ไบโอเธิร์มงัดแผนบุกตลาดเครื่องสำอางปีหน้าเต็มสูบ เตรียมปรับรูปแบบการตลาดใหม่ หลังปีนี้ปัจจัยลบอื้อส่งผลให้ยอดขายไม่โต ระบุปัญหาของแบรนด์ไบโอเธิร์มขณะนี้ คือ ต้องเร่งสร้างการจดจำแบรนด์ไปยังผู้บริโภคมากขึ้น พร้อมเน้นรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีกว่า 4 หมื่นรายและขยายลูกค้าใหม่เพิ่ม เชื่อตลาดเครื่องสำอางเคาน์เตอร์ปีหน้าสดใสกว่าปีนี้แน่
นางสาวบุศรา ตันติวรถาวร ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ไบโอเธิร์ม บริษัท ลอรีอัล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีหน้าของไบโอเธิร์มเตรียมเปลี่ยนรูปแบบการทำการตลาดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น ,การเปิดตัวเครื่องสำอางสำหรับผู้ชาย "ไบโอเธิร์ม ออมม์"เพิ่มอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายสาขา ฯลฯ ภายใต้งบการตลาดที่เพิ่มขึ้นหรือประมาณ 15% ของยอดรายได้ หลังจากพบว่าปีนี้ไบโอเธิร์มมีการทำตลาดน้อย , การเปิดตัวสินค้าและจัดกิจกรรมต่างๆไม่มาก ส่งผลให้ยอดรายได้ในช่วง10 เดือนที่ผ่านมาพบว่ายังต้องปรับปรุงอยู่ อย่างไรก็ตามในสิ้นปีนี้บริษัทฯยังคาดว่ายอดรายได้ของไบโอเธิร์มจะได้ตามเป้าหรือมีอัตราการเติบโตที่คงที่จากปีที่แล้ว
"ปัญหาของไบโอเธิร์มในขณะนี้ คือ ขาดการสร้างการจดจำแบรนด์ไปยังลูกค้า ตรงนี้เราต้องพยายามบาลานซ์ทั้งลูกค้ากลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ด้วย ซึ่งปัจจุบันไบโอเธิร์มมีฐานสมาชิกอยู่กว่า 4 หมื่นราย และมีกำลังซื้อต่อบิลคนละประมาณ 2,500-3,000บาท โดยปีหน้าคาดหวังจะมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น30%"
สำหรับจุดเด่นของไบโอเธิร์มอยู่ที่ตัวสินค้าที่มีส่วนผสมของสารสกัดน้ำแร่จากประเทศฝรั่งเศสและระดับราคาสินค้าไม่แพงหากเทียบกับคู่แข่งที่อยู่ในระดับเดียวกัน โดยราคาสินค้าของไบโอเธิร์มกลุ่มเมคอัพอยู่ที่700 บาท, ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ 1,000 บาท และกลุ่มริ้วรอยกว่า 2,000 บาท
ด้านช่องทางการขายสินค้าของไบโอเธิร์มขณะนี้มีเคาน์เตอร์ในห้างรวม 21 แห่ง โดยเตรียมเปิดสาขาใหม่ที่เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่าฝั่งเซนในช่วงปลายปี2549นี้
ขณะที่ภาพรวมตลาดเครื่องสำอางปีนี้คาดว่าตลาดจะมีการเติบโตไม่มาก เนื่องจากทุกแบรนด์ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องการประหยัดเงินเอาไว้ ซึ่งถึงแม้ว่าสินค้าเครื่องสำอางจะเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ก็ตามสำหรับผู้หญิง ขณะที่ปีหน้าคาดว่าตลาดเครื่องสำอางพรีเมียมหรือช่องทางเคาน์เตอร์จะดีขึ้นกว่าปีนี้
นางสาวบุศรา ตันติวรถาวร ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ไบโอเธิร์ม บริษัท ลอรีอัล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีหน้าของไบโอเธิร์มเตรียมเปลี่ยนรูปแบบการทำการตลาดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น ,การเปิดตัวเครื่องสำอางสำหรับผู้ชาย "ไบโอเธิร์ม ออมม์"เพิ่มอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายสาขา ฯลฯ ภายใต้งบการตลาดที่เพิ่มขึ้นหรือประมาณ 15% ของยอดรายได้ หลังจากพบว่าปีนี้ไบโอเธิร์มมีการทำตลาดน้อย , การเปิดตัวสินค้าและจัดกิจกรรมต่างๆไม่มาก ส่งผลให้ยอดรายได้ในช่วง10 เดือนที่ผ่านมาพบว่ายังต้องปรับปรุงอยู่ อย่างไรก็ตามในสิ้นปีนี้บริษัทฯยังคาดว่ายอดรายได้ของไบโอเธิร์มจะได้ตามเป้าหรือมีอัตราการเติบโตที่คงที่จากปีที่แล้ว
"ปัญหาของไบโอเธิร์มในขณะนี้ คือ ขาดการสร้างการจดจำแบรนด์ไปยังลูกค้า ตรงนี้เราต้องพยายามบาลานซ์ทั้งลูกค้ากลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ด้วย ซึ่งปัจจุบันไบโอเธิร์มมีฐานสมาชิกอยู่กว่า 4 หมื่นราย และมีกำลังซื้อต่อบิลคนละประมาณ 2,500-3,000บาท โดยปีหน้าคาดหวังจะมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น30%"
สำหรับจุดเด่นของไบโอเธิร์มอยู่ที่ตัวสินค้าที่มีส่วนผสมของสารสกัดน้ำแร่จากประเทศฝรั่งเศสและระดับราคาสินค้าไม่แพงหากเทียบกับคู่แข่งที่อยู่ในระดับเดียวกัน โดยราคาสินค้าของไบโอเธิร์มกลุ่มเมคอัพอยู่ที่700 บาท, ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ 1,000 บาท และกลุ่มริ้วรอยกว่า 2,000 บาท
ด้านช่องทางการขายสินค้าของไบโอเธิร์มขณะนี้มีเคาน์เตอร์ในห้างรวม 21 แห่ง โดยเตรียมเปิดสาขาใหม่ที่เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่าฝั่งเซนในช่วงปลายปี2549นี้
ขณะที่ภาพรวมตลาดเครื่องสำอางปีนี้คาดว่าตลาดจะมีการเติบโตไม่มาก เนื่องจากทุกแบรนด์ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องการประหยัดเงินเอาไว้ ซึ่งถึงแม้ว่าสินค้าเครื่องสำอางจะเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ก็ตามสำหรับผู้หญิง ขณะที่ปีหน้าคาดว่าตลาดเครื่องสำอางพรีเมียมหรือช่องทางเคาน์เตอร์จะดีขึ้นกว่าปีนี้