รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังย้ำข้าราชการยึดหลัก 4 ป เพื่อให้การทำงานมีความเป็นมืออาชีพ และรองรับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคปัจจุบัน โดยให้ยึดหลักประหยัด โปร่งใส ทำงานด้วยความเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ เชื่อหากร่วมมือกันจะทำให้ระบบราชการเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นภายใน 3-4 ปี

ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกลุ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างงานประชุมประจำปี ระหว่างส่วนราชการและสำนักงาน ก.พ.หัวข้อเรื่อง " มิติใหม่ในการสร้างคุณค่าของทรัพยากรบุคคลากรในองค์กร" โดยระบุว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ข้าราชการทำงานให้เป็นแบบมืออาชีพ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคปัจจุบัน แต่ทำงานด้วยคุณธรรมควบคู่กันไป โดยให้ยึดหลักการทำงาน 4 ป คือ 1. การประหยัด ซึ่งเชื่อว่าข้าราชการประหยัดอยู่แล้ว 2.การทำงานด้วยความโปร่งใส ซึ่งมีอยู่มากแล้ว ในข้าราชการปัจุบัน แต่ที่ไม่โปร่งใสเป็นเพราะการเมืองเข้ามาแทรกแซงและผลักดันให้เกิดความไม่โปร่งใสขึ้น ดังนั้นจะทำอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้นักการเมืองเข้ามาแทรกแซงการทำงานชักจูงให้ทำในสิ่งไม่ดี 3.การทำงานด้วยความเป็นธรรม เพราะจะทำให้ประชาชนมีความเชื่อใจว่า สามารถเป็นที่พึ่งได้ 4. มีประสิทธิภาพ เพราะบุคคลภายนอกมักจะบอกว่าระบบราชการไม่มีประสิทธิภาพ มีกฎระเบียบมากมาย ดังนั้นจึงต้องปรับปรุง การเปลี่ยนแปลงทัศนคติเพื่อมุ่งที่ผลการทำงานอย่างจริงจัง โดยสามารถนำแผนงานไปปฏิบัติได้จนเกิดผลการมีความเข้าใจง่ายต่อผู้นำไปปฏิบัติ และกล้าเสนอทางออกในการแก้ปัญหาต่างๆ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ระดับหัวหน้าหน่วยงานต้องเป็นแบบอย่างที่ดีต้องทำให้เป็นตัวอย่างแก่ลูกน้อง การประเมินผลงานเน้นที่ผลงานอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับการปรับเลื่อนตำแหน่ง การให้ผลตอบแทนอื่น ๆ จึงเชื่อมั่นว่าภายใน 3-4 ปี หากทุกส่วนร่วมมือปรับทัศนคติการทำงานอย่างจริงจัง น่าจะทำให้ระบบราชการเปลี่ยนแปลงไปได้ในทางที่ดีขึ้นโดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงทำในสิ่งไม่ดีและขยับขึ้นไปถึงขั้นการต่อสู้กับสิ่งไม่ดีที่พยายามแทรกแซงเข้ามา เพื่อให้ประชาชนเห็นได้ว่าข้าราชการเป็นที่พึ่งได้อย่างแท้จริง
ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกลุ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างงานประชุมประจำปี ระหว่างส่วนราชการและสำนักงาน ก.พ.หัวข้อเรื่อง " มิติใหม่ในการสร้างคุณค่าของทรัพยากรบุคคลากรในองค์กร" โดยระบุว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ข้าราชการทำงานให้เป็นแบบมืออาชีพ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคปัจจุบัน แต่ทำงานด้วยคุณธรรมควบคู่กันไป โดยให้ยึดหลักการทำงาน 4 ป คือ 1. การประหยัด ซึ่งเชื่อว่าข้าราชการประหยัดอยู่แล้ว 2.การทำงานด้วยความโปร่งใส ซึ่งมีอยู่มากแล้ว ในข้าราชการปัจุบัน แต่ที่ไม่โปร่งใสเป็นเพราะการเมืองเข้ามาแทรกแซงและผลักดันให้เกิดความไม่โปร่งใสขึ้น ดังนั้นจะทำอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้นักการเมืองเข้ามาแทรกแซงการทำงานชักจูงให้ทำในสิ่งไม่ดี 3.การทำงานด้วยความเป็นธรรม เพราะจะทำให้ประชาชนมีความเชื่อใจว่า สามารถเป็นที่พึ่งได้ 4. มีประสิทธิภาพ เพราะบุคคลภายนอกมักจะบอกว่าระบบราชการไม่มีประสิทธิภาพ มีกฎระเบียบมากมาย ดังนั้นจึงต้องปรับปรุง การเปลี่ยนแปลงทัศนคติเพื่อมุ่งที่ผลการทำงานอย่างจริงจัง โดยสามารถนำแผนงานไปปฏิบัติได้จนเกิดผลการมีความเข้าใจง่ายต่อผู้นำไปปฏิบัติ และกล้าเสนอทางออกในการแก้ปัญหาต่างๆ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ระดับหัวหน้าหน่วยงานต้องเป็นแบบอย่างที่ดีต้องทำให้เป็นตัวอย่างแก่ลูกน้อง การประเมินผลงานเน้นที่ผลงานอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับการปรับเลื่อนตำแหน่ง การให้ผลตอบแทนอื่น ๆ จึงเชื่อมั่นว่าภายใน 3-4 ปี หากทุกส่วนร่วมมือปรับทัศนคติการทำงานอย่างจริงจัง น่าจะทำให้ระบบราชการเปลี่ยนแปลงไปได้ในทางที่ดีขึ้นโดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงทำในสิ่งไม่ดีและขยับขึ้นไปถึงขั้นการต่อสู้กับสิ่งไม่ดีที่พยายามแทรกแซงเข้ามา เพื่อให้ประชาชนเห็นได้ว่าข้าราชการเป็นที่พึ่งได้อย่างแท้จริง