“สุวิทย์”สั่ง ททท.รื้อสโลแกนและโลโก้ ท่องเที่ยวของประเทศไทยใหม่ทั้งหมด ระบุสโลแกนใหม่จะเปิดให้คนไทยมีส่วนร่วมด้วยการส่งคำเข้าประกวด เผยทุกอย่างต้องเสร็จภายในระยะเวลา 2 เดือน ระบุที่ผ่านมา ประเทศไทยเปลี่ยนสโลแกนบ่อยเกินไป ส่วนสโลแกนปี 50’ “ ไทยแลนด์ อันฟอร์เก็ตเทเบิ้ล” ชื่อยาวและจำยาก
ร.ท.สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ไปดำเนินการทบทวนสโลแกนของประเทศไทยที่จะใช้ในต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมา ททท.ได้มีการเปลี่ยนสโลแกนของประเทศไทยบ่อยมาก ทำให้ไม่เกิดการจดจำในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะความจริงในหนึ่งสโลแกน ควรใช้ติดต่อกัน 4-5 ปีหรือมากกว่านั้น เพื่อเกิดความต่อเนื่องของธีมและเกิดการจดจำ โดยเฉพาะล่าสุดในปี 2550 ที่ททท.จะใช้สโลแกน “ไทยแลนด์ อันฟอร์เก็ตเทเบิ้ล” มองว่าเป็นคำที่ยาวและจำยากเกินไป สำหรับสโลแกนในประเทศที่ใช้คำว่า “การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต”ถือว่าตอบโจทย์ได้ถูกทางแล้ว คงไม่ต้องปรับเปลี่ยน
ทั้งนี้ในสโลแกนของประเทศไทยที่จะตั้งขึ้นใหม่นี้ ได้ให้กรอบททท.ไปว่า ต้องการให้คนไทยมีส่วนร่วมในการตั้งด้วย ดังนั้นจึงให้ ททท.ไปศึกษาและดำเนินการออกประกาศเชิญชวนประกวดคำขวัญหรือสโลแกนของประเทศไทยในครั้งนี้ พร้อมกับตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลกระบวนการและการตัดสินทั้งหมด ซึ่งให้ระยะเวลาแล้วเสร็จต้องไม่เกิน 1-2 เดือน เพื่อให้ทันใช้ในปีหน้าเป็นต้นไป
“ผมต้องการให้คนไทยทุกคนมีส่วนร่วมในการตั้งสโลแกน เพราะต้องการรู้ว่าเขาเห็นประเทศของเขาเป็นอย่างไร มีอะไรเป็นคำจำกัดความที่ต้องการจะนำเสนอให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทย ซึ่งในหลายๆประเทศเขาก็ใช้เพียงสโลแกนเดียวในการโปรโมตซึ่งยิ่งใช้ซ้ำจะยิ่งตอกย้ำแบรนด์ของประเทศมากขึ้น เช่น ประเทศสิงคโปร์ ใช้คำว่า “ยูนิคลี่ สิงคโปร์” หรือ มาเลเซีย ใช้คำว่า “มาเลเซีย ทรูลี่ เอเชีย” ส่วนไทย ที่ผ่านมาก็เคยใช้คำว่า อเมซิ่ง ไทยแลนด์ อยู่หลายปี ซึ่งเป็นคำที่ดีและติดหูนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว ซึ่งหากมีผลโหวตว่าจะนำคำนี้มาใช้ใหม่ก็เป็นไปได้ แต่หากผู้ที่จะส่งคำเข้าประกวด ส่งคำว่าอเมซิ่ง ไทยแลนด์เข้ามาก็จะไม่ได้รางวัล”
นอกจากนั้นยังให้ ททท.ศึกษาเรื่องการปรับเปลี่ยนโลโก้ หรือตราสัญลักษณ์ ให้เหมาะกับสโลแกนใหม่ด้วย โดยต้องสื่อถึงความเป็นประเทศไทยที่ชัดเจน ซึ่งตรงนี้ก็จะต้องประกาศเชิญชวนผู้เข้าร่วมประกวด เช่นเดียวกัน โดยทั้งหมดให้ททท.ดำเนินการไปพร้อมๆกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เคยยื่นเสนอให้ ททท.กลับไปใช้คำว่าอเมซิ่ง ไทยแลนด์ โดยให้เหตุผลว่า เป็นคำที่นักท่องเที่ยวจดจำได้แล้ว การทำตลาดก็ง่าย ไม่ต้องเสียเวลามาเสียเวลาทำความเข้าใจใหม่ แต่ทั้งนี้ ททท.ก็ให้เหตุผลว่า คำดังกล่าว เลิกใช้มาหลายปีแล้ว หากนำกลับมาใช้ใหม่จะถือว่าถอยหลังเข้าคลอง
