อ.ก.พ.คลัง มีมติไล่ออก “ศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์” และพวก โดยไม่มีบำเหน็จบำนาญให้ “ชายอุ๋ย” ชี้ อธิบดีคนใหม่ ให้ “สมหมาย” ชงรายชื่อปลายสัปดาห์นี้ ลั่น “ข้าราชการยุคนี้ แม้เปลืองตัว ก็ต้องมีความเด็ดขาด”
เวลา 08.00 น.วันนี้ (25 ธ.ค.) ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เชิญคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน กระทรวงการคลัง (อ.ก.พ.คลัง) เข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาตามมติของคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่สอบสวนพบว่า นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ รองอธิบดีกรมสรรพากร ในขณะนั้น และข้าราชการในกรมสรรพากร รวม 5 คน มีความผิดร้ายแรง โดย นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษก ป.ป.ช.ได้บรรยายข้อความผิดของทั้งหมด
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาจากที่ ป.ป.ช.ได้บรรยายข้อความผิด ก็พบว่า มีความชัดเจน คือ มีโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง โทษก็เหลือประการเดียว คือ ไล่ออก และที่ประชุมก็มีมติให้ไล่ออกทั้ง 5 คน ซึ่งก็เป็นเสียงเอกฉันท์ เพราะว่าลักษณะความผิดที่บรรยายเป็นลักษณะความผิดทางวินัยที่ร้ายแรงเช่นเดียวกันหมด
“ไม่มีประตูอื่น แถมคำบรรยายยังยาวมาก มติจึงต้องไล่ออก โดยไม่มีบำเหน็จบำนาญให้ อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปก็จะจัดทำมติรายงานของที่ประชุม อ.ก.พ.คลัง ให้แล้วเสร็จในอีก 3 วันนี้ และจากนั้นปลัดกระทรวงการคลัง ก็จะออกประกาศกระทรวงต่อไป” ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว
สำหรับผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งอธิบดีคนใหม่ นายสมหมาย ภาษี รมช.คลัง จะเป็นผู้ดูแลทั้งหมด และเชื่อว่า ในสัปดาห์นี้จะสามารถรายงานรายชื่ออธิบดีคนใหม่มายังตนได้ อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีมติจาก อ.ก.พ.คลัง เพื่อลงโทษแล้ว ผู้ที่ถูกกล่าวโทษก็จะสามารถอุทธรณ์ไปยังคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้ อย่างไรก็ตาม หากมติของ อ.ก.พ.ที่รับเรื่องอุทธรณ์ออกมาเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของอนาคตว่า จะมีบำเหน็จบำนาญให้หรือไม่
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวอีกว่า ตนมีความเห็นใจสำหรับข้าราชการในกระทรวงการคลังที่ถูกกล่าวโทษมาเช่นนี้ เพราะคำบรรยายที่รับทราบออกมาชัดว่ามีความผิดอย่างร้ายแรง และตนก็เห็นใจทุกคน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะเข้ามาทำงานแทนในตำแหน่งที่ถูกไล่ออกจะลำบากใจหรือไม่ ตนเห็นว่า “เขาจะต้องยืนให้มั่น อะไรที่ต้องให้ความเห็นอย่างเด็ดขาด ก็ขอทำให้เด็ดขาด อย่าไปอะลุ้มอะล่วยเท่านั้นเอง ก็มีหน้าที่เท่านั้น เพราะข้าราชการมีหน้าที่รักษาความถูกต้องถึงแม้ว่าจะเปลืองตัวหน่อย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยังกล่าวถึงกรณีที่สภาหอการค้าเห็นว่า ระยะเวลาของการปรับตัวของต่างชาติในการเป็นนอมินีมีน้อยเกินไประหว่าง 6-10 เดือนนั้น ตนยังไม่ทราบ แต่จะต้องรอจากกระทรวงพาณิชย์ ส่งรายงานมาก่อน แต่หากมีเสียงออกมาเช่นนี้ แสดงว่า เขามีความพอใจกับระยะเวลาการปรับตัวนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อ.ก.พ.คลัง ทั้ง 10 คน มีผู้เข้าร่วมประชุมไม่ครบ โดยผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม เช่น นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อดีตอธิบดีกรมบัญชีกลาง สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ ที่ถูกโยกย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2549 ป.ป.ช.ได้กล่าวโทษเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร 5 คน ได้แก่ 1.นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ รองอธิบดีกรมสรรพากรในขณะนั้น 2.นายวิชัย จึงรักเกียรติ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กรมสรรพากร 3.น.ส.สุจินดา แสงชมภู นิติกร 9 4.น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ นิติกร 8 และ 5.น.ส.กุลฤดี แสงสายัณห์ นิติกร 7 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน ละเว้นการไม่เก็บภาษี และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 154 มาตรา 157 และมีความผิดวินัยร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 82 วรรค 3 มาตรา 85 วรรค 2 และ มาตรา 98 วรรค 2
