ตลาดมีเดียเอเจนซี่ปีหน้าอาจสะดุด เหตุกฎห้ามโฆษณาเหล้าเป็นเหตุ “เดนท์สุ มีเดียฯ” ปรับทัพทำศึกใหม่ เตรียมขนคอนเท้นต์ลงจอแก้วปีหน้า พร้อมจับมือกับเอเจนซี่หลากหลายค่าย พุ่งเป้าเพิ่มจำนวนลูกค้าในประเทศ มั่นใจรักษาการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 10% มูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท
นายอาคิมาซา บาบา ประธานกรรมการดำเนินการ บริษัท เดนท์สุ มีเดีย พาเลท (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการวางแผนสื่อโฆษณา เปิดเผยว่า จากการที่ทางภาครัฐกำหนดห้ามไม่ให้โฆษณาเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ทุกประเภทนั้น แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีความชัดเจนก็ตาม ซึ่งถ้าหากห้ามโฆษณามีผลจริงๆแล้วคาดว่า ทิศทางธุรกิจมีเดียเอเจนซี่ในปีหน้าจะได้รับผลกระทบบ้าง
รวมทั้งลูกค้าเองกำลังมีการตัดงบการใช้สื่อมากยิ่งขึ้น โดยหันไปให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมประเภท บีโลว์ เดอะไลน์ แทนนั้น ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้ธุรกิจดังกล่าวอาจจะมีการเติบโตไม่ถึง 5% จากเดิมในแต่ละปีจะมีการเติบโตเฉลี่ย 5-6%
ดังนั้นทางบริษัทฯจึงต้องมีการปรับแผนธุรกิจในปีหน้าใหม่ จากเดิมที่จะเน้นวางแผนการใช้สื่อให้ลูกค้าเท่านั้น ต่อไปจะต้องเน้นทั้งในส่วนของกิจกรรมเสริม และบริการต่างๆอีกด้วย ขณะเดียวกันบริษัทฯมีนโยบายในการร่วมมือกับบริษัทเอเจนซี่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มบริษัทเอเจนซี่ “ครีเอทีฟจุ้ยส์ จี วัน” หรือ “เดนท์สุ พลัส” เพื่อต่อยอดรายได้อีกช่องทางหนึ่ง
นอกจากนี้บริษัทฯจะให้ความสำคัญในการนำคอนเท้นต์ต่างๆ เข้ามาสร้างรายได้อีกช่องทางหนึ่งในปีหน้า อาทิ รายการบันเทิง, ละครชุด, รายการกีฬา และ สเปเชี่ยลโปรเจกต์ต่างๆ ทั้งจากประเทศญี่ปุ่นเอง และจากทั่วโลก สำหรับป้อนให้กับสถานีโทรทัศน์ในประเทศไทย แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะนำโปรแกรมคอนเท้นต์ใด ป้อนให้กับสถานีโทรทัศน์ช่องใด
“ปีหน้า บริษัทฯจะให้ความสำคัญกับการนำคอนเท้นต์เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น จากเดิมเมื่อ 3 ปีก่อนที่เคยทำมา แต่ยังไม่จริงจัง โดยในปีนี้คาดว่าคอนเท้นต์ใหญ่ที่จะนำมานั้น คาดว่าจะเป็นสเปเชี่ยล โปรแกรมในเรื่องของการแข่งขันกีฬา อย่าง ยูโร 2008 โดยจะสามารถสรุปได้ว่าใครจะได้ลิขสิทธ์การถ่ายทอดสดภายใน 1-2 เดือนนี้ ซึ่ง ยูโร 2004 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้คว้าสิทธ์ในการถ่ายทอดสดมาแล้ว คาดว่าครั้งนี้ก็น่าจะได้สิทธ์นั้นอีกครั้ง” นายอาคิมาซา กล่าว
ล่าสุดบริษัทฯได้สิทธ์การถ่ายทอดสดฟุตบอล “ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2006” โดย โตโยต้า แก่ผู้ชมชาวไทย ระหว่างวันที่ 10-17 ธันวาคมนี้ โดยการถ่ายทอดสดการแข่งขันในปีนี้ได้รับความร่วมมือจากสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7, สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11กรมประชาสัมพันธ์ และ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ร่วมการถ่ายทอดสด ทุกแมทซ์ ขณะที่ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 จะเป็นผู้ถ่ายทอดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 17 ธันวาคมนี้อีกด้วย
ปัจจุบันบริษัทฯมีรายได้หลัก 2 ทาง คือ การวางแผนการใช้สื่อให้กับลูกค้า 90% และการนำคอนเท้นต์เข้ามา 10% ขณะที่ปัจจุบันลูกค้าที่ไว้วางใจให้บริษัทฯเป็นผู้ดูแลการใช้สื่อให้มีจำนวนมากกว่า 50 ราย แบ่งเป็นรายได้จากกลุ่มลูกค้าประเทศญี่ปุ่นประมาณ 60% คิดเป็นจำนวน 20 ราย และเป็นลูกค้าในประเทศ ไทยอีก 40% หรือประมาณ 20-30 ราย โดยในปีหน้าบริษัทฯจะเน้นเพิ่มสัดส่วนลูกค้าในประเทศไทยอีก 10 ราย หรือมีสัดส่วนเป็นญี่ปุ่น 50% และไทย 50% ให้
