xs
xsm
sm
md
lg

“เทรน-เซ็นทรัลแอร์”งัดแผนชิงแชร์ มุ่งตลาดโปรเจกต์-ออกสินค้าใหม่สู้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โฟกัสโค้งสุดท้ายตลาดแอร์ยังคึกคัก “เทรน”พุ่งเป้าจับตลาดโปรเจกต์กว่า 10 โครงการ มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 200 ลบ. แทนช่วงโลว์ซีซันของตลาดบ้าน มั่นใจช่วยดันรายได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้กว่า 3,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% ด้านเซ็นทรัล แอร์มุ่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ หวังมาร์เก็ตแชร์สิ้นปีนี้ 15%

นายมหิธร วิภัติภูมิประเทศ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอร์โค จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ ภายใต้แบรนด์ “เทรน” เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ถึงแม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซันของตลาดแอร์ก็ตาม แต่ในความเป็นจริงกลับเป็นช่วงที่ยังมีการแข่งขันที่ดีอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มของตลาดโปรเจกต์ ล่าสุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมามีโปรเจกต์ของทางภาครัฐได้มีการอนุมัติไว้หลายโครงการ ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่บริษัทฯจะเน้นตลาดโปรเจกต์แทน โดยล่าสุดในขณะนี้มีโปรเจกต์อยู่ในมือแล้วกว่า 5-10 โครงการหรือมีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 150-200 ล้านบาท

สำหรับงานโปรเจกต์ใหญ่ๆ ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ยังมีโปรเจกต์ของกลุ่มเดอะมอลล์ ที่ร่วมมือกันมาตลอด คือ สยามพารากอน, ดิ เอ็มโพเรียม และห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ที่มีทั้งการติดตั้งใหม่และเปลี่ยนแอร์ใหม่ รวมถึงกลุ่มโรงแรมระดับห้าดาวย่านถนนสุขุมวิทอีก เช่น เจดับบลิว แมริออท, กลุ่มโรงแรมแอคคอร์ กลุ่มโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ส่วนกลุ่มสถานศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยเอแบค เป็นต้น

“บริษัทฯให้ความสำคัญกับแอร์ในทุกไลน์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มบ้านหรือโปรเจกต์ ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมและพาณิชย์ ดังนั้นช่วงไหนที่ตลาดแอร์บ้านลดลง ก็ยังคงมีกลุ่มตลาดโปรเจกต์ที่ยังคงสร้างรายได้ที่ดีอยู่ จึงทำให้มองว่าตลอดทั้งปีบริษัทฯยังคงมีรายได้เติบโตที่ 10% เป็นไปตามเป้าที่วางไว้กว่า 3,500 ล้านบาท มาจากตลาดแอร์บ้าน 50% และตลาดโปรเจกต์ 50%”

สำหรับตลาดแอร์บ้านในปีนี้ยังคงมีการแข่งขันที่ดีอยู่ โดยผู้เล่นส่วนใหญ่จะเน้นการแข่งขันทางด้านคุณภาพ ฟังก์ชั่นการทำงาน และบริการหลังการขายเป็นหลัก รวมไปถึงราคาที่ปัจจุบันจะมีราคาที่ถูกลง ขณะที่บริษัทฯจะเน้นเรื่องคุณภาพและบริการหลังการขายมากกว่า แทนที่จะลงมาเล่นเรื่องราคาแทน

อย่างไรก็ตามเนื่องจากต้นทุน โดยเฉพาะทองแดงที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ในปีนี้บริษัทฯจำเป็นต้องมีการปรับราคาสินค้าบางโมเดลขึ้นอย่างน้อย 5-10% แต่มองว่าไม่กระทบกับผู้บริโภคมากนัก

ขณะที่ในปีนี้บริษัทฯใช้งบการตลาดไปเพียง 50-60 ล้านบาท สำหรับสื่อไปยังผู้บริโภคให้เข้าใจเกี่ยวกับการใช้แอร์เป็นหลัก และมีจำนวนดีลเล่อร์กว่า 200 รายทั่วประเทศ โดยมองว่าจำนวนดีลเล่อร์ที่มีอยู่เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องขยายเพิ่มแต่อย่างไร