ร.ท.สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ไปดำเนินการทบทวนสโลแกนของประเทศไทยที่จะใช้ในต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมา ททท.ได้มีการเปลี่ยนสโลแกนของประเทศไทยบ่อยมาก ทำให้ไม่เกิดการจดจำในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะความจริงในหนึ่งสโลแกน ควรใช้ติดต่อกัน 4-5 ปีหรือมากกว่านั้น เพื่อเกิดความต่อเนื่องของธีมและเกิดการจดจำ โดยเฉพาะล่าสุดในปี 2550 ที่ททท.จะใช้สโลแกน “ไทยแลนด์ อันฟอร์เก็ตเทเบิ้ล” มองว่าเป็นคำที่ยาวและจำยากเกินไป สำหรับสโลแกนในประเทศที่ใช้คำว่า “การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต”ถือว่าตอบโจทย์ได้ถูกทางแล้ว คงไม่ต้องปรับเปลี่ยน
ทั้งนี้ในสโลแกนของประเทศไทยที่จะตั้งขึ้นใหม่นี้ ได้ให้กรอบททท.ไปว่า ต้องการให้คนไทยมีส่วนร่วมในการตั้งด้วย ดังนั้นจึงให้ ททท.ไปศึกษาและดำเนินการออกประกาศเชิญชวนประกวดคำขวัญหรือสโลแกนของประเทศไทยในครั้งนี้ พร้อมกับตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลกระบวนการและการตัดสินทั้งหมด ซึ่งให้ระยะเวลาแล้วเสร็จต้องไม่เกิน 1-2 เดือน เพื่อให้ทันใช้ในปีหน้าเป็นต้นไป
“ผมต้องการให้คนไทยทุกคนมีส่วนร่วมในการตั้งสโลแกน เพราะต้องการรู้ว่าเขาเห็นประเทศของเขาเป็นอย่างไร มีอะไรเป็นคำจำกัดความที่ต้องการจะนำเสนอให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทย ซึ่งในหลายๆประเทศเขาก็ใช้เพียงสโลแกนเดียวในการโปรโมตซึ่งยิ่งใช้ซ้ำจะยิ่งตอกย้ำแบรนด์ของประเทศมากขึ้น เช่น ประเทศสิงคโปร์ ใช้คำว่า “ยูนิคลี่ สิงคโปร์” หรือ มาเลเซีย ใช้คำว่า “มาเลเซีย ทรูลี่ เอเชีย” ส่วนไทย ที่ผ่านมาก็เคยใช้คำว่า อเมซิ่ง ไทยแลนด์ อยู่หลายปี ซึ่งเป็นคำที่ดีและติดหูนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว ซึ่งหากมีผลโหวตว่าจะนำคำนี้มาใช้ใหม่ก็เป็นไปได้ แต่หากผู้ที่จะส่งคำเข้าประกวด ส่งคำว่าอเมซิ่ง ไทยแลนด์เข้ามาก็จะไม่ได้รางวัล”
นอกจากนั้นยังให้ ททท.ศึกษาเรื่องการปรับเปลี่ยนโลโก้ หรือตราสัญลักษณ์ ให้เหมาะกับสโลแกนใหม่ด้วย โดยต้องสื่อถึงความเป็นประเทศไทยที่ชัดเจน ซึ่งตรงนี้ก็จะต้องประกาศเชิญชวนผู้เข้าร่วมประกวด เช่นเดียวกัน โดยทั้งหมดให้ททท.ดำเนินการไปพร้อมๆกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เคยยื่นเสนอให้ ททท.กลับไปใช้คำว่าอเมซิ่ง ไทยแลนด์ โดยให้เหตุผลว่า เป็นคำที่นักท่องเที่ยวจดจำได้แล้ว การทำตลาดก็ง่าย ไม่ต้องเสียเวลามาเสียเวลาทำความเข้าใจใหม่ แต่ทั้งนี้ ททท.ก็ให้เหตุผลว่า คำดังกล่าว เลิกใช้มาหลายปีแล้ว หากนำกลับมาใช้ใหม่จะถือว่าถอยหลังเข้าคลอง