การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ส่งผลให้ธุรกิจการบินขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกสายการบินต้องเร่งเดินหน้าธุรกิจไปพร้อมกับท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรง กลยุทธ์ด้านการบริการเพื่อสร้างความประทับใจถือเป็นหัวใจหลักในธุรกิจนี้ เพื่อฉีกหนีการใช้กลยุทธ์สงครามราคา
จากกระแสการให้บริการของสายการบินต้นทุนต่ำ(โลว์คอสต์) ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างความคุ้นเคยให้กับคนไทยให้หันมาใช้การเดินทางด้วยสายการบินเพิ่มมากขึ้น โดยมี 3 สายการบินหลักที่ให้บริการในเซกเมนต์นี้ คือ สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย ,นกแอร์ และวัน-ทู-โก โดย ณ ขณะนี้ทุกสายการบินดูเหมือนธุรกิจจะขยายตัวไปในทิศทางที่ดี ต่างเริ่มมองหาการเปิดเส้นทางบินใหม่ๆเพิ่มขึ้นทั้งเส้นทางในประเทศและเส้นทางต่างประเทศในระยะบินที่ไม่เกิน 3-4 ชั่วโมง
การเติบโตของธุรกิจอย่างรวดเร็วนี้ ได้ส่งผลให้อุตสาหกรรมนี้ เริ่มเข้าสู่วัฎจักรของการซื้อตัวบุคคลากร ซึ่งถือเป็นวิธีเดียวที่เป็นทางลัดของการมองหาบุคลากรคุณภาพเข้ามารองรับการขยายตัวในธุรกิจของตัวเอง ซึ่งธุรกิจสายการบินถือเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่พนักงานต้องได้รับความฝึกฝนเป็นอย่างดีและที่สำคัญต้องมีหัวใจเรื่องการบริการ
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานกรรมการ บริษัท โอเรียนท์ไทย แอร์ไลน์ จำกัด ผู้บริหารสายการบิน วัน-ทู-โก บายโอเรียนท์ไทย เปิดเผยว่า ต้นปีนี้บริษัทเตรียมจับมือกับมหาวิทยาลัยในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อจัดทำศูนย์การฝึกพนักงาน หรือ เทรนนิ่งเซ็นเตอร์ โดยจะจัดทำเป็นหลักสูตรการฝึกอบรม ซึ่งมหาวิทยาลัย สามารถนำหลักสูตรดังกล่าวไปบรรจุไว้ในภาควิชาของมหาวิทยาลัยได้เช่นกัน นอกจากนั่น บริษัทจะจ้างผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจบริการให้มาเป็นวิทยากรในการฝึกอบรมในแต่ละรุ่น ในส่วนของพนักงานเก่าก็จะมีหลักสูตรฝึกอบรมทุก 3 เดือนเช่นกัน นอกจากนั้นจะมีโครงการ”ผู้นำ” โดยจะจัดฝึกอบรมบุคลากรในระดับหัวหน้าทุกเดือน หมุนเวียนไปในแต่ละแผนก ทั้งหมดที่กล่าวมาคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้นราว 100 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทมีแผนเพิ่มพนักงานในสายบริการ ปฎิบัติการ และต้อนรับอีกไม่น้อยกว่า 200 อัตรา ยังไม่ร่วมฝ่ายซ่อมบำรุงที่จะต้องรับพนักงานเพิ่ม เพื่อให้บริการการตรวจเช็คเครื่องบินในทุกเที่ยวบินได้ทันเวลา เพราะปีนี้ บริษัทจะเพิ่มเครื่องบินอีก 5 ลำ จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 5 ลำ
