ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ชี้เงินบาทที่อ่อนค่าลงถึงประมาณ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐเป็นผลดีกับผู้ส่งออก พร้อมเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดหลักทรัพย์วันนี้เป็นเพียงความตื่นตระหนกระยะสั้นเท่านั้น ด้านนายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศระบุว่าค่าเงินบาทที่ระดับ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐจะทำให้การแข่งขันของผู้ส่งออกข้าวทำได้อย่างมีเสถียรภาพ
นายสันติ วิลาศศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดหลักทรัพย์วันนี้ เชื่อว่า จะเป็นเพียงความตื่นตระหนกระยะสั้นเท่านั้น แต่เมื่อนักลงทุนหายตื่นตระหนกก็เชื่อว่า จะทำให้การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์กลับมาอยู่ในสถานการณ์ปกติได้ อย่างไรก็ตาม มาตรการของ ธปท. เชื่อว่า จะทำให้นักลงทุนที่แท้จริงในตลาดหลักทรัพย์มีมากขึ้น และทำให้ตลาดหลักทรัพย์ไทยมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วย ส่วนผลของมาตรการที่เกิดขึ้น สำหรับผู้ส่งออกถือว่าเป็นผลทางจิตวิทยาที่ดีขึ้น เนื่องจากเงินบาทที่ระดับประมาณ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าทำให้ผู้ส่งออกสบายใจมากขึ้นในการแข่งขันกับประเทศ ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการค้ากับไทย
นายชูเกียรติ โอภาสวง นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวถึงมาตรการสกัดกั้นการเก็งกำไรค่าเงินบาทจากเงินทุนไหลเข้าของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ส่วนตัวต้องขอสรรเสริญ ธปท.ที่กล้าออกมาตรการสกัดกั้นค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างผิดปกติ เมื่อเปรียบเทียบประเทศเพื่อนบ้านแถบเอเชีย และอยากให้ ธปท. ออกมาตรการเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเกินไป ซึ่งจะทำให้ค่าเงินบาทสะท้อนความเป็นจริงให้มากที่สุด ยอมรับว่าจากปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้สินค้าภาคการเกษตรโดยเฉพาะข้าวราคาตกลงมาก ประกอบกับการส่งออกข้าวไปตลาดต่างประเทศก็ไม่ดีนัก หากรัฐบาลยังปล่อยให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นโดยไม่รู้ทิศทางและไม่มีเสถียรภาพยิ่งจะทำให้สินค้าภาคการเกษตรโดยเฉพาะข้าวเกษตรกรจะขายได้ราคาต่ำกว่าตลาดมาก และเชื่อว่าผู้ส่งออกข้าวอยากเห็นค่าเงินบาทมีเสถียรภาพอยู่ในระดับประมาณ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะทำให้การแข่งขันของผู้ส่งออกข้าวทำได้อย่างมีเสถียรภาพและแม้ว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง
นายชูเกียรติ กล่าวว่า สำหรับตัวเลขการส่งออกข้าวปี 2549 ยังเชื่อว่าจะส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 7.5 ล้านตัน และในปี 2550 ผู้ส่งออกข้าวได้ประเมินการส่งออกข้าวน่าจะมีปริมาณสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 8.5 ล้านตัน เนื่องจากความต้องการข้าวในตลาดโลกจากประเทศคู่ค้ามีต่อเนื่อง ประกอบกับปัญหาภัยธรรมชาติที่ผ่านมา ทำให้ประเทศผู้ผลิตข้าวจะต้องเก็บสตอกข้าวไว้ภายในประเทศ จึงเป็นสิ่งที่ประเทศผู้ผลิตข้าว เช่น ไทย เวียดนาม ที่มีปริมาณสตอกข้าวเพียงพอจะสามารถส่งออกข้าวได้ปริมาณสูงขึ้นแน่นอน
นายสันติ วิลาศศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดหลักทรัพย์วันนี้ เชื่อว่า จะเป็นเพียงความตื่นตระหนกระยะสั้นเท่านั้น แต่เมื่อนักลงทุนหายตื่นตระหนกก็เชื่อว่า จะทำให้การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์กลับมาอยู่ในสถานการณ์ปกติได้ อย่างไรก็ตาม มาตรการของ ธปท. เชื่อว่า จะทำให้นักลงทุนที่แท้จริงในตลาดหลักทรัพย์มีมากขึ้น และทำให้ตลาดหลักทรัพย์ไทยมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วย ส่วนผลของมาตรการที่เกิดขึ้น สำหรับผู้ส่งออกถือว่าเป็นผลทางจิตวิทยาที่ดีขึ้น เนื่องจากเงินบาทที่ระดับประมาณ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าทำให้ผู้ส่งออกสบายใจมากขึ้นในการแข่งขันกับประเทศ ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการค้ากับไทย
นายชูเกียรติ โอภาสวง นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวถึงมาตรการสกัดกั้นการเก็งกำไรค่าเงินบาทจากเงินทุนไหลเข้าของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ส่วนตัวต้องขอสรรเสริญ ธปท.ที่กล้าออกมาตรการสกัดกั้นค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างผิดปกติ เมื่อเปรียบเทียบประเทศเพื่อนบ้านแถบเอเชีย และอยากให้ ธปท. ออกมาตรการเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเกินไป ซึ่งจะทำให้ค่าเงินบาทสะท้อนความเป็นจริงให้มากที่สุด ยอมรับว่าจากปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้สินค้าภาคการเกษตรโดยเฉพาะข้าวราคาตกลงมาก ประกอบกับการส่งออกข้าวไปตลาดต่างประเทศก็ไม่ดีนัก หากรัฐบาลยังปล่อยให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นโดยไม่รู้ทิศทางและไม่มีเสถียรภาพยิ่งจะทำให้สินค้าภาคการเกษตรโดยเฉพาะข้าวเกษตรกรจะขายได้ราคาต่ำกว่าตลาดมาก และเชื่อว่าผู้ส่งออกข้าวอยากเห็นค่าเงินบาทมีเสถียรภาพอยู่ในระดับประมาณ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะทำให้การแข่งขันของผู้ส่งออกข้าวทำได้อย่างมีเสถียรภาพและแม้ว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง
นายชูเกียรติ กล่าวว่า สำหรับตัวเลขการส่งออกข้าวปี 2549 ยังเชื่อว่าจะส่งออกได้ไม่ต่ำกว่า 7.5 ล้านตัน และในปี 2550 ผู้ส่งออกข้าวได้ประเมินการส่งออกข้าวน่าจะมีปริมาณสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 8.5 ล้านตัน เนื่องจากความต้องการข้าวในตลาดโลกจากประเทศคู่ค้ามีต่อเนื่อง ประกอบกับปัญหาภัยธรรมชาติที่ผ่านมา ทำให้ประเทศผู้ผลิตข้าวจะต้องเก็บสตอกข้าวไว้ภายในประเทศ จึงเป็นสิ่งที่ประเทศผู้ผลิตข้าว เช่น ไทย เวียดนาม ที่มีปริมาณสตอกข้าวเพียงพอจะสามารถส่งออกข้าวได้ปริมาณสูงขึ้นแน่นอน