ประชาชนที่เดือดร้อนจากมลภาวะทางเสียงของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และผู้บริหาร ทอท. เพื่อให้แก้ไขปัญหา ยื่นคำขาดให้เลิกใช้เส้นทางการบินผ่านทุกหมู่บ้าน หรือให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจแทน ทอท. มาหาทางออกร่วมกับรัฐบาล ขู่จะเดินขบวนไปประสานถึง “สุวรรณภูมิ”
ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ นำโดย นางจุฑารัตน์ จันทร แกนนำกลุ่มฯ พร้อมสมาชิกกว่า 100 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีข้อเรียกร้อง คือ ขอให้พิจารณายกเลิกการใช้เส้นทางการบินผ่านหมู่บ้านทุกหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ และหากไม่สามารถดำเนินการได้ตามนี้ ให้มอบหมายผู้มีอำนาจในการตัดสินใจแทน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. มาพบกับประชาชน เพื่อเจรจาขอซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจากประชาชนที่เดือดร้อนทุกหมู่บ้าน ในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ เวลา 10.00 น. จนกว่าจะได้ข้อยุติทั้งหมด ซึ่งราคาที่ชดเชยจะต้องมีความยุติธรรม อยู่ใกล้เคียงชุมชนเดิม และ ทอท. ต้องจ่ายค่าชดเชยการก่อมลพิษทางเสียงและมลพิษทางอากาศให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เป็นต้น
ทั้งนี้ หากไม่มีการดำเนินการใด ๆ ตามข้อเสนอดังกล่าว สมาชิกทุกหมู่บ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจะเดินขบวนไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมทั้งให้ข่าวต่อสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา ขาดหลักธรรมาภิบาลในการบริหารงาน ยึดประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกัน ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีตัวแทนชาวบ้านประมาณ 100 คน จาก 7 หมู่บ้าน ที่มีครัวเรือน 3,000 ครัวเรือน อาศัยอยู่ทิศเหนือของรันเวย์ด้านตะวันตก ท่าอากาศยานสุวรณภูมิ เดินทางมาเพื่อเรียกร้องให้ ทอท. รับผิดชอบผลกระทบจากการเปิดใช้ท่าอากาศยาน โดยนางอุบลวรรณ ศิรคุณาโศภณ กรรมการหมู่บ้านร่มสุข กล่าวว่า นับตั้งแต่เปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ได้เกิดมลพิษทางเสียงดังถึง 110 เดซิเบล แรงกดอากาศทำให้หลังคาแตก ผนังบ้านร้าว เกิดแรงสั่นสะเทือนต่อโครงสร้างบ้าน มีเขม่าควันลงในที่เก็บน้ำดื่มน้ำใช้ จนทำให้ประชาชนเกิดความเครียดเป็นโรคภูมิแพ้ เด็ด ๆ มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และมีผู้เจ็บป่วยมากขึ้น ขณะที่ผู้ป่วยมีอาการทรุดหนัก บางรายถึงขั้นเสียชีวิตไปแล้ว ทั้งหมดยังไม่ได้รับการดูแลจากทางการ ทั้งที่มีการเรียกร้องไปหลายครั้ง
นายสุรเดช เบญจาธิกุท ประธานหมู่บ้านร่มฤดี กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ ทอท. ลงสำรวจความเสียหายโดยด่วน และกำหนดกรอบเวลาแก้ปัญหาชัดเจน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการให้ซื้อคืนที่ดินในราคาที่สามารถหาที่อยู่ใหม่ได้ แต่ที่ผ่านมา ทอท. ดำเนินการแค่ซ่อมหลังคาเท่านั้น แต่ชาวบ้านให้แก้ปัญหาถาวร
ขณะที่นายประจบ ม่วงอินทร์ กรรมการหมู่บ้านร่มสุข กล่าวว่า ทราบว่ามีการอนุมัติเงินให้ช่วยชาวบ้าน แต่ทางการกลับตั้งเงื่อนไขเข้มงวด ทำให้เงินไม่ถึงมือชาวบ้านและไปหาที่อยู่ใหม่ไม่ได้ จึงต้องการถาม ทอท.ว่า หากต้องการช่วยชาวบ้านจริงทำไมต้องสร้างเงื่อนไข ซึ่งที่ผ่านมา มีเพียงชาวบ้านติดตามแค่ข่าวในหนังสือพิมพ์เท่านั้น ไม่ได้รับการประสานอย่างจริงจังจาก ทอท.
ส่วนนายมีชัย ตาลแตง ประธานหมู่บ้านลาดกระบัง การ์เด้นท์ ชาวบ้านส่วนใหญ่อาศัยมาประมาณ 10-15 ปี ก่อนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเปิดให้บริการ บางรายไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีการสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำให้ไม่มีการวางโครงสร้างบ้านรองรับแรงสั่นสะเทือนเช่นเดียวกันบ้านจัดสรรเคหะนคร 2 ซึ่งไม่มีรากฐานรองรับแรงสั่นสะเทือนเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางออกจากอาคารผู้โดยสาร และได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลาต่อมา