6 สถานีโทรทัศน์ล้อมวงร่วมจัดเรตรายการโทรทัศน์กับกลุ่มผู้ชม ภายใต้การกำกับดูแลของกรมประชาสัมพันธ์ โดยกองงาน กกช. เบื้องต้นมอบให้แต่ละสถานีพิจารณาแต่ละรายการว่าควรจัดอยู่ในเรตใด พร้อมใช้เสียงจากประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่ารายการนั้นๆเหมาะสมในแต่ละเรตหรือไม่ ล่าสุดเปิดตัวเรตติ้งทั้ง 4 ระดับ 7 สัญลักษณ์แล้ว พร้อมมติได้ฤกษ์ใช้ 1 ธันวาคมนี้
นายปราโมช รัฐวินิจ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ทางกรมประชาสัมพันธ์ได้มีการปรึกษาหารือในเรื่องของการจัดระดับความเหมาะสมของสื่อโทรทัศน์กับผู้ชม (Classification) หรือการจัดเรตรายการโทรทัศน์ต่างๆให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ชม กับทั้ง 6 สถานีโทรทัศน์ ได้แก่ ช่อง 3, 5, 7, 9, 11 และ ไอทีวี มาตั้งแต่วันที่ 14 กรกฏาคมเรื่อยมา จนมาถึงวันนี้ ได้มีข้อสรุปออกมาแล้วว่า ทั้ง 6 สถานีโทรทัศน์ มีความเห็นพร้อมกัน ที่จะมีการจัดเรตในแต่ละรายการขึ้นโดยจะมีตราสัญลักษณ์ในแต่ละรายการที่ออกอากาศว่าจัดอยู่ในเรตใด โดยจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป
ล่าสุดทางกรมได้มอบให้แต่ละสถานี ช่วยกันคิดและออกแบบตราสัญลักษณ์ที่จะใช้จัดเรตครั้งนี้ สรุปว่าทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี มีการออกแบบตราสัญลักษณ์ที่เหมาะสมมากที่สุด ทั้ง 6 สถานีจึงพร้อมใจกันที่จะใช้ตราสัญลักษณ์จากทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี มาใช้กับทุกช่อง โดยตราสัญลักษณ์ดังกล่าวแบ่งออกเป็น 4 ระดับ 7 สัญลักษณ์ ได้แก่ ระดับที่ 1 เป็นรายการสำหรับเด็ก มี 2 ตราสัญลักษณ์ คือ ตราสัญลักษณ์สำหรับรายการสำหรับเด็ก อายุ 2-12 ปี และ ตราสัญลักษณ์ รายการสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน อายุ 2-6 ปี
ระดับที่ 2 เป็นรายการทั่วไป มี 1 ตราสัญลักษณ์เป็นตัวอักษร ท. ระดับที่ 3 เป็นรายการที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ มี 3 ตราสัญลักษณ์ คือ รายการที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ รายการที่ผู้ใหญ่ควรให้การนะนำแก่ผู้ชม อายุน้อยกว่า 13 ปี และรายการที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้ชม อายุน้อยกว่า 18 ปี และระดับที่ 4 เป็นรายการเฉพาะ มี 1 ตราสัญลักษณ์ สำหรับรายการเฉพาะที่ไม่เหมาะแก่เด็กและเยาวชน
“เป็นที่ทราบกันดีว่า สื่อโทรทัศน์ ถือเป็นสื่อที่มีอิทธิพลกับสังคมไทยเป็นอย่างมาก เห็นได้จาก ปัจจุบันประเทศไทยมีประชาชนกว่า 17 ล้านครัวเรือน และกว่า 97% มีโทรทัศน์ไว้ครอบครอง ดังนั้น สื่อโทรทัศน์จึงมีบทบาทและมีอิทธิพลต่อสังคมเป็นอย่างมาก ดังนั้นการจัดเรตให้รายการโทรทัศน์ครั้งนี้ จึงถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับวงการโทรทัศน์ไทย ในการที่จะพัฒนารายการต่างๆออกมาให้มีคุณภาพ มีความเหมาะสม และรับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งขึ้น”
นายปราโมช กล่าวต่อว่า การจัดเรตครั้งนี้เบื้องต้นได้ให้แต่ละสถานีเป็นผู้ดำเนินการเอง โดยมอบการจัดเรตไปยังผู้จัดแต่ละรายว่า รายการที่ผลิตนั้น ควรจัดอยู่ในระดับใด ประเภทใด โดยผ่านหน่วยงานแต่ละสถานีที่เกี่ยวข้องในการดูแลการจัดเรตครั้งนี้ ขณะเดียวกันการวัดผลของการจัดเรตขนาดนี้จะมาจากเสียงของประชาชน ถ้ามีการร้องเรียนว่าบางรายการไม่เหมาะสมกับเรตที่จัดไป ทางกองงานคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติหรือกกช.จะเป็นผู้เข้าไปดำเนินการดูแลเป็นขั้นตอนต่อไป
6 สถานี พร้อมใจร่วมจัดเรต
ขณะเดียวกันตัวแทนแต่ละสถานีได้แสดงความคิดเห็นว่า การจัดเรตรายการครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ดี อาทิ ตัวแทนจากช่อง 7 กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีในการจัดเรตรายการโทรทัศน์ ครั้งนี้ ขณะเดียวกันจะทำให้แต่ละสถานีโทรทัศน์และผู้ผลิตรายการ ได้รู้ถึงสถานะว่ารายการหรือ สถานีของตน เป็นไปในทิศทางใด รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยให้มีการผลิตรายการดีๆต่อสังคมต่อไป