เวลา 08.00 น.วันนี้ (25 ธ.ค.) ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เชิญคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน กระทรวงการคลัง (อ.ก.พ.คลัง) เข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาตามมติของคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่สอบสวนพบว่า นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ รองอธิบดีกรมสรรพากร ในขณะนั้น และข้าราชการในกรมสรรพากร รวม 5 คน มีความผิดร้ายแรง โดย นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษก ป.ป.ช.ได้บรรยายข้อความผิดของทั้งหมด
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาจากที่ ป.ป.ช.ได้บรรยายข้อความผิด ก็พบว่า มีความชัดเจน คือ มีโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง โทษก็เหลือประการเดียว คือ ไล่ออก และที่ประชุมก็มีมติให้ไล่ออกทั้ง 5 คน ซึ่งก็เป็นเสียงเอกฉันท์ เพราะว่าลักษณะความผิดที่บรรยายเป็นลักษณะความผิดทางวินัยที่ร้ายแรงเช่นเดียวกันหมด
“ไม่มีประตูอื่น แถมคำบรรยายยังยาวมาก มติจึงต้องไล่ออก โดยไม่มีบำเหน็จบำนาญให้ อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปก็จะจัดทำมติรายงานของที่ประชุม อ.ก.พ.คลัง ให้แล้วเสร็จในอีก 3 วันนี้ และจากนั้นปลัดกระทรวงการคลัง ก็จะออกประกาศกระทรวงต่อไป” ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว
สำหรับผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งอธิบดีคนใหม่ นายสมหมาย ภาษี รมช.คลัง จะเป็นผู้ดูแลทั้งหมด และเชื่อว่า ในสัปดาห์นี้จะสามารถรายงานรายชื่ออธิบดีคนใหม่มายังตนได้ อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีมติจาก อ.ก.พ.คลัง เพื่อลงโทษแล้ว ผู้ที่ถูกกล่าวโทษก็จะสามารถอุทธรณ์ไปยังคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้ อย่างไรก็ตาม หากมติของ อ.ก.พ.ที่รับเรื่องอุทธรณ์ออกมาเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของอนาคตว่า จะมีบำเหน็จบำนาญให้หรือไม่
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวอีกว่า ตนมีความเห็นใจสำหรับข้าราชการในกระทรวงการคลังที่ถูกกล่าวโทษมาเช่นนี้ เพราะคำบรรยายที่รับทราบออกมาชัดว่ามีความผิดอย่างร้ายแรง และตนก็เห็นใจทุกคน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะเข้ามาทำงานแทนในตำแหน่งที่ถูกไล่ออกจะลำบากใจหรือไม่ ตนเห็นว่า “เขาจะต้องยืนให้มั่น อะไรที่ต้องให้ความเห็นอย่างเด็ดขาด ก็ขอทำให้เด็ดขาด อย่าไปอะลุ้มอะล่วยเท่านั้นเอง ก็มีหน้าที่เท่านั้น เพราะข้าราชการมีหน้าที่รักษาความถูกต้องถึงแม้ว่าจะเปลืองตัวหน่อย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยังกล่าวถึงกรณีที่สภาหอการค้าเห็นว่า ระยะเวลาของการปรับตัวของต่างชาติในการเป็นนอมินีมีน้อยเกินไประหว่าง 6-10 เดือนนั้น ตนยังไม่ทราบ แต่จะต้องรอจากกระทรวงพาณิชย์ ส่งรายงานมาก่อน แต่หากมีเสียงออกมาเช่นนี้ แสดงว่า เขามีความพอใจกับระยะเวลาการปรับตัวนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อ.ก.พ.คลัง ทั้ง 10 คน มีผู้เข้าร่วมประชุมไม่ครบ โดยผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม เช่น นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อดีตอธิบดีกรมบัญชีกลาง สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ ที่ถูกโยกย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2549 ป.ป.ช.ได้กล่าวโทษเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร 5 คน ได้แก่ 1.นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ รองอธิบดีกรมสรรพากรในขณะนั้น 2.นายวิชัย จึงรักเกียรติ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กรมสรรพากร 3.น.ส.สุจินดา แสงชมภู นิติกร 9 4.น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ นิติกร 8 และ 5.น.ส.กุลฤดี แสงสายัณห์ นิติกร 7 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน ละเว้นการไม่เก็บภาษี และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 154 มาตรา 157 และมีความผิดวินัยร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 82 วรรค 3 มาตรา 85 วรรค 2 และ มาตรา 98 วรรค 2