xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรไทยคาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปปีหน้าถูกตีตลาดหนัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปของไทยในปีหน้าจะถูกรุกตลาดอย่างหนักจากผู้ผลิตต่างประเทศ ทั้งเสื้อผ้าราคาถูกและเสื้อผ้าระดับปานกลางถึงสูง พร้อมคาดมูลค่านำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปปีหน้าจะปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 30 แนะผู้ประกอบการลดต้นทุนการผลิต ย้ายฐานการผลิต และพัฒนาคุณภาพสินค้า

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า ตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปในประเทศปี 2550 คาดว่าจะประสบปัญหาสินค้าจากต่างประเทศรุกเข้ามาแย่งตลาดสินค้าที่ผลิตในประเทศในระดับที่รุนแรง โดยเกิดจากปัจจัยหลายประการ ทั้งด้านภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่จนส่งผลเสียหายต่อทรัพย์สินและพื้นที่การเกษตรเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้เสื้อผ้าสำเร็จรูปจากประเทศที่มีต้นทุนการผลิตต่ำจากจีน อินโดนีเซีย อินเดีย เวียดนาม เข้ามาแย่งตลาดในส่วนของกลุ่มประชาชนที่กำลังซื้อถูกกระทบจากปัจจัยดังกล่าว

ขณะเดียวกันจากปัจจัยทางด้านเงินบาทของไทยที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในปี 2549 ต่อเนื่องไปถึงปี 2550 ก็ทำให้สินค้านำเข้าจากประเทศที่ผลิตสินค้าซึ่งเน้นคุณภาพทั้งจากยุโรปหรือสหรัฐ รวมทั้งสินค้าจากประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง มีต้นทุนนำเข้าที่ลดลง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลกระทบไปถึงผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปของไทยทั้งในกลุ่มที่เน้นต้นทุนการผลิตต่ำรวมไปถึงผู้ผลิตสินค้าระดับปานกลาง-สูงภายใต้ตราสินค้าของตนเองต้องเผชิญการแข่งขันที่สูงขึ้น รวมทั้งยังส่งผลกระทบไปถึงอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ทั้งการผลิตเส้นใย ปั่นด้าย ทอผ้า ฟอกย้อม และพิมพ์ตกแต่งสำเร็จ และการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่มีแรงงานเกี่ยวข้องรวมกันทั้งหมดถึงประมาณ 1 ล้านคน

ทั้งนี้ มูลค่านำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปปี 2550 คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับปี 2549 ที่คาดว่าจะมีมูลค่านำเข้าประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะขยายตัวทั้งเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากประเทศที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ เช่น จีน อินเดีย เวียดนาม และเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่มีราคาปานกลางถึงสูงจากประเทศที่ตราสินค้าเป็นที่นิยมทั้งจากยุโรปและสหรัฐ รวมทั้งจากประเทศในเอเชีย อาทิ ฮ่องกง ญี่ปุ่น

ดังนั้น เพื่อบรรเทาและลดผลกระทบจากการเข้ามาแย่งตลาดของสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศ ผู้ประกอบการเสื้อผ้าสำเร็จรูปของไทยที่ผลิตสินค้าจำหน่ายในประเทศไม่เน้นตราสินค้าและจำหน่ายในราคาไม่แพง จำเป็นต้องหาหนทางลดต้นทุนการผลิตด้วยการลดการสูญเสียวัตถุดิบในกระบวนการผลิต การย้ายฐานการผลิตไปยังพื้นที่ซึ่งมีแรงงานและค่าจ้างถูกกว่า รวมทั้งต้องพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบได้ว่ามีเหนือกว่าสินค้านำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศ สำหรับผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าในระดับราคาปานกลางถึงสูงภายใต้ตราสินค้าและการออกแบบของตนเอง นอกจากต้องพัฒนาคุณภาพสินค้าในเบื้องต้นแล้วยังจำเป็นต้องพัฒนารูปแบบสินค้าให้มีความแตกต่างและโดดเด่นให้ตรงกับรสนิยมของผู้ซื้อที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ส่วนภาครัฐเองนอกจากออกมาตรการกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้สินค้าไทยเพื่อลดการนำเข้าแล้ว จำเป็นต้องเข้ามาตรวจสอบอย่างใกล้ชิดว่าสินค้านำเข้าจากต่างประเทศมีราคาขายถูกกว่าความเป็นจริงและได้เข้ามาทุ่มตลาดจนส่งผลเสียหายต่อผู้ผลิตในประเทศอย่างรุนแรงหรือไม่ เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ของการนำมาตรการทางการค้าซึ่งองค์การการค้าโลกได้อนุญาตให้ประเทศต่าง ๆ นำมาใช้เพื่อปกป้องตนเอง เช่น มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping) มาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (Safeguard)
กำลังโหลดความคิดเห็น