สบพ.ชงแผนพัฒนาบุคลากรด้านการบิน”สรรเสริญ” ป้อนนักบินออกตลาดเอเชียที่ยังขาดแคลน เล็งใช้พื้นที่ดอนเมือง พร้อมเสนอขอรับหนุนเงินลงทุนพัฒนาจัดทำศูนย์ซ่อมเครื่องบินขนาดเล็กแชร์ส่วนแบ่งตลาดเอเชียเข้าประเทศ 5% หรือ 2.5 หมื่นล้านบาทต่อปี
นายบุญฤทธิ์ เสาวพฤกษ์ ผู้ว่าการสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) เปิดเผยว่า สบพ.ได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการเป็นศูนย์กลางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านการบินโดยรวมในภูมิภาคต่อนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมโดยจะใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของสนามบินดอนเมืองมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาบุคลากรด้านการบิน ซึ่งยังมีความต้องการอีกจำนวนมาก เช่น นักเรียนจากต่างชาติทั้ง จีน ฮ่องกง ปากีสถาน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นการนำรายได้เข้าสู่ประเทศอีกส่วนหนึ่งด้วย เนื่องจากนักเรียนต่างชาติที่เข้ามาเรียนจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนประมาณปีละ 2.2 ล้านบาท
“เฉพาะที่มณฑลเสฉวนของจีนต้องการนักบินปีละ 2,000 กว่าคน แต่ขณะนี้สบพ.ผลิตได้เพียงปีละ 700 คนต่อปีเท่านั้น หากภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือและสนับสนุนในส่วนนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพของสถาบันการบินพลเรือนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น” นายบุญฤทธิ์ กล่าว
นอกจากนี้ สบพ.ได้ของบสนับสนุนจำนวนหนึ่งเพื่อดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมการบินอย่างครบวงจร ทั้งการพัฒนาบุคลากรด้านการบิน บุคคลากรฝ่ายช่างซ่อมเครื่องบิน โดยส่วนหนึ่งจะนำมาจัดทำศูนย์ซ่อมเครื่องบินขนาดเล็ก ซึ่งปัจจุบันมีเงินหมุนเวียนกระจายอยู่ในทวีปเอเซียถึง 5 แสนล้านบาทต่อปี ส่วนหนึ่งเป็นรายได้ของประเทศสิงคโปร์ 20% คิดเป็นเงินประมาณ 1 แสนล้านบาท
นายบุญฤทธิ์กล่าวว่า หากรัฐบาลสนับสนุนเงินลงทุนหรือหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อให้พัฒนาศูนย์ซ่อมเครื่องบินขนาดเล็กได้คาดว่า จะสามารถดึงลูกค้าที่กระจายอยู่ในแถบเอเชียเข้ามาใช้บริการศูนย์ซ่อมเครื่องบินของไทยได้ถึง 5 % หรือคิดเป็นเงิน 2.5 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยคาดว่าการพัฒนาศูนย์ซ่อมต้องใช้เงินลงทุนจำนวน 1 พันล้านบาทซึ่ง สามารถบริหารจัดการให้คุ้มทุนได้ภายใน 1 ปี
โดยในวันที่ 28 พ.ย. คณะกรรมการบริหารสถาบันการบินพลเรือน (บอร์ด) จะประชุมเพื่อหารือแนวทางเพิ่มศักยภาพด้านการดำเนินงาน ตลอดจนเน้นให้มีการวิจัยและพัฒนากิจการด้านการบินเพิ่มขึ้น โดยประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านกิจการการบินเพื่อรองรับหน่วยงานต่างๆ อาทิ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) และกองทัพอากาศ เป็นต้น
นายบุญฤทธิ์ เสาวพฤกษ์ ผู้ว่าการสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) เปิดเผยว่า สบพ.ได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการเป็นศูนย์กลางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านการบินโดยรวมในภูมิภาคต่อนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมโดยจะใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของสนามบินดอนเมืองมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาบุคลากรด้านการบิน ซึ่งยังมีความต้องการอีกจำนวนมาก เช่น นักเรียนจากต่างชาติทั้ง จีน ฮ่องกง ปากีสถาน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นการนำรายได้เข้าสู่ประเทศอีกส่วนหนึ่งด้วย เนื่องจากนักเรียนต่างชาติที่เข้ามาเรียนจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนประมาณปีละ 2.2 ล้านบาท
“เฉพาะที่มณฑลเสฉวนของจีนต้องการนักบินปีละ 2,000 กว่าคน แต่ขณะนี้สบพ.ผลิตได้เพียงปีละ 700 คนต่อปีเท่านั้น หากภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือและสนับสนุนในส่วนนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพของสถาบันการบินพลเรือนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น” นายบุญฤทธิ์ กล่าว
นอกจากนี้ สบพ.ได้ของบสนับสนุนจำนวนหนึ่งเพื่อดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมการบินอย่างครบวงจร ทั้งการพัฒนาบุคลากรด้านการบิน บุคคลากรฝ่ายช่างซ่อมเครื่องบิน โดยส่วนหนึ่งจะนำมาจัดทำศูนย์ซ่อมเครื่องบินขนาดเล็ก ซึ่งปัจจุบันมีเงินหมุนเวียนกระจายอยู่ในทวีปเอเซียถึง 5 แสนล้านบาทต่อปี ส่วนหนึ่งเป็นรายได้ของประเทศสิงคโปร์ 20% คิดเป็นเงินประมาณ 1 แสนล้านบาท
นายบุญฤทธิ์กล่าวว่า หากรัฐบาลสนับสนุนเงินลงทุนหรือหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อให้พัฒนาศูนย์ซ่อมเครื่องบินขนาดเล็กได้คาดว่า จะสามารถดึงลูกค้าที่กระจายอยู่ในแถบเอเชียเข้ามาใช้บริการศูนย์ซ่อมเครื่องบินของไทยได้ถึง 5 % หรือคิดเป็นเงิน 2.5 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยคาดว่าการพัฒนาศูนย์ซ่อมต้องใช้เงินลงทุนจำนวน 1 พันล้านบาทซึ่ง สามารถบริหารจัดการให้คุ้มทุนได้ภายใน 1 ปี
โดยในวันที่ 28 พ.ย. คณะกรรมการบริหารสถาบันการบินพลเรือน (บอร์ด) จะประชุมเพื่อหารือแนวทางเพิ่มศักยภาพด้านการดำเนินงาน ตลอดจนเน้นให้มีการวิจัยและพัฒนากิจการด้านการบินเพิ่มขึ้น โดยประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านกิจการการบินเพื่อรองรับหน่วยงานต่างๆ อาทิ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) และกองทัพอากาศ เป็นต้น