“ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น” หลังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริษัทใหม่ พร้อมเปลี่ยนชื่อ จากเดิม “บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์” มาได้ 2 เดือน พร้อมเดินหน้าลุยตลาดเคเบิ้ลเต็มพิกัจ ล่าสุด ทุ่ม 100 ล้านบาท ผุดบริษัท “ไลฟ์ ทีวี” สร้างสตูดิโอ รองรับรายการทีวี มั่นใจปีนี้มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท
นายวิชัย เบญจพลาพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัทไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมครึ่งปีผ่านมา บริษัทฯยังประสบปัญหาหารขาดทุนอยู่ จนทำให้มีการปรับโครงสร้างองค์กร รวมไปถึงกลุ่มผู้ถือหุ้นที่มีหารเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็นบริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยยังคงดำเนินธุรกิจดังเดิม ภายใต้การทำงาน 5 บริษัทลูก ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสื่อต่างๆ ได้แก่ ไลฟ์ เรดิโอ กับธุรกิจคลื่นวิทยุ เดอะเรดิโอ 99.5 เอฟเอ็ม, เคเบื้ล ทีวี เป็นพาร์ทเนอร์กับสตาร์ ทีวี ผลิตช่อง ชาแนลวี ไทยแลนด์, มูวี่ โปรดักชั่น แอนด์ ดิสทริบิวเตอร์ โดยการถือหุ้นใน บ๊อก ออฟฟิส เอ็มเตอร์เทนเม้นทื อยู่ 40 %, สื่อมีเดีย และ เคเบิ้ล ทีวี ภายใต้ชื่อ ไลฟ์ ทีวี
หลังจากที่ได้มีการปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ครั้งนี้ ทางบริษัทฯจะเริ่มดำเนินธุรกิจให้มีกำไรมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ประสบปัญหาการขาดทุนมานาน ล่าสุดทางบริษัทฯ ได้เตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท สำหรับให้บริษัท ไลฟ์ ทีวี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูก ภายใต้หารบริหารงานของ นายกุลพงศ์ บุนนาค สำหรับสร้างสตูดิโอใหม่ จำนวน 4 ห้อง บนพื้นที่ 3,500 ตารางเมตร แบ่งเป็นขนาดใหญ่ 3 ห้อง และขนาดเล็ก 1 ห้อง เพื่อรองรับรายการทีวีในบริษัท คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 3 ปี
ขณะที่รายได้รวมในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่า 400 ล้านบาท ถือว่ามีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ จากเดิม 300 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามยังถือว่าขาดทุนอยุ่ แต่เป็นการขาดทุนที่น้อยลง
นายกุลพงศ์ บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท ไลฟ์ ทีวี จำกัด หนึ่งในบริษัทลูกของ บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า ไลฟ์ ทีวี ดำเนินธุรกิจในรปแบบของการเป็นผู้ผลิตรายการป้อนเคเบิ้ลทีวีทั่วประเทศ โดยมีทั้งหมด 6 ช่อง คือ มูฟวี่ 1 เป็นช่องภาพยนตร์ จาก บ๊อกซ์ ออฟฟิศ, มูฟวี่2 เป็นช่องภาพยนตร์จากประเทศในอาเซียน, ป๊อป ไลฟ์ เป็นช่องสำหรับวัยรุ่น มีทั้งเพลง แฟชั่น และเทคโนโลยี, ไทยไชโย เป็นช่องรวมสาระเกี่ยวกับวงการเพลงลูกทุ่งทั้งหมด และ อีดีเอ็น เป็นช่องสารคดี
ล่าสุดได้มีการเปิดตัวช่อง “ป๊อป ไลฟ์” เป็นครั้งแรกวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมาปรากฎว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดังนั้นในวันที่ 1 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ทางบริษัทฯเตรียมเปิดตัวช่อง ไทยไชโย ต่อไป และในวันที่ 1 ม.ค. 2550 จะเป็นการเปิดตัวช่อง วาไรตี้ วัน อีกด้วย
สำหรับการทำตลาดในปีหน้านั้น บริษัทฯได้วางงบประมาณไว้กว่า 30 ล้านบาท จะเป็นในส่วนการประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อที่ทางกลุ่มบริษัทฯมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น สปอร์ตวิทยุ ผ่านเดอะเรดิโอ 99.5 เอฟเอ็ม หรือการทำตลาดร่วมกันกับพาร์ทเนอร์ที่มีอยู่ประมาณ 3 รายในขณะนี้ คือ กลุ่มซีเอ็มจี, เครื่องดื่มโค้ก และสายการบินแอร์เอเชีย
นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนการเพิ่มช่องทางขายคอนเท้นท์สู่กลุ่มเอ็นยูสเซอร์ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโรงแรม คอนโดมิเนียม และกลุ่มภัตตราคารต่างๆ รวมไปถึงการนำเอาคอนเท้นท์ที่มีอยู่ไปขายยังต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส และสิงคโปร์ ที่จะมีการจัดงานเกี่ยวกับสื่อขึ้น โดยทางบริทฯจะไปร่วมออกบู้ทในครั้งนี้ด้วย
