ผู้บริหารแพรนด้า จิวเวอร์รี่ ระบุถึงเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องในระยะนี้มีผลกระทบต่อธุรกิจอัญมณีเล็กน้อย เหตุนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศสูงถึงร้อยละ 60 ทำให้ต้นทุนถูกลง พร้อมชี้หากจีนและอินเดียสามารถเจรจาทำเอฟทีเอได้ก่อนผู้ผลิตอัญมณีไทยจะยิ่งเสียเปรียบคู่แข่งมากขึ้น คาดอุตสาหกรรมอัญมณีปีหน้าจะโตร้อยละ 7-8
นายปรีดา เตียสุวรรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท แพรนด้า จิวเวอร์รี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังการเข้าร่วมประชุมวิชาการนานาชาติด้านอัญมณี ครั้งที่ 1 ว่า การเจรจาเปิดเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ เป็นสิ่งที่จำเป็นจึงต้องการให้รัฐบาลช่วยผลักดัน โดยเฉพาะการเจรจากับประเทศสหรัฐที่เป็นตลาดส่งออกหลักอัญมณีของไทย เพราะหากประเทศคู่แข่ง เช่น จีน และอินเดีย สามารถเจรจาทำเอฟทีเอได้ก่อนประเทศไทย ผู้ผลิตอัญมณีไทยจะยิ่งเสียเปรียบคู่แข่งมากขึ้น เพราะต้องเผชิญกับกำแพงภาษี จากปัจจุบันที่ผู้ผลิตของไทยต้องเสียส่วนแบ่งตลาดอัญมณีระดับล่างให้กับทั้ง 2 ประเทศมานานกว่า 10 ปี เพราะไม่สามารถแข่งขันเรื่องต้นทุนแรงงานที่ถูกกว่าได้ ทำให้ผู้ผลิตอัญมณีไทยต้องปรับตัวด้วยการเพิ่มมูลค่าเพื่อเจาะตลาดระดับกลางและระดับบนแทน
ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาถึงระดับ 35.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐนั้น นายปรีดา กล่าวว่า มีผลกระทบต่อการส่งออกอัญมณีบ้าง แต่เนื่องจากผู้ผลิตอัญมณีไทยมีการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศมากถึงร้อยละ 60 ทำให้ต้นทุนการนำเข้าถูกลง ซึ่งหากเปรียบเทียบแล้วผลกระทบด้านบวกและด้านลบใกล้เคียงกัน
นายปรีดา กล่าวถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมอัญมณีในปี 2550 ว่า น่าจะใกล้เคียงกับปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 7-8 โดยขึ้นอยู่กับราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตทองเป็นหลัก ซึ่งในปี 2549 ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก และขึ้นอยู่กับความมั่นใจของผู้บริโภคในประเทศคู่ค้าทั้งยุโรป ญี่ปุ่นและสหรัฐ ซึ่งในปีหน้ายังมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ภาวะราคาน้ำมันและการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นใจของผู้บริโภคได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตอัญมณีไทยก็ได้มองหาตลาดส่งออกใหม่เพิ่มเติม เช่น อินเดีย จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน เพื่อมาทดแทนตลาดส่งออกเดิมที่อาจจะชะลอตัวลง
ทั้งนี้ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ ( องค์การมหาชน) ได้จัดการประชุมวิชาการนานาชาติด้านอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 6-7 ธันวาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยงานดังกล่าวจะเป็นเวทีสำหรับนักออกแบบเครื่องประดับ สถาบันวิจัยและผู้ประกอบการอัญมณีจากทั่วโลกได้แลกเปลี่ยนและถ่ายทอดข้อมูลเกี่ยวกับอัญมณีและเครื่องประดับและเป็นการแสดงศักยภาพและผลงานของเอกชนไทยในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ
นายปรีดา เตียสุวรรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท แพรนด้า จิวเวอร์รี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังการเข้าร่วมประชุมวิชาการนานาชาติด้านอัญมณี ครั้งที่ 1 ว่า การเจรจาเปิดเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ เป็นสิ่งที่จำเป็นจึงต้องการให้รัฐบาลช่วยผลักดัน โดยเฉพาะการเจรจากับประเทศสหรัฐที่เป็นตลาดส่งออกหลักอัญมณีของไทย เพราะหากประเทศคู่แข่ง เช่น จีน และอินเดีย สามารถเจรจาทำเอฟทีเอได้ก่อนประเทศไทย ผู้ผลิตอัญมณีไทยจะยิ่งเสียเปรียบคู่แข่งมากขึ้น เพราะต้องเผชิญกับกำแพงภาษี จากปัจจุบันที่ผู้ผลิตของไทยต้องเสียส่วนแบ่งตลาดอัญมณีระดับล่างให้กับทั้ง 2 ประเทศมานานกว่า 10 ปี เพราะไม่สามารถแข่งขันเรื่องต้นทุนแรงงานที่ถูกกว่าได้ ทำให้ผู้ผลิตอัญมณีไทยต้องปรับตัวด้วยการเพิ่มมูลค่าเพื่อเจาะตลาดระดับกลางและระดับบนแทน
ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาถึงระดับ 35.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐนั้น นายปรีดา กล่าวว่า มีผลกระทบต่อการส่งออกอัญมณีบ้าง แต่เนื่องจากผู้ผลิตอัญมณีไทยมีการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศมากถึงร้อยละ 60 ทำให้ต้นทุนการนำเข้าถูกลง ซึ่งหากเปรียบเทียบแล้วผลกระทบด้านบวกและด้านลบใกล้เคียงกัน
นายปรีดา กล่าวถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมอัญมณีในปี 2550 ว่า น่าจะใกล้เคียงกับปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 7-8 โดยขึ้นอยู่กับราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตทองเป็นหลัก ซึ่งในปี 2549 ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก และขึ้นอยู่กับความมั่นใจของผู้บริโภคในประเทศคู่ค้าทั้งยุโรป ญี่ปุ่นและสหรัฐ ซึ่งในปีหน้ายังมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ภาวะราคาน้ำมันและการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นใจของผู้บริโภคได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตอัญมณีไทยก็ได้มองหาตลาดส่งออกใหม่เพิ่มเติม เช่น อินเดีย จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน เพื่อมาทดแทนตลาดส่งออกเดิมที่อาจจะชะลอตัวลง
ทั้งนี้ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ ( องค์การมหาชน) ได้จัดการประชุมวิชาการนานาชาติด้านอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 6-7 ธันวาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยงานดังกล่าวจะเป็นเวทีสำหรับนักออกแบบเครื่องประดับ สถาบันวิจัยและผู้ประกอบการอัญมณีจากทั่วโลกได้แลกเปลี่ยนและถ่ายทอดข้อมูลเกี่ยวกับอัญมณีและเครื่องประดับและเป็นการแสดงศักยภาพและผลงานของเอกชนไทยในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