xs
xsm
sm
md
lg

ศรีทองหันจับตลาดภูธรเสริมรายได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศรีทองฯ ห่วงเหตุบึ้มฉุดรายได้ทั้งปีหาย 30% ปรับยุทธ์ศาสตร์โฟกัสตลาดภูธรดันยอดรายได้ในเมืองกรุงเสริมอีกทาง

นาย องอาจ มหาดำรงค์กุล ผู้บริหารระดับสูง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีทองพาณิชย์ ผู้นำเข้าและทำตลาดนาฬิกาแบรนด์เนมจากต่างประเทศ อาทิ อควอนูติค ฟอร์เม็กซ์ 4 สปีด และโซทิส เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นส่งผลให้กลุ่มลูกค้าจะมีการเปลี่ยนพฤติกรรมในการออกมาจับจ่ายลดน้อยลง เนื่องจากหวาดกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นอีก ซึ่งในขณะนี้แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะผ่านไปได้ 2 สัปดาห์แล้วแนวโน้มลูกค้าที่ออกจากบ้านมีน้อยลงอยู่ยังไม่มียอดกระเตื้องขึ้นแต่อย่างใด และสิ่งนี้ทำให้บริษัทฯเกรงว่าปัจจัยลบเหล่านี้จะส่งผลต่อระยะยาวถึงปลายปีในแง่ของรายได้ของบริษัทอาจจะลดลงมากถึง 30% ก็เป็นได้

ดังนั้นบริษัทฯจึงมีการปรับแผนเพื่อรุกทำตลาด ด้วยการโฟกัสการทำตลาดไปที่ต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่สินค้าของบริษัทฯจะรุกทำตลาดในกรุงเทพฯโดยส่วนใหญ่กลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มคนเมือง นับจากนี้ไปบริษัทฯจะปรับเปลี่ยนและทำให้กลุ่มทาร์เก็ตของลูกค้าให้หลากหลายมากขึ้นเนื่องจากตลาดในกรุงเทพได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด ส่งผลให้ลูกค้าไม่กล้าเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้า และทำให้ยอดขายนาฬิกาลดลงไปด้วย

อย่างไรก็ตามการเพิ่มเติมการทำตลาดต่างจังหวัด สิ่งหนึ่งเพื่อทดแทนรายได้ในกรุงเทพบางส่วนที่หายไป โดยจะเน้นฝึกอบรมพนักงานขายให้กระตุ้นลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าทันทีเมื่อเข้ามาภายในร้าน จากเดิมที่ลูกค้าอาจใช้เวลาเดินทางมาชมสินค้าหลายครั้งก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งทำให้โอกาสในการขายน้อยลง ทั้งนี้หากภาพรวมของตลาดยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้น บริษัทฯยังเตรียมปรับแผนการตลาดและเป้าหมายยอดขายใหม่ โดยจะดูจากผลประกอบการในไตรมาส 1เสียก่อน ทั้งนี้เป้าหมายเดิมบริษัทฯคาดว่าทั้งปีจะต้องเติบโตให้ได้อย่างน้อย 18%

“ปีนี้เศรษฐกิจโดยรวมไม่ดีเท่าที่ควร บวกกับเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของลูกค้าต้องลดลง และไม่กล้าใช้จ่ายเหมือนเช่นเคย ส่งต่อให้ภาพรวมตลาดนาฬิกาทั้งปี บริษัทฯเชื่อว่ายังแข่งขันรุนแรงเหมือนทุกปีที่ผ่านมา หรือไม่ก็รุนแรงมากกว่าเนื่องจากแต่ละห้างฯ จำเป็นต้องจัดโปรโมชั่น หรืองานวอทช์ แฟร์ กระตุ้นตลาด เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อให้กลับมาเหมือนเดิม ”

นอกจากนี้สินค้าทุกแบรนด์จะเน้นนำเข้านาฬิการุ่นใหม่ ไว้สำหรับเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นและวันเริ่มทำงานเป็นหลัก เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อต่อเนื่อง อีกทั้งมีพฤติกรรมบอกต่อ และนิยมซื้อสินค้าตามเทรนด์ ขณะที่วัยทำงานซึ่งอยู่ในวัยกลางคน จะหันมาใช้เงินน้อยลง เนื่องจากเป็นกลุ่มที่รู้และประหยัดเงินตามสภาพเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม นาฬิกาที่มีราคาแพง จะยังขายได้ เพราะมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะ แต่จำนวนที่จำหน่ายได้จะน้อยลง ซึ่งจุดนี้ขึ้นกับรัฐบาลว่าจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น