รวมไปถึงช่องทางผู้ให้บริการเคเบิ้ลทีวี จำนวน 421 ราย ในขณะนี้ คิดเป็น 80 % จากทั้งหมด 500 กว่ารายทั่วประเทศ ในปีหน้าจะมีการเพิ่มจำนวนผู้ให้บริหารเคเบิ้ลทีวีให้ได้ 90 %
นายวิชัย เบญจพลาพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัทไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมครึ่งปีผ่านมา บริษัทฯยังประสบปัญหาหารขาดทุนอยู่ จนทำให้มีการปรับโครงสร้างองค์กร รวมไปถึงกลุ่มผู้ถือหุ้นที่มีหารเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็นบริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยยังคงดำเนินธุรกิจดังเดิม ภายใต้การทำงาน 5 บริษัทลูก ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสื่อต่างๆ ได้แก่ ไลฟ์ เรดิโอ กับธุรกิจคลื่นวิทยุ เดอะเรดิโอ 99.5 เอฟเอ็ม, เคเบื้ล ทีวี เป็นพาร์ทเนอร์กับสตาร์ ทีวี ผลิตช่อง ชาแนลวี ไทยแลนด์, มูวี่ โปรดักชั่น แอนด์ ดิสทริบิวเตอร์ โดยการถือหุ้นใน บ๊อก ออฟฟิส เอ็มเตอร์เทนเม้นทื อยู่ 40 %, สื่อมีเดีย และ เคเบิ้ล ทีวี ภายใต้ชื่อ ไลฟ์ ทีวี
หลังจากที่ได้มีการปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ครั้งนี้ ทางบริษัทฯจะเริ่มดำเนินธุรกิจให้มีกำไรมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ประสบปัญหาการขาดทุนมานาน ล่าสุดทางบริษัทฯ ได้เตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท สำหรับให้บริษัท ไลฟ์ ทีวี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูก ภายใต้หารบริหารงานของ นายกุลพงศ์ บุนนาค สำหรับสร้างสตูดิโอใหม่ จำนวน 4 ห้อง บนพื้นที่ 3,500 ตารางเมตร แบ่งเป็นขนาดใหญ่ 3 ห้อง และขนาดเล็ก 1 ห้อง เพื่อรองรับรายการทีวีในบริษัท คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 3 ปี
ขณะที่รายได้รวมในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่า 400 ล้านบาท ถือว่ามีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ จากเดิม 300 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามยังถือว่าขาดทุนอยุ่ แต่เป็นการขาดทุนที่น้อยลง
นายกุลพงศ์ บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท ไลฟ์ ทีวี จำกัด หนึ่งในบริษัทลูกของ บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า ไลฟ์ ทีวี ดำเนินธุรกิจในรปแบบของการเป็นผู้ผลิตรายการป้อนเคเบิ้ลทีวีทั่วประเทศ โดยมีทั้งหมด 6 ช่อง คือ มูฟวี่ 1 เป็นช่องภาพยนตร์ จาก บ๊อกซ์ ออฟฟิศ, มูฟวี่2 เป็นช่องภาพยนตร์จากประเทศในอาเซียน, ป๊อป ไลฟ์ เป็นช่องสำหรับวัยรุ่น มีทั้งเพลง แฟชั่น และเทคโนโลยี, ไทยไชโย เป็นช่องรวมสาระเกี่ยวกับวงการเพลงลูกทุ่งทั้งหมด และ อีดีเอ็น เป็นช่องสารคดี
ล่าสุดได้มีการเปิดตัวช่อง “ป๊อป ไลฟ์” เป็นครั้งแรกวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมาปรากฎว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดังนั้นในวันที่ 1 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ทางบริษัทฯเตรียมเปิดตัวช่อง ไทยไชโย ต่อไป และในวันที่ 1 ม.ค. 2550 จะเป็นการเปิดตัวช่อง วาไรตี้ วัน อีกด้วย
สำหรับการทำตลาดในปีหน้านั้น บริษัทฯได้วางงบประมาณไว้กว่า 30 ล้านบาท จะเป็นในส่วนการประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อที่ทางกลุ่มบริษัทฯมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น สปอร์ตวิทยุ ผ่านเดอะเรดิโอ 99.5 เอฟเอ็ม หรือการทำตลาดร่วมกันกับพาร์ทเนอร์ที่มีอยู่ประมาณ 3 รายในขณะนี้ คือ กลุ่มซีเอ็มจี, เครื่องดื่มโค้ก และสายการบินแอร์เอเชีย
นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนการเพิ่มช่องทางขายคอนเท้นท์สู่กลุ่มเอ็นยูสเซอร์ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโรงแรม คอนโดมิเนียม และกลุ่มภัตตราคารต่างๆ รวมไปถึงการนำเอาคอนเท้นท์ที่มีอยู่ไปขายยังต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส และสิงคโปร์ ที่จะมีการจัดงานเกี่ยวกับสื่อขึ้น โดยทางบริทฯจะไปร่วมออกบู้ทในครั้งนี้ด้วย
รวมไปถึงช่องทางผู้ให้บริการเคเบิ้ลทีวี จำนวน 421 ราย ในขณะนี้ คิดเป็น 80 % จากทั้งหมด 500 กว่ารายทั่วประเทศ ในปีหน้าจะมีการเพิ่มจำนวนผู้ให้บริหารเคเบิ้ลทีวีให้ได้ 90 %