xs
xsm
sm
md
lg

ทีดีอาร์ไอแนะรัฐบาลร่างกฎหมายเจรจาการค้าต่างประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทีดีอาร์ไอแนะรัฐบาลผลักดันออกกฎหมายการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศได้มีส่วนร่วมผ่านการพิจารณาก่อนลงนาม ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุไทยต้องเดินหน้าเจรจาการค้าต่อ แต่จะพยายามดึงทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น พร้อมตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ถูกกระทบจากข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ)

นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ผู้อำนวยการวิจัยด้านเศรษฐกิจยุคสารสนเทศ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ระบุในงานสัมมนา “แนวทางการจัดตั้งกองทุนเพื่อการปรับตัวรองรับการเปิดเสรีทางการค้า” จัดโดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ว่า อยากเสนอแนะรัฐบาลชุดปัจจุบันที่มีเวลาบริหารงานเพียง 1 ปีควรพิจารณายกร่างกฎหมายการเจรจาการค้าระหว่างประเทศขึ้นมาเพื่อใช้เป็นช่องทางที่จะควบคุมรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งให้ตระหนักถึงการเจรจาตามกรอบเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) จะต้องผ่านความเห็นชอบจากตัวแทนประชาชน โดยเฉพาะสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อให้ทั้ง 2 สภาสามารถกลั่นกรองข้อดีข้อเสียจากการที่รัฐบาลได้ไปตกลงที่จะเจรจาแบบประเทศต่อประเทศให้มีความรัดกุมมากขึ้นกว่ารัฐบาลชุดที่ผ่านมา

“หากมีกฎหมายเป็นการเฉพาะเข้ามาควบคุมการเจรจาการค้าระหว่างประเทศจะเป็นผลดีต่อประเทศชาติและคนไทยทั้งประเทศมากขึ้น ยอมรับว่าที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการตกลงเอฟทีเอกับประเทศต่าง ๆ เร็วเกินไป โดยไม่มีการพิจารณาหรือขอความเห็นจากทุกฝ่ายและทุกฝ่ายก็ยังไม่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับข้อตกลงใด ๆ ที่รัฐบาลได้ไปรับปากไว้ ทำให้ยังไม่มีหน่วยงานไหนออกมาระบุได้ชัดเจนว่า เมื่อทำข้อตกลงไปแล้วไทยได้ประโยชน์หรือเสียผลประโยชน์ไปมากน้อยแค่ไหน จึงอยากเสนอแนะรัฐบาลชุดปัจจุบันเดินหน้าผลักดันกฎหมายการเจรจาการค้าระหว่างประเทศออกมา เพื่อให้มีกฎหมายกลั่นกรองข้อดีข้อเสียของการที่ไทยทำเอฟทีเออย่างรัดกุมยิ่งขึ้น แต่หากรัฐบาลไม่ดำเนินการก็จะเรียกร้องให้ฝ่ายนักวิชาการที่ไม่เห็นด้วยหรือเห็นด้วยมารวมกลุ่มกันร่างกฎหมายนี้ขึ้นมาเพื่อเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งโดยหลักการนักวิชาการสามารถเสนอยกร่างกฎหมายได้ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับกฎหมายการเงิน” นายสมเกียรติ

นักวิชาการทีดีอาร์ไอ กล่าวอีกว่า เห็นด้วยกับการที่กระทรวงพาณิชย์มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อการปรับตัวรองรับเอฟทีเอและควรดำเนินการนานแล้ว ที่สำคัญกองทุนดังกล่าวจะเป็นกองทุนที่ช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมทั้งระบบที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากแนวนโยบายเอฟทีเอ แต่การช่วยเหลือจะต้องไม่เป็นการแจกเงิน ควรเป็นการช่วยเหลือเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมนั้น ๆ ได้มีการปรับปรุงตัวเอง และรัฐบาลจะต้องประเมินผลการช่วยเหลือทุกปีเพื่อรับทราบผลว่าการช่วยเหลือได้ผลหรือไม่ ขณะเดียวกันรัฐบาลจะต้องเปิดกว้างให้ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมเข้ามามีส่วนร่วมในการประเมินผลจากการปรับตัวด้วย

นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การเจรจาการค้าตามกรอบต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ประเทศไทยไม่สามารถหลีกหนีได้ และเกิดขึ้นมาแล้วกว่า 2 ปี และในฐานะที่เคยร่วมเป็นผู้เจรจา ยืนยันว่าไม่เคยคิดที่จะทำลายประเทศชาติ แต่การเจรจาในเวทีใดเป็นเรื่องนโยบายของรัฐบาลนั้น ๆ ซึ่งที่ผ่านมาสามารถเจรจาทำให้ประเทศชาติไม่เสียเปรียบ จะเห็นได้จากยอดการส่งออกของประเทศจากไม่กี่หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในอดีต แต่ปัจจุบันยอดการค้าที่ไทยส่งออกไปนับแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยอมรับว่า การเจรจาการค้าตามกรอบต่าง ๆ ที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้เปิดกว้างหรือให้คนส่วนใหญ่เข้ามามีส่วนร่วมมากนัก ดังนั้น หลังจากนี้ไปจะพยายามให้ทุกกลุ่มอาชีพและอุตสาหกรรมให้เข้ามามีส่วนร่วมในการเสนอแนะการเจรจาให้มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลมีเวลาบริหารเพียง 1 ปีจะพยายามให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด

นายเกริกไกร กล่าวว่า รัฐบาลจะเปิดเสรีตามกรอบเอฟทีเออย่างเป็นธรรม เป็นขั้นเป็นตอน และมีมาตรการคุ้มภัย เช่น ภาคธุรกิจไหนที่เห็นว่ายังไม่สามารถแข่งขันก็จะพยายามเจรจายืดเวลาให้นานขึ้น แต่กลุ่มอุตสาหกรรมนั้น ๆ จะต้องปรับตัว ซึ่งมีเวลาปรับตัวนานถึง 10-20 ปี และไม่อยากเห็นว่าเมื่อถึงเวลาที่เวลาในการปรับตัวจะหมดลงกลับมาบอกว่ายังไม่พร้อม เพราะเห็นว่าเวลาที่ให้เพื่อการปรับตัวนานพอสมควร และเมื่อปรับตัวแล้วไม่สามารถแข่งขันได้ ก็ต้องเปลี่ยนการทำธุรกิจเพื่อให้แข่งขันต่อไปได้ สำหรับกรอบข้อตกลงเอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น ที่เหลือขั้นตอนเพียงการลงนามของทั้ง 2 ประเทศนั้น รัฐบาลจะนำเสนอข้อความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ประมาณต้นปีหน้า และจะดำเนินการให้เสร็จในรัฐบาลชุดนี้ แต่ต้องยอมรับว่าแม้ไทยยังไม่ได้ลงนามเอฟทีเอกับญี่ปุ่นแต่ไทยก็ขาดดุลการค้าอยู่แล้ว ดังนั้น กลุ่มอุตสาหกรรมใดได้รับผลกระทบจากเอฟทีเอเสนอข้อความช่วยเหลือผ่านกองทุนเพื่อการปรับตัวรองรับการเปิดเสรีทางการค้าของกระทรวงพาณิชย์ได้และเชื่อว่าเอกชนไทยจะสามารถปรับตัวรับการเปิดเสรีการค้าตามกรอบต่าง ๆ ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น