xs
xsm
sm
md
lg

อาร์เอสเดินหน้าปรับภาพลักษณ์องค์กร พร้อมโฟกัสสื่อดิจิตอล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อาร์เอส ใส่เกียร์เดินหน้าต่อเนื่อง ปีหน้าเตรียมดันบริษัท ปรับโพซิชั่นนิ่งแบรนด์ สู่ความเป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ แอนด์ สปอร์ต คอนเทนท์ โพรไวเซอร์เต็มกำลัง พร้อมโฟกัสธุรกิจสู่สื่อดิจิตอลมากยิ่งขึ้น หลังพบทางสดใส จากการปรับโมเดลธุรกิจใหม่ ล่าสุดยิ้มรับรายได้จากภาพยนตร์เรื่อง “แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า”ส่งท้ายปี คาดมีกำไรกว่า 40 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปีรายได้แตะ 3,300 ล้านบาท แน่นอน

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯได้มีการปรับโมเดลธุรกิจ ใหม่ เพื่อเป้าหมายในการเป็น เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ แอนด์ สปอร์ต คอนเทนท์ โพรไวเซอร์ และ มัลติมีเดีย เซอร์วิส ที่เน้นบริหารสินทรัพย์ทำรายได้ 360 องศานั้น ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่า บริษัทฯกำลังเดินมาถูกทางแล้ว ดังนั้นในปีหน้า บริษัทฯมีแผนที่จะต่อยอดโมเดลธุรกิจอีกครั้ง ด้วยการรีแบรนด์ดิ้ง โลโก้บริษัทฯ และปรับโพซิชั่นนิ่งของบริษัทฯใหม่สู่บริษัท ที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบเอนเตอร์เทนเม้นท์ครบวงจรแทน จากเดิมที่ถูกมองเป็นบริษัทฯเพลงอย่างเดียว

“โดยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจที่บริษัทฯบริหารอยู่กำลังมีรายได้และมีผลกำไรเป็นที่น่าพอใจ จากเดิมในปีที่ผ่านมา ที่ยังประสบกับภาวะการขาดทุนอยู่ แต่ขณะเดียวกันผู้บริโภคยังติดภาพว่าบริษัทฯมีโพซิชั่นนิ่งเป็นบริษัทเพลงเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงในปัจจุบัน บริษัทฯดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์ หรือบันเทิงเกือบทุกรูปแบบ ส่วนเพลงถือเป็นวัตถุดิบในรูปแบบต้นน้ำ ที่จะต่อยอดไปยังธุรกิจอื่นๆต่อไป เช่น คอนเท้นต์ต่างๆ ทั้งในรูปแบบดิจิตอล ขณะเดียวกันเพลง ไม่ได้เป็นตัวที่สร้างรายได้หลักแล้ว”

อย่างไรก็ตาม หากดำเนินตามโมเดลธุรกิจใหม่แล้ว จะพบว่า บริษัทฯกำลังให้ความสำคัญกับสื่อดิจิตอลมากยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเทรนด์สื่อดิจิตอลกำลังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น การฟังเพลงจากเครื่องเล่นเอ็มพี3 การดาวน์โหลดเพลงจากเวบไซด์ ทำให้ที่ผ่านมาบริษัทฯยกเลิกการผลิตเทปคาสเซ็ต และขายโรงงานไปแล้ว และหันมาให้ความสำคัญกับสื่อดิจิตอลแทน เช่น การเปิดตัวศิลปินดิจิตอล อย่าง ดีดีซี รวมไปถึงการเพิ่มช่องทางจำหน่ายคอนเท้นต์เพลงในรูปแบบต่างๆมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ผ่าน เว็บไซด์ www.mobiclub.net

ล่าสุดในปีหน้าบริษัทฯกำลังมีแผนที่จะรุกสื่อดิจิตอลมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ศิลปินดิจิตอล อย่างดีดีซี ที่จะมีซีรีส์ 2 ออกมาอีกครั้งในช่วงกลางปีหน้า และภายในเดือนนี้กำลังจะออกศิลปินในรูปแบบ ดิจิตอลอีก 1 โมเดล แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าโมเดลศิลปินดิจิตอลใหม่นี้ จะออกมาโดยมีโพซิชั่นนิ่งเป้นรูปแบบใด นอกจากนี้บริษัทฯยังเตรียมที่จะเพิ่มช่องทางจำหน่ายเพลงในรูปแบบ เอ็มพี3 อีกด้วย โดยขณะนี้เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว เช่น การโหลดเพลงเอ็มพี 3 ของทางบริษัทฯผ่านเว็บไซดืต่างๆ แต่ในปีหน้าจะเริ่มเป็น เอ็มพี 3 ในรูปแบบแผ่นซีดี ซึ่งอาจจะออกมาทั้งในรูปแบบ 1 แผ่น ต่อ 1 อัลบั้มของศิลปิน หรืออาจจะเป็น หลายๆอัลบั้มรวมกันออกมาเป็น 1 แผนก็ได้ ซึ่งจะต้องมีการพิจารณากันอีกครั้ง

