เมเจอร์ โบว์ลเดินหน้าสร้างแบรนด์อแวร์เนส ขยายสาขาเลนเพิ่มอีก 100 เลน ปีหน้า พร้อมลุยแคมเปญใหญ่กว่า 4 แคมเปญ โฟกัสวัยรุ่นและคนเริ่มทำงาน ล่าสุดทุ่มทุนกว่า 50 ล้านบาท เตรียมเปิดตัว “ไอซ์ สเก็ต” ณ สาขาเอสพละนาดอีก 2 เดือนข้างหน้า มั่นใจดันรายได้ปีหน้าเติบโตอีกอย่างน้อย 20% จากรายได้ของปีนี้ที่คาดว่าจะแตะ 600 ล้านบาท
นายอาทร เตชะตันติวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เมเจอร์โบว์ล กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในปีหน้าทางบริษัทฯมีแผนการสร้างแบรนด์อแวร์เนสเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการลงทุนขยายเลนกว่า 100 เลน และห้องคาราโอเกะเพิ่มอีก 80 ห้อง จากเดิมในปีนี้มีจำนวน 420 เลน ห้องคาราโอเกะ 249 ห้อง จากทั้งหมด 22 สาขา (รวมดูโอ) คาดว่าจะทำให้รายได้ของปีหน้าจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เช่นเดียวกับปีนี้
“การสร้างแบรนด์อแวร์เนสนั้นจะทำให้ลูกค้ารู้จักเมเจอร์ โบว์ลมากยิ่งขึ้น และยังทำให้ลูกค้ามีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ต่อไป ซึ่งการสร้างแบรนด์อแวร์เนสในปีหน้านั้น ทางบริษัทฯจะดำเนินการในลักษณะของการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การบริการที่ดี รวมไปถึงการจัดกิจกรรม และโรดโชว์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งปี ส่วนการลงทุนขยายเลน และห้องคาราโอเกะเพิ่มนั้น คาดว่าจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าในกลุ่มใหม่มากยิ่งขึ้น”
ส่วนแผนการลงทุนได้วางงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท สำหรับสร้างลาน “ไอซ์ สเก็ต” ที่สาขา เอสพละนาด โดยจะมีการเปิดตัวในอีก 2 เดือนข้างหน้า ลานไอซ์ สเก็ต จะมีพื้นที่รวมกว่า 1,200-1,300 ตารางเมตร แบ่งเป็น พื้นที่ลาน ไอซ์ สเก็ต 680 ตารางเมตร และพื้นที่รอบๆลานอีก 1 เท่าตัว
นอกจากนี้ทางบริษัทฯยังมีแผนที่จะเปิดให้บริการ “ไอซ์ คาราโอเกะ” อีกประมาณ 10 ห้อง ในปีหน้า ที่สาขาเอสพละนาด เช่นเดียวกัน ซึ่งรายละเอียดของ ไอซ์ คาราโอเกะ ในขณะนี้นั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้มากนัก
สำหรับงบการตลาดในปีหน้า บริษัทฯจะใช้ประมาณ 3% จากรายได้รวมของปีนี้ที่คาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 20% โดยงบการตลาดดังกล่าวจะทั้งในส่วนของการสร้างแบรนด์อแวร์เนส และการทำการตลาดตลอดทั้งปี ทั้งในส่วนของบีโลว์ เดอะ ไลน์ และอโบฟ เดอะ ไลน์ รวมไปถึงการจัดแคมเปญใหญ่อีก 4 แคมเปญ เฉลี่ยไตรมาสละ 1 แคมเปญในปีหน้า จับกลุ่มตลาดแมส โดยเฉพาะฐานลูกค้าใหญ่ที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและเฟิร์สจ๊อบเปอร์อีกด้วย
นายอาทร กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกีฬาโบว์ลิ่งกำลังได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและเฟิร์ส ที่จะมีการเข้ามาใช้บริการมากที่สุดถึง 50% รองลงมา คือ กลุ่มทั่วไป 30% และเข้ามาใช้บริการประจำอีก 20% ซึ่งการเข้ามาใช้บริการโดยเฉลี่ย สำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 500 บาท ต่อครั้ง และวัยรุ่น นักศึกษา อยู่ที่ 150 บาท ต่อครั้ง
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานสมาชิกทั้งหมดมากกว่า 50,000 ราย ตั้งแต่เปิดให้บริการมา ขณะที่มีจำนวนสมาชิกประมาณ 20,000 ราย ที่ยังมีการใช้บริการเป็นประจำ มองว่าการขยายการลงทุนเพิ่มในปีหน้า จะสามารถเพิ่มจำนวนสมาชิกได้อีก 50% ของจำนวนสมาชิกที่ใช้บริการเป็นประจำ ซึ่งอัตราการเพิ่มดังกล่าว จะรวมถึงกลุ่มฐานสมาชิกเดิมที่ไม่ค่อยมีการใช้บริการ ให้กลับมาใช้บริการอีกครั้งด้วย
ส่วนในเรื่องของอัตราการให้บริการนั้น ถึงแม้ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา จะมีผลกระทบต่างๆเกิดขึ้นก็ตาม แต่ทางบริษัทฯไม่มีนโยบายปรับราคาแต่อย่างไร เนื่องจากได้มีการใช้กลยุทธ์การจัดแคมเปญที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแคมเปญลักษณะดังกล่าว ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เกิดการบริหารการจัดการที่ดี ทำให้บริษัทฯไม่จำเป็นที่จะมีการปรับราคาการให้บริการแต่อย่างไร
อย่างไรก็ตามสำหรับผลประกอบการในปีนี้คาดว่าจะเติบโตขึ้น 20% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท แบ่งเป็น โบว์ลิ่ง 50% คาราโอเกะ 20% และบริการอื่นๆ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม และค่าสมาชิก อีก 30%
ขณะที่รายได้รวมของกลุ่มเมเจอร์ในปีนี้คาดว่า จะมีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยรายได้หลักยังมาจากกลุ่มโรงภาพยนตร์ รองลงมาคือเมเจอร์โบว์ลอีก 600 ล้านบาท นั้นเอง