700 ล้านบาท จะมีการใช้กลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจรเต็มที่ และอาจกล่าวได้ว่าจะเป็นหนังไทยเรื่องเดียวที่มีการทำตลาดได้มากถึงขนาดนี้

“ตอนนี้กระแสของหนังเรื่องนี้คงจะแรงมาก เพราะถือเป็นช่วงที่ประเทศไทยต้องการความสงบ ความรักชาติพอดี แม้ว่าเราจะเริ่มโปรโมทสร้างกระแสมาตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้วก็ตาม เพื่อต้อนรับการฉายในช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้วตามกำหนดเดิมแต่เราก็เลื่อนออกมาเป็น วันที่ 18 มกราคมปีนี้แทน ก็คิดว่ากระแสยังไม่หายไป และเมื่อภาคแรกจบลงก็ต่อด้วยภาคสองทันที ถือเป็นแรงเสริมกันอย่างดียิ่ง”

โดยงบการตลาดในส่วนของบริษัทฯที่ใช้นั้นมีประมาณ 60-70 ล้านบาท ซึ่งยังไม่นับรวมงบประมาณการตลาด กิจกรรมต่างๆของพันธมิตรที่เป็นสปอนเซอร์หลักอีก 4 รายคือ เซเว่นอีเลฟเว่น ทรูมูฟ ธนาคารไทยพาณิชย์ และการบินไทย ซึ่งในส่วนของการจัดจำหน่ายหนังนั้นทางสหมงคลฟิล์มเป็นผู้รับผิดชอบทั้งตลาดในประเทศและต่างประทศ ส่วนลิขสิทธิ์การผลิตสินค้าเมอร์ชันไดส์นั้น จะมีบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) เป็นรายใหญ่ที่รับสิทธิ์มากกว่า 90% โดยเป็นการมอบสิทธิ์ให้เนื่องจากทางเซเว่นฯได้สนับสนุนเงินในการทำประชาสัมพันธ์และร่วมการตลาดประมาณ 150- 200 ล้านบาท ส่วนผู้รับสิทธิ์รายที่เหลือเป็นรายย่อยๆ

ทั้งนี้ทางเซเว่นฯจะเป็นผู้รับสิทธิ์และจ้างซัปพลายเออร์หลายรายในการผลิตสินค้าให้ตามความถนัดของแต่ละบริษัทและจะวางจำหน่ายเฉพาะที่ร้านเซเว่นฯทั่วประทศกว่า 4,000 สาขา เช่น สายรัดข้อมือ แท็ตทู ถ้วยมักลายนักแสดง หมวก เสื้อยืด ดีวีดี วีซีดี สมุดปกอ่อน แฟ้ม สมุดโน้ตสันห่วง โปสการ์ด กล่องดินสอ ชุดปากกาดินสอ สติ๊กเกอร์ พวงกุญแจ เกมพัฒนาทักษะ ตำนานภาพประกอบการระบายสี เป็นต้น ซึ่งราคาจำหน่ายตั้งแต่ 19 บาทถึง 299 บาทต่อชิ้น โดยผู้ผลิตก็มีเช่น ดีซูพรีม, วิทตี้ไอเดีย, เซอราเดคคอร์, แคมป์มีเดีย, คริสตอล เป็นต้น

นอกนั้นก็เป็นผู้รับสิทธิ์รายอื่นเช่น หนังสือตามรอยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยกลุ่มอมรินทร์ ขายที่ร้านหนังสือนายอินทร์และร้านหนังสือชั้นนำ ราคา 385 บาท , หนังสือเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ ผลิตโดย ไบโอสโคป จัดจำหน่ายโดยพร้อมมิตร ราคา 1,400 บาท , หนังสือดาราภาพยนตร์ฉบับพิเศษ โดยดาราภาพยนตร์ ราคา 80 บาท, ดีวีดีและวีซีดี ผลิตโดยแฮปปี้โฮม จัดจำหน่ายโดยสหมงคลฟิล์ม ราคา 129 บาทและ 69 บาทตามลำดับ, เกมการ์ด ผลิตและจัดจำหน่าย โดยพร้อมมิตรโปรดักชั่น ราคา 145 บาท , ตัวตุ๊กตา ผลิตโดยอาร์ทีบ๊อกซ์ ราคาประมาณ 3,900 บาท

สำหรับการประมาณการรายได้ของหนังเรื่องนี้คาดว่า ภาคแรกจะได้ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท เช่นเดียวกับภาคสองที่จะมีรายได้ใกล้เคียงกัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนังที่สร้างรายได้สูงที่สุดในตลาดเมืองไทย ทำลายหนังเรื่อง สุริโยทัย ซึ่งเป็นของพร้อมมิตรฯเช่นกันที่ทำไว้ได้ประมาณ 400 กว่าล้านบาทในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา เฉพาะรายได้ในประเทศไทยเท่านั้น ส่วนตลาดต่างประเทศนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาจะรวมเป็นภาคเดียวแล้วขายจะดีกว่าหรือไม่ เพราะถ้าเป็นสองภาคจะนานเกินไป อาจจะไม่เหมาะสม ซึ่งทางสหมงคลฟิล์มก็จะเป็นผู้จัดจำหน่ายเหมือนเดิม

ขณะที่จำนวนก๊อปปี้ของหนังเรื่องนี้คาดว่าจะมีการทำออกมามากที่สุดก็ว่าได้ประมาณ 230-240 ชุด โดยลงโรงด้วยจำนวนจอที่มากที่สุดกว่าหนังเรื่องสุริโยทัย

ส่วนพันธมิตรสปอนเซอร์อื่นก็มีความเคลื่อนไหว เช่น เซเว่นอีเลฟเว่นนอกจากขายสินค้าเมอร์ชันไดส์ด้วยการแยกเชลฟ์วางสินค้าออกมาต่างหากทุกสาขา ยังมีการแจกแฮนด์บิลกว่า 5 ล้านใบ หรือการทำโปรโมชั่นในการซื้อสินค้าที่ร้านด้วย ด้านทรูมูฟก็มีการทำบัตรเติมเงินลายของหนังเรื่องนี้ ดาวน์โหลดเพลงฟรี เป็นต้น ส่วนการบินไทยก็จะมีการตกแต่งเครื่องบินทั้งภายในและภายนอกเครื่องเป็นลายของหนังเรื่องนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ ทำบัตรเอทีเอ็มลายของหนังรื่องนี้ พร้อมทั้งขึ้นคัทเอาต์ทั่วประเทศกว่า 50 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น