แสบสนิทฯ ปล่อยหมัดเด็ดรับทรัพย์กว่า100 ลบ.
ในส่วนของธุรกิจภาพยนตร์ได้มีการปรับโมเดลการผลิตเช่นเดียวกัน โดย 1 ปีที่ผ่านมา มีภาพยนตร์ที่ออกฉายทั้งหมด 5 เรื่อง คือ ผีเสื้อสมุทร และไทยถีบ ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ หลังออกฉายไม่ประสบความสำเร็จและประปัญหาการขาดทุนอีกด้วย สาเหตุหนึ่งมาจากเป็นภาพยนตร์ค้างก่อนที่บริษัทฯจะปรับโมเดลธุรกิจใหม่ ส่วนอีก 3 เรื่อง คือ รักจัง, ผีคนเป็น และเรื่อมสุดท้ายที่กำลังเข้าโรงฉายอยู่ในขณะนี้ คือ แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า เป็นภาพยนตร์ที่อยู่ภายใต้โมเดลธุรกิจใหม่ ที่มีการทำวิจัยก่อนว่า ผู้บริโภคกำลังต้องการชมภาพยนตร์ประเภทไหน จากนั้นมีการควบคุมต้นทุนในการผลิต และมีการนำกลยุทธ์พาร์ทเนอร์ มาร์เก็ตติ้ง เข้ามาใช้ควบคู่กันด้วย

สำหรับภาพยนตร์เรื่องรักจังนั้นหลังจากเข้าฉายมีรายได้จากบ๊อคออฟฟิศในกรุงเทพฯกว่า 50 ล้านบาท และหลังจากนำรายได้ทั้งหมดมารวมกัน พร้อมหักต้นทุนแล้ว มีกำไรสุทธิกว่า20 ล้านบาท ส่วนภาพยนตร์เรื่องผีคนเป็น มีรายได้จากบ๊อคออฟฟิศในกรุงเทพฯ 30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10 ล้านบาท

ส่วนภาพยนตร์เรื่องแสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้านั้น ถือเป็นภาพยนตร์ที่กำลังจะสร้างรายได้สูงสุดให้แก่บริษัทฯ โดยคาดว่าจะมีรายได้กว่า 100 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิที่ 40 ล้านบาท พร้อมขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มภาพยนตร์ไทยที่มีรายได้สูงสุดแทนก้านกล้วย 80 ล้านบาท และโหน่งเท่งนักเลงภูเขาทอง

ขณะเดียวกันในปีหน้า บริษัทฯเตรียมผลิตภาพยนตร์อีก 5-6 เรื่อง ต้นทุนการผลิตไม่เกินเรื่องละ 20 ล้านบาท โดยไตรมาสแรกคาดว่าจะมีภาพยนตร์แนว ผีคอมมาดี้ เรื่อง “ผีไม้จิ้มฟัน” เข้าฉาย นำแสดงโดยฉัตรชัย เปล่งพานิช จากนั้นยังมีภาพยนตร์เรื่อง “แรกบิน” นำแสดงโดย ศรราม เทพพิทักษ์ ที่เป็นภาพยนตร์เหลือพียงเรื่องเดียวที่ค้างอยู่ ก่อนที่บริษัทฯจะปรับโมเดลธุรกิจใหม่ เข้าฉายอีก 1 เรื่อง

นายสุรชัย กล่าวต่อว่า กลุ่มธุรกิจภาพยนตร์สามารถสร้างรายได้ให้บริษัทฯ คิดเป็นสัดส่วน7-8 % หรือประมาณ 200-300 ล้านบาท ของเป้ารายได้ที่วางไว้ในปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3.2-3.3 พันล้านบาทและเติบโตขึ้น 25%


กำลังโหลดความคิดเห็น