ตราเกษตร โดดลงตลาดอาหารกึ่งสำเร็จรูปเต็มสูบปีหน้า แตกไลน์ "วุ้นเส้นบรรจุภัณฑ์ถ้วย-คัพโจ๊ก" อัดฉีดงบ 30 ล้านบาท ชูคอนเซปต์เพื่อสุขภาพ สร้างฐานลูกค้าแม่บ้านยุคใหม่ จ่อคิวส่งออกนำร่องอเมริกา ยุโรป ปีแรกกวาดรายได้ 100 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมปีหน้าตั้งเป้าโต 10-15% จากปีนี้คาดว่ากวาดยอด 1,200 ล้านบาท
นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวหอมมะลิ และวุ้นเส้นตราเกษตร เปิดเผยว่า นโยบายการทำตลาดผลิตภัณฑ์ตราเกษตร บริษัทได้วางแนวทางนำวัตถุดิบที่มีอยู่แล้ว และอาศัยความเชี่ยวชาญทางด้านผลิตภัณฑ์เกษตร อาทิ ข้าวและวุ้นเส้น มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคไทย ที่มีความเร่งรีบในชีวิตประจำวันและต้องการสินค้าที่ตอบสนองความต้องการอย่างรวดเร็ว
สำหรับการแตกโปรดักส์ไลน์ใหม่ ชูจุดขายเพื่อสุขภาพ เนื่องจากเป็นเทรนด์ตลาดที่ได้รับความนิยมสำหรับกลุ่มผู้บริโภค นำร่องในช่วงปลายปีนี้เปิดตัววุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูปในบรรจุภัณฑ์ถ้วยตราเกษตรไลท์มิลล์ลงสู่ตลาดด้วยกัน 3 รสชาติ ได้แก่ กุ้งอบวุ้นเส้น ต้มยำกุ้ง และเฝอ จำหน่ายราคา 15 บาท เมื่อเทียบกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจำหน่ายราคา 12 บาท วางกลุ่มเป้าหมายอายุระหว่าง 18-25 ปี เริ่มวางจำหน่ายผ่านช่องทางไฮเปอร์มาร์เก็ต อาทิ บิ๊กซี คาร์ฟูร์ แม็คโคร เทสโก้ โลตัส ส่วนร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาอยู่ คาดว่าเป็นต้นปีหน้านี้ถึงจะวางจำหน่าย
ปัจจัยที่ทำให้บริษัทแตกโปรดักส์ไลน์ใหม่ เนื่องจากต้องการสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ จากเดิมตราเกษตรมีกลุ่มเป้าหมายเป็นแม่บ้านอายุมากกว่า 25 ปี ดังนั้นการทำตลาดอาหารกึ่งสำเร็จรูปบริษัทต้องการเจาะกลุ่มลูกค้า ที่เพิ่งเข้าสู่วัยทำงานหรืออยู่ระหว่างการศึกษาอยู่ และประกาศสำคัญการแข่งขันสินค้าเกษตรมีความรุนแรง โดยเฉพาะตลาดข้าวระดับล่างจะแข่งขันกันในเรื่องของราคา ส่วนตลาดบนจะแข่งขันการทำโปรโมชั่น อีกทั้งแนวโน้มตลาดอาหารกึ่งสำเร็จรูปทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยก็กำลังขยายตัวสูง
สำหรับปีหน้าได้เตรียมเปิดตัว"คัพโจ๊ก"ลงสู่ตลาด ประเดิมด้วยกัน 1-2 รสชาติภายใต้คอนเซปต์เพื่อสุขภาพเป็นหลัก โดยปีหน้านี้บริษัทวางงบการตลาด 50ล้านบาท แบ่งเป็นการทำตลาดอาหารกึ่งสำเร็จรูป 30ล้านบาท ซึ่งจะรุกทำตลาดผ่านการจัดกิจกรรมอย่างครบวงจร ส่วนที่เหลืออีก 20 ล้านบาท เป็นผลิตภัณฑ์เกษตรแบบเดิม เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาบริษัทใช้งบการตลาด 20 ล้านบาท
ด้านการจัดจำหน่ายสินค้าใหม่ ได้ให้บริษัทเชียร์ เทรดดิ้ง บริษัทลูกซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าตราเกษตรอยู่แล้ว เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าใหม่ให้ ทั้งในส่วนโมเดิร์นเทรดและเทรดิชันนัลเทรด ดังนั้นจึงมั่นใจว่า ในปีแรกของการทำตลาดสินค้าใหม่จะมียอดขาย 100 ล้านบาทขึ้นไป โดยปัจจุบันคู่แข่งรายหลักในตลาดวุ้นเส้นสำเร็จรูป คือ กุ๊งกิ๊ง วางตำแหน่งการตลาดเป็นอาหารกึ่งสำเร็จรูปเพื่อสุขภาพ มีจำหน่ายทั้งบรรจุภัณฑ์โบวล์และซอง ส่วนตลาดคัพโจ๊กมูลค่า 500 ล้านบาท ภาวะตลาดมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก โดยปัจจุบันคนอร์เป็นผู้นำตลาดนี้
นายสมฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากแตกไลน์สินค้าใหม่เพื่อป้อนตลาดภายในประเทศแล้ว ยังได้วางแนวทางนำสินค้าใหม่ วุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูปบรรจุภัณฑ์ถ้วยและคัพโจ๊ก ส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม จากเดิมส่งออกแต่ผลิตภัณฑ์เกษตรแบบเดิมออกไปจำหน่ายเท่านั้น โดยการส่งสินค้าใหม่อาศัยช่องทางเดิมที่มีอยู่แล้ว 50ประเทศทำตลาด ประเดิมส่งออกสินค้าใหม่ไปยังประเทศยุโรปและสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้หลังจากที่บริษัทเปิดตัวอาหารกึ่งสำเร็จรูป ผลประกอบการปีหน้าตั้งเป้ามีรายได้เติบโต 10-15% จากปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโตกว่า 10% หรือมีรายได้รวมทั้งส่งออกและภายในประเทศ 1,200 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือน ที่ผ่านมานี้ มีรายได้ 883 ล้านบาท