ขณะเดียวกันสำหรับรายได้ในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 2,300 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 10% ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะยังคงมีการเติบโตในระดับเดียวกันหรือไม่ต่ำกว่า 10% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,500 บาท ตามเป้าวางไว้
นายอาคิมาซา บาบา ประธานกรรมการดำเนินการ บริษัท เดนท์สุ มีเดีย พาเลท (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการวางแผนสื่อโฆษณา เปิดเผยว่า จากการที่ทางภาครัฐกำหนดห้ามไม่ให้โฆษณาเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ทุกประเภทนั้น แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีความชัดเจนก็ตาม ซึ่งถ้าหากห้ามโฆษณามีผลจริงๆแล้วคาดว่า ทิศทางธุรกิจมีเดียเอเจนซี่ในปีหน้าจะได้รับผลกระทบบ้าง
รวมทั้งลูกค้าเองกำลังมีการตัดงบการใช้สื่อมากยิ่งขึ้น โดยหันไปให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมประเภท บีโลว์ เดอะไลน์ แทนนั้น ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้ธุรกิจดังกล่าวอาจจะมีการเติบโตไม่ถึง 5% จากเดิมในแต่ละปีจะมีการเติบโตเฉลี่ย 5-6%
ดังนั้นทางบริษัทฯจึงต้องมีการปรับแผนธุรกิจในปีหน้าใหม่ จากเดิมที่จะเน้นวางแผนการใช้สื่อให้ลูกค้าเท่านั้น ต่อไปจะต้องเน้นทั้งในส่วนของกิจกรรมเสริม และบริการต่างๆอีกด้วย ขณะเดียวกันบริษัทฯมีนโยบายในการร่วมมือกับบริษัทเอเจนซี่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มบริษัทเอเจนซี่ “ครีเอทีฟจุ้ยส์ จี วัน” หรือ “เดนท์สุ พลัส” เพื่อต่อยอดรายได้อีกช่องทางหนึ่ง
นอกจากนี้บริษัทฯจะให้ความสำคัญในการนำคอนเท้นต์ต่างๆ เข้ามาสร้างรายได้อีกช่องทางหนึ่งในปีหน้า อาทิ รายการบันเทิง, ละครชุด, รายการกีฬา และ สเปเชี่ยลโปรเจกต์ต่างๆ ทั้งจากประเทศญี่ปุ่นเอง และจากทั่วโลก สำหรับป้อนให้กับสถานีโทรทัศน์ในประเทศไทย แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะนำโปรแกรมคอนเท้นต์ใด ป้อนให้กับสถานีโทรทัศน์ช่องใด
“ปีหน้า บริษัทฯจะให้ความสำคัญกับการนำคอนเท้นต์เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น จากเดิมเมื่อ 3 ปีก่อนที่เคยทำมา แต่ยังไม่จริงจัง โดยในปีนี้คาดว่าคอนเท้นต์ใหญ่ที่จะนำมานั้น คาดว่าจะเป็นสเปเชี่ยล โปรแกรมในเรื่องของการแข่งขันกีฬา อย่าง ยูโร 2008 โดยจะสามารถสรุปได้ว่าใครจะได้ลิขสิทธ์การถ่ายทอดสดภายใน 1-2 เดือนนี้ ซึ่ง ยูโร 2004 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้คว้าสิทธ์ในการถ่ายทอดสดมาแล้ว คาดว่าครั้งนี้ก็น่าจะได้สิทธ์นั้นอีกครั้ง” นายอาคิมาซา กล่าว
ล่าสุดบริษัทฯได้สิทธ์การถ่ายทอดสดฟุตบอล “ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2006” โดย โตโยต้า แก่ผู้ชมชาวไทย ระหว่างวันที่ 10-17 ธันวาคมนี้ โดยการถ่ายทอดสดการแข่งขันในปีนี้ได้รับความร่วมมือจากสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7, สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11กรมประชาสัมพันธ์ และ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ร่วมการถ่ายทอดสด ทุกแมทซ์ ขณะที่ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 จะเป็นผู้ถ่ายทอดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 17 ธันวาคมนี้อีกด้วย
ปัจจุบันบริษัทฯมีรายได้หลัก 2 ทาง คือ การวางแผนการใช้สื่อให้กับลูกค้า 90% และการนำคอนเท้นต์เข้ามา 10% ขณะที่ปัจจุบันลูกค้าที่ไว้วางใจให้บริษัทฯเป็นผู้ดูแลการใช้สื่อให้มีจำนวนมากกว่า 50 ราย แบ่งเป็นรายได้จากกลุ่มลูกค้าประเทศญี่ปุ่นประมาณ 60% คิดเป็นจำนวน 20 ราย และเป็นลูกค้าในประเทศ ไทยอีก 40% หรือประมาณ 20-30 ราย โดยในปีหน้าบริษัทฯจะเน้นเพิ่มสัดส่วนลูกค้าในประเทศไทยอีก 10 ราย หรือมีสัดส่วนเป็นญี่ปุ่น 50% และไทย 50% ให้
ขณะเดียวกันสำหรับรายได้ในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 2,300 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 10% ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะยังคงมีการเติบโตในระดับเดียวกันหรือไม่ต่ำกว่า 10% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,500 บาท ตามเป้าวางไว้