นายมหิธร กล่าวต่อว่า สำหรับแนวโน้มตลาดแอร์ในปีหน้านั้นคาดว่าอาจจะมีการเติบโตที่ไม่หวือหวาหรือโต ประมาณ 5% เท่านั้น เนื่องจากมีกลุ่มโปรเจกต์ยังต้องรอการอนุมัติจากทางภาครัฐอยู่อีกหลายโครงการ และยังไม่ทราบว่าจะมีการอนุมัติเมื่อใด ขณะที่หน่วยงานของภาครัฐบาลเองก็ยังไม่นิ่งอยู่แบบนี้ ส่วนตลาดแอร์บ้านนั้นยังมีการแข่งขันที่ดีอยู่ โดยเชื่อว่าแนวโน้มตลาดแอร์บ้านจะดีขึ้น ผู้บริโภคเริ่มมองว่าแอร์มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันมากขึ้น สำหรับผู้เล่นแต่ละรายเองนั้นก็จะมีการออกผลิตภัณฑ์ไลน์ใหม่ๆมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนของบริษัทฯเองนั้นคาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดหลายไลน์ตลอดทั้งปีเช่นเดียวกัน

ปัจจุบันมูลค่าตลาดแอร์บ้านอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 5% ขณะที่บริษัทฯมีแชร์ในตลาดแอร์บ้านประมาณ 10% ส่วนตลาดโปรเจกต์นั้นคาดว่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ 4,000-5,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯครองมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 40%

เซ็นทรัลแอร์มุ่งมาร์เก็ตแชร์ 15%
นายสัตยา ศรีอ่อน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แพนสยาม เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้ผลิต และจัดจำหน่าย เครื่องปรับอากาศเซ็นทรัลแอร์ เปิดเผยว่า ช่วงปลายปีนี้ถือเป็นช่วงโลว์ซีซันของตลาดแอร์ ดังนั้นทางบริษัทฯจึงมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 2 รุ่น ขนาด 9,000 บีทียู และ 13,000 บีทียู โดยจะชูกลยุทธ์ในเรื่องของราคาเข้าแข่งขัน และจะมีการจำหน่ายในราคาพิเศษสำหรับช่วงส่งท้ายปลายปี โดยคาดว่าจะช่วยให้บริษัทฯมีรายได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยมีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดรวมปีนี้ที่15 %

ขณะที่ในปีหน้านั้นเบื้องต้นบริษัทฯได้มีการวางงบการตลาดไว้กว่า 70-80 ล้านบาท สำหรับทำการตลาดตลอดทั้งปีในทุกไลน์ผลิตภัณฑ์ โดยจะยังให้ความสำคัญกับการทำตลาดของแอร์ประเภทเคลื่อนที่ต่อเนื่อง จากเดิมที่มีวางจำหน่ายอยู่ในตลาดแล้ว 2 รุ่น คือ 9,000 บีทียู และ 12,000 บีทียู ปีหน้าจะมีเข้ามาจำหน่ายอีกอย่างน้อย 1 รุ่น คือ 13,000 บีทียู

“ปีหน้าบริษัทฯยังคงให้ความสำคัญกับแอร์เคลื่อนที่ต่อเนื่อง หลังจากที่เป็นรายแรกที่เข้ามาบุกเบิกตลาดแอร์เคลื่อนที่ในไทยกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันบริษัทฯมีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดกว่า 50% ขณะที่ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดอยู่ประมาณ 3 รายเท่านั้น โดยในปีนี้มองว่าตลาดแอร์เคลื่อนที่กำลังมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้น 10% ทุกปี จากการที่กลุ่มบริษัทฯมีความต้องการในการใช้งานมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการของตลาดอยู่ที่ 10,000 เครื่อง โดยมีราคาในการจำหน่ายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท”

อย่างไรก็ตามผลประกอบการในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยแบ่งสัดส่วนรายได้เป็น แอร์เคลื่อนที่ 10% แอร์บ้านหรือโฮมยูส 40% และโปรเจกต์รวมกับคอมเมอร์เชียลแอร์อีก 50% ซึ่งในส่วนของตลาดโฮมยูสนั้นขณะนี้สามารถครองมาร์เก็ตแชร์กว่า 12% คาดว่าถึงสิ้นปีจะมีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นเป็น 15% ตามเป้าที่วางไว้ ขณะที่ตลาดโปรเจกต์เช่นเดียวกันคาดว่าสิ้นปีจะครองมาร์เก็ตแชร์ที่ 20%ได้อย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น