กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ สรุปมติ 8 ข้อแก้ไขมลพิษเสียงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเสนอบอร์ดสิ่งแวดล้อมวันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.) ระบุคุมเข้มทางเทคนิค ผังเมือง และการจ่ายค่าชดเชยชาวบ้าน
ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า แม้ว่าในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 21 พ.ย. จะให้ความเห็นชอบในหลักการกว้าง ๆ ตามที่กระทรวงคมนาคม และ ทส. นำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาผลกระทบทางเสียงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้วก็ตาม แต่ยังไม่มีการออกมติที่ชัดเจน โดยวันนี้ (22 พ.ย.) นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รมว.ทส. และ รมช.คมนาคม ได้ประชุมกับผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง เพื่อจัดทำรายละเอียดการแก้ไขปัญหาผลกระทบทางเสียงจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรวม 8 ข้อ ดังนี้
1. ให้ ทอท.ใช้มาตรการทางเทคนิคการบินขึ้นและลง ตามที่ คพ. นำเสนอให้ปรับแก้เพื่อลดมลพิษทางเสียง 2. ให้ ทอท. เจรจาซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหรือจ่ายค่าชดเชยเพื่อปรับปรุงสิ่งปลูกสร้างแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางเสียงที่อยู่ในพื้นที่แนวเส้นเสียง NEF มากกว่า 40 ตามที่กำหนดในอีไอเอ จำนวน 71 ราย และเจรจากับผู้ได้รับผลกระทบในแนว NEF 30-40 จากสถานการณ์การบินที่เกิดขึ้นจริงเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2549 (เที่ยวบินสูงสุด 46 เที่ยว/ชั่วโมง) และให้จ่ายค่าชดเชยบ้านเรือนที่สร้างตั้งแต่ปี 2544-2549 ซึ่งเบื้องต้นรวมทั้งสิ้นประมาณ 300 หลังคาเรือน
ดร.สุพัฒน์ กล่าวอีกว่า 3. ทอท. และ ทส. จะร่วมกันประเมินกรอบบ้านเรือนที่อาจได้รับผลกระทบจากการบินที่จะมีมากถึง 76 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ตามที่ ทอท.ประเมินว่าจะใช้เต็มพื้นที่ในปี 2555 ตามอัตราการเพิ่มเฉลี่ยปีละ 7% ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้ ทั้งนี้ เพื่อกำหนดและหามาตรการลดผลกระทบไปพร้อมกัน 4. ทาง ทอท.ต้องรับผิดชอบดูแลพื้นที่ที่มีการซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไปแล้ว เพื่อไม่ให้มีการย้อนกลับเข้ามาอยู่ใหม่ และไม่ให้มีผู้บุกรุกเข้าไปใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต
5. ให้ ทส. และ ทอท. พิจารณาแนวทางในการออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อไม่ให้มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ที่มีความอ่อนไหวต่อมลพิษทางเสียงในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากมลพิษทางเสียงจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทั้งในปัจจุบันและในอนาคตเมื่อมีการขยายศักยภาพของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 100 ล้านคน และเสนอ ครม.พิจารณาต่อไป
ดร.สุพัฒน์ กล่าวด้วยว่า ส่วนข้อ 6. ให้ ทอท. โดยเร่งจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในกรณีที่จะมีการเพิ่มทางวิ่งที่ 3 และ 4 โดยเร่งด่วน 7. ให้ควบคุมมลพิษจากเครื่องบิน อาทิ ไอเสียจากน้ำมัน และก๊าซพิษอื่น ๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบกับแหล่งน้ำ และปนเปื้อนน้ำฝน โดย คพ.จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจและเก็บตัวอย่างน้ำมาตรวจสอบหาสารเคมีต่อไป และ 8. เร่งรัดติดตั้งสถานีตรวจวัดเสียง 13 จุด และสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ จะมีการนำผลสรุปเสนอต่อที่ประชุม ครม.อีกครั้ง และจะเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติที่จะประชุมในบ่ายวันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.)