ด้านตัวแทนจากช่อง 3 กล่าวเสริมว่า นอกจากจะทำให้แต่ละสถานีและผู้ผลิตแต่ละรายจะมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น ผู้ปกครองเองควรที่จะร่วมรับผิดชอบในครั้งนี้ด้วย ด้วยการแนะนำการเลือกชมรายการต่างๆแก่บุตรหลานนั้นเอง
นายปราโมช รัฐวินิจ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ทางกรมประชาสัมพันธ์ได้มีการปรึกษาหารือในเรื่องของการจัดระดับความเหมาะสมของสื่อโทรทัศน์กับผู้ชม (Classification) หรือการจัดเรตรายการโทรทัศน์ต่างๆให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ชม กับทั้ง 6 สถานีโทรทัศน์ ได้แก่ ช่อง 3, 5, 7, 9, 11 และ ไอทีวี มาตั้งแต่วันที่ 14 กรกฏาคมเรื่อยมา จนมาถึงวันนี้ ได้มีข้อสรุปออกมาแล้วว่า ทั้ง 6 สถานีโทรทัศน์ มีความเห็นพร้อมกัน ที่จะมีการจัดเรตในแต่ละรายการขึ้นโดยจะมีตราสัญลักษณ์ในแต่ละรายการที่ออกอากาศว่าจัดอยู่ในเรตใด โดยจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป
ล่าสุดทางกรมได้มอบให้แต่ละสถานี ช่วยกันคิดและออกแบบตราสัญลักษณ์ที่จะใช้จัดเรตครั้งนี้ สรุปว่าทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี มีการออกแบบตราสัญลักษณ์ที่เหมาะสมมากที่สุด ทั้ง 6 สถานีจึงพร้อมใจกันที่จะใช้ตราสัญลักษณ์จากทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี มาใช้กับทุกช่อง โดยตราสัญลักษณ์ดังกล่าวแบ่งออกเป็น 4 ระดับ 7 สัญลักษณ์ ได้แก่ ระดับที่ 1 เป็นรายการสำหรับเด็ก มี 2 ตราสัญลักษณ์ คือ ตราสัญลักษณ์สำหรับรายการสำหรับเด็ก อายุ 2-12 ปี และ ตราสัญลักษณ์ รายการสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน อายุ 2-6 ปี
ระดับที่ 2 เป็นรายการทั่วไป มี 1 ตราสัญลักษณ์เป็นตัวอักษร ท. ระดับที่ 3 เป็นรายการที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ มี 3 ตราสัญลักษณ์ คือ รายการที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ รายการที่ผู้ใหญ่ควรให้การนะนำแก่ผู้ชม อายุน้อยกว่า 13 ปี และรายการที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำแก่ผู้ชม อายุน้อยกว่า 18 ปี และระดับที่ 4 เป็นรายการเฉพาะ มี 1 ตราสัญลักษณ์ สำหรับรายการเฉพาะที่ไม่เหมาะแก่เด็กและเยาวชน
“เป็นที่ทราบกันดีว่า สื่อโทรทัศน์ ถือเป็นสื่อที่มีอิทธิพลกับสังคมไทยเป็นอย่างมาก เห็นได้จาก ปัจจุบันประเทศไทยมีประชาชนกว่า 17 ล้านครัวเรือน และกว่า 97% มีโทรทัศน์ไว้ครอบครอง ดังนั้น สื่อโทรทัศน์จึงมีบทบาทและมีอิทธิพลต่อสังคมเป็นอย่างมาก ดังนั้นการจัดเรตให้รายการโทรทัศน์ครั้งนี้ จึงถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับวงการโทรทัศน์ไทย ในการที่จะพัฒนารายการต่างๆออกมาให้มีคุณภาพ มีความเหมาะสม และรับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งขึ้น”
นายปราโมช กล่าวต่อว่า การจัดเรตครั้งนี้เบื้องต้นได้ให้แต่ละสถานีเป็นผู้ดำเนินการเอง โดยมอบการจัดเรตไปยังผู้จัดแต่ละรายว่า รายการที่ผลิตนั้น ควรจัดอยู่ในระดับใด ประเภทใด โดยผ่านหน่วยงานแต่ละสถานีที่เกี่ยวข้องในการดูแลการจัดเรตครั้งนี้ ขณะเดียวกันการวัดผลของการจัดเรตขนาดนี้จะมาจากเสียงของประชาชน ถ้ามีการร้องเรียนว่าบางรายการไม่เหมาะสมกับเรตที่จัดไป ทางกองงานคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติหรือกกช.จะเป็นผู้เข้าไปดำเนินการดูแลเป็นขั้นตอนต่อไป
6 สถานี พร้อมใจร่วมจัดเรต
ขณะเดียวกันตัวแทนแต่ละสถานีได้แสดงความคิดเห็นว่า การจัดเรตรายการครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ดี อาทิ ตัวแทนจากช่อง 7 กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีในการจัดเรตรายการโทรทัศน์ ครั้งนี้ ขณะเดียวกันจะทำให้แต่ละสถานีโทรทัศน์และผู้ผลิตรายการ ได้รู้ถึงสถานะว่ารายการหรือ สถานีของตน เป็นไปในทิศทางใด รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยให้มีการผลิตรายการดีๆต่อสังคมต่อไป
ด้านตัวแทนจากช่อง 3 กล่าวเสริมว่า นอกจากจะทำให้แต่ละสถานีและผู้ผลิตแต่ละรายจะมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น ผู้ปกครองเองควรที่จะร่วมรับผิดชอบในครั้งนี้ด้วย ด้วยการแนะนำการเลือกชมรายการต่างๆแก่บุตรหลานนั้นเอง