ทั้งนี้จากสถานการณ์การแข่งขันในธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ ส่งผลให้พนักงานของ วัน-ทู-โก ถูกสายการบินต้นทุนต่ำที่เป็นคู่แข่งซื้อตัวไปจำนวนมาก โดยเสนอรายได้ต่อเดือนที่สูงกว่า ซึ่งวิธีการเช่นนี้ ถือว่าเป็นมารยาทที่ไม่ดี แต่บริษัทก็ไม่สามารถทัดทานพนักงานที่ถูกซื้อตัวให้อยู่ต่อไปได้ ดังนั้นปีนี้ บริษัทจึงเตรียมออกกฎสำหรับผู้ที่จะตัดสินใจลาออกจากบริษัทไว้ว่า ต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนออก 3 เดือน หรือ 90 วัน จากปกติตามระเบียบทั่วไปจะต้องแจ้งก่อนล่วงหน้าเพียง 15 วัน เพราะบริษัทต้องการเวลาที่จะฝึกพนักงานเข้ามาทดแทนคนเก่าที่ออกไป แต่บริษัทมีข้อเสนอที่ดีให้แก่พนักงานที่ปฎิบัติตามกฎที่ตั้งไว้ดังกล่าว ด้วยค่าตอบแทนเป็นเงินสวัสดิการจำนวนหนึ่ง แต่หากผู้ที่ไม่ปฎิบัติตามกฎบริษัทก็จะไม่ให้ค่าตอบแทนใดๆเลย
สาเหตุที่พนักงานของบริษัทถูกซื้อตัวจากสายการบินคู่แข่งจำนวนมาก เพราะเราให้ความสำคัญกับการฝึกพนักงานให้มีหัวใจบริการที่ดี ซึ่งเราใช้ตรงนี้เป็นจุดขายให้ลูกค้าประทับใจ เกิดการบอกต่อและมาใช้บริการซ้ำ พนักงานของ วัน-ทู-โก จึงถือว่ามีประสิทธิภาพด้านการให้บริการที่ดี ซึ่งเมื่อสายการบินคู่แข่งซื้อตัวไป ก็สามารถปฎิบัติงานได้ทันที ไม่จำเป็นต้องไปเสียเวลาในการฝึกเพิ่มเติม
นายอุดม กล่าวทิ้งทายว่า การปรับปรุงเรื่องการบริการ ไปพร้อมกับการเพิ่มฝูงบินของ วัน-ทู-โก ในปีนี้ ส่วนหนึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2552 ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ซึ่งการยอมเสียอำนาจส่วนหนึ่งไปให้แก่ผู้ถือหุ้น เพื่อระดมเงินทุนเข้าบริษัทนั้น จุดประสงค์เดียวก็คือ ต้องการเพิ่มศักยภาพทางด้านการแข่งขัน และหวังว่าการเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ วัน-ทู-โก ไม่ต้องเสียเปรียบด้วยการถูกเลือกปฎิบัติเหมือนที่เป็นเช่นทุกวันนี้
จากกระแสการให้บริการของสายการบินต้นทุนต่ำ(โลว์คอสต์) ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างความคุ้นเคยให้กับคนไทยให้หันมาใช้การเดินทางด้วยสายการบินเพิ่มมากขึ้น โดยมี 3 สายการบินหลักที่ให้บริการในเซกเมนต์นี้ คือ สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย ,นกแอร์ และวัน-ทู-โก โดย ณ ขณะนี้ทุกสายการบินดูเหมือนธุรกิจจะขยายตัวไปในทิศทางที่ดี ต่างเริ่มมองหาการเปิดเส้นทางบินใหม่ๆเพิ่มขึ้นทั้งเส้นทางในประเทศและเส้นทางต่างประเทศในระยะบินที่ไม่เกิน 3-4 ชั่วโมง
การเติบโตของธุรกิจอย่างรวดเร็วนี้ ได้ส่งผลให้อุตสาหกรรมนี้ เริ่มเข้าสู่วัฎจักรของการซื้อตัวบุคคลากร ซึ่งถือเป็นวิธีเดียวที่เป็นทางลัดของการมองหาบุคลากรคุณภาพเข้ามารองรับการขยายตัวในธุรกิจของตัวเอง ซึ่งธุรกิจสายการบินถือเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่พนักงานต้องได้รับความฝึกฝนเป็นอย่างดีและที่สำคัญต้องมีหัวใจเรื่องการบริการ
นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานกรรมการ บริษัท โอเรียนท์ไทย แอร์ไลน์ จำกัด ผู้บริหารสายการบิน วัน-ทู-โก บายโอเรียนท์ไทย เปิดเผยว่า ต้นปีนี้บริษัทเตรียมจับมือกับมหาวิทยาลัยในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อจัดทำศูนย์การฝึกพนักงาน หรือ เทรนนิ่งเซ็นเตอร์ โดยจะจัดทำเป็นหลักสูตรการฝึกอบรม ซึ่งมหาวิทยาลัย สามารถนำหลักสูตรดังกล่าวไปบรรจุไว้ในภาควิชาของมหาวิทยาลัยได้เช่นกัน นอกจากนั่น บริษัทจะจ้างผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจบริการให้มาเป็นวิทยากรในการฝึกอบรมในแต่ละรุ่น ในส่วนของพนักงานเก่าก็จะมีหลักสูตรฝึกอบรมทุก 3 เดือนเช่นกัน นอกจากนั้นจะมีโครงการ”ผู้นำ” โดยจะจัดฝึกอบรมบุคลากรในระดับหัวหน้าทุกเดือน หมุนเวียนไปในแต่ละแผนก ทั้งหมดที่กล่าวมาคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้นราว 100 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทมีแผนเพิ่มพนักงานในสายบริการ ปฎิบัติการ และต้อนรับอีกไม่น้อยกว่า 200 อัตรา ยังไม่ร่วมฝ่ายซ่อมบำรุงที่จะต้องรับพนักงานเพิ่ม เพื่อให้บริการการตรวจเช็คเครื่องบินในทุกเที่ยวบินได้ทันเวลา เพราะปีนี้ บริษัทจะเพิ่มเครื่องบินอีก 5 ลำ จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 5 ลำ
ทั้งนี้จากสถานการณ์การแข่งขันในธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ ส่งผลให้พนักงานของ วัน-ทู-โก ถูกสายการบินต้นทุนต่ำที่เป็นคู่แข่งซื้อตัวไปจำนวนมาก โดยเสนอรายได้ต่อเดือนที่สูงกว่า ซึ่งวิธีการเช่นนี้ ถือว่าเป็นมารยาทที่ไม่ดี แต่บริษัทก็ไม่สามารถทัดทานพนักงานที่ถูกซื้อตัวให้อยู่ต่อไปได้ ดังนั้นปีนี้ บริษัทจึงเตรียมออกกฎสำหรับผู้ที่จะตัดสินใจลาออกจากบริษัทไว้ว่า ต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนออก 3 เดือน หรือ 90 วัน จากปกติตามระเบียบทั่วไปจะต้องแจ้งก่อนล่วงหน้าเพียง 15 วัน เพราะบริษัทต้องการเวลาที่จะฝึกพนักงานเข้ามาทดแทนคนเก่าที่ออกไป แต่บริษัทมีข้อเสนอที่ดีให้แก่พนักงานที่ปฎิบัติตามกฎที่ตั้งไว้ดังกล่าว ด้วยค่าตอบแทนเป็นเงินสวัสดิการจำนวนหนึ่ง แต่หากผู้ที่ไม่ปฎิบัติตามกฎบริษัทก็จะไม่ให้ค่าตอบแทนใดๆเลย
สาเหตุที่พนักงานของบริษัทถูกซื้อตัวจากสายการบินคู่แข่งจำนวนมาก เพราะเราให้ความสำคัญกับการฝึกพนักงานให้มีหัวใจบริการที่ดี ซึ่งเราใช้ตรงนี้เป็นจุดขายให้ลูกค้าประทับใจ เกิดการบอกต่อและมาใช้บริการซ้ำ พนักงานของ วัน-ทู-โก จึงถือว่ามีประสิทธิภาพด้านการให้บริการที่ดี ซึ่งเมื่อสายการบินคู่แข่งซื้อตัวไป ก็สามารถปฎิบัติงานได้ทันที ไม่จำเป็นต้องไปเสียเวลาในการฝึกเพิ่มเติม
นายอุดม กล่าวทิ้งทายว่า การปรับปรุงเรื่องการบริการ ไปพร้อมกับการเพิ่มฝูงบินของ วัน-ทู-โก ในปีนี้ ส่วนหนึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2552 ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ซึ่งการยอมเสียอำนาจส่วนหนึ่งไปให้แก่ผู้ถือหุ้น เพื่อระดมเงินทุนเข้าบริษัทนั้น จุดประสงค์เดียวก็คือ ต้องการเพิ่มศักยภาพทางด้านการแข่งขัน และหวังว่าการเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ วัน-ทู-โก ไม่ต้องเสียเปรียบด้วยการถูกเลือกปฎิบัติเหมือนที่เป็นเช่นทุกวันนี้