เทสโก้ โลตัส ปั้นสินค้าเฮาส์แบรนด์ชนซัปพลายเออร์เต็มรูปแบบ นำร่องระเบิดศึกอาหารแช่แข็งสำเร็จรูปพร้อมทาน เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาสร้างแบรนด์เขย่าบัลลังก์พรานทะเล ด้าน “บิ๊กซี” เผยเทรนด์โมเดิร์นเทรดแห่สร้างแบรนด์สินค้าเฮาส์แบรนด์สูง รับปีหน้าตลาดบูมโตพรวด 15%
รายงานข่าวจาก บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเต็ม (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารเทสโก้โลตัส เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดของการสร้างแบรนด์อาหารแช่แข็งสำเร็จรูปพร้อมทานเฮาส์แบรนด์ว่า ได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาใหม่และดึง “โอ๋-ภัคจีรา วรรณสุทธิ์” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ นับเป็นการสร้างแบรนด์ของสินค้าเฮาส์แบรนด์ของเทสโก้โลตัสอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรก เนื่องจากตลาดอาหารแช่แข็งสำเร็จรูปพร้อมทานที่มีมูลค่า 3,000-4,000 ล้านบาท เป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยปีนี้มีการประมาณการว่าแนวโน้มตลาดจะมีอัตราการเติบโตถึง 30% แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะมีปัจจัยลบมากมาย เช่น การเมืองและน้ำท่วม ฯลฯ แต่ยังพบว่าคนให้ความสำคัญกับการทานอาหารแช่แข็งและอาหารชีล (อาหารแช่เย็นควบคุมความเย็นภายใต้อุณหภูมิ 5 องศา) เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันพรานทะเลเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 30%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เชนโมเดิร์นเทรดเริ่มขับเคลื่อนสินค้าเฮาส์แบรนด์ โดยการสร้างแบรนด์อย่างจริงจัง เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดกับซัปพลายเออร์โดยตรง โดยอาหารแช่แข็งสำเร็จรูปพร้อมทานนับเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน ย้อนไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมา เชนโมเดิร์นเทรดเปิดตัวสินค้าเฮาส์แบรนด์ โดยการผลิตสินค้าลอกเลียนแบบสินค้าที่ได้รับความนิยมของตลาด ต่อมาเริ่มขยายโปรดักส์ไลน์จากกลุ่มคอมมอดิตี้ หรือสินค้าที่ไม่ต้องการความแตกต่างกันมากนัก อาทิ ข้าวสาร กระดาษทิชชู มาสู่กลุ่มสกินแคร์ เสื้อผ้า ภายใต้แบรนด์ใหม่และวางระดับราคาใกล้เคียงกับสินค้าซัปพลายเออร์ แต่ยังไม่ได้มีการสร้างแบรนด์
บิ๊กซีเฮาส์แบรนด์ปี50โตพรวด
นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มสินค้าเฮาส์แบรนด์ในปีหน้านี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 10-15% เมื่อเทียบกับปีนี้คาดว่าตลาดจะมีอัตราการเติบโตในระดับเดียวกัน คือ 10-15% อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มที่เชนโมเดิร์นเทรดจะหันมาสร้างแบรนด์สินค้าเฮาส์แบรนด์มากขึ้น เนื่องจากตลาดมีอัตราการเติบโตที่ดี
ขณะนี้บิ๊กซียังไม่มีนโยบายสร้างแบรนด์ผ่านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์เช่นเดียวกับคู่แข่ง โดยกลยุทธ์หลักของการทำตลาดสินค้าเฮาส์แบรนด์ ยังคงเน้นด้านราคาเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันบิ๊กซีมีสินค้าเฮาส์แบรนด์ 2 ยี่ห้อ ได้แก่ ลีดเดอร์ไพรส์มีสัดส่วนกว่า 99% และเฟิร์ส ไพรส์ ไม่ถึง 1%
สำหรับในช่วงไตรมาสที่สี่ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของโมเดิร์นเทรด ลูกค้าจะออกมาจับจ่ายใช้สอยเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปลายปีนี้ ดังนั้นเพื่อรองรับการแข่งขันของคู่แข่งที่ช่วงชิงกำลังซื้อ บิ๊กซีจึงได้เปิดตัวแคมเปญโปรโมชั่น “พลังแห่งแรงอธิษฐาน บันดาลได้ที่บิ๊กซี” ชอป 400 บาท ลุ้นรางวัลตามใจทุกสัปดาห์จำนวน 150 รางวัล มูลค่า 2 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้คาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะกระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปี 20% สำหรับผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่สามมีผลเกินเป้าหมายที่วางไว้ โดยบิ๊กซีมียอดขายโต 8.1% และมีกำไรสุทธิ 22.3%
พร้อมกันนี้ยังงัดกลยุทธ์โซเชียลมาร์เก็ตติ้ง โดยจัดโครงการ “บิ๊กซี รวมใจบริจาคโลหิต น้อมเกล้าถวายแด่องค์ราชันย์” โดยร่วมกับบริษัทคู่ค้า 25 บริษัท โดยเปิดจุดรับบริจาคโลหิตที่บิ๊กซีทั่วประเทศ 35 สาขา ตั้งเป้าสำรองโลหิตให้แก่สภากาชาดไทยจำนวน 6 ล้านซี.ซี. เพื่อเทิดพระเกียรติรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ขณะนี้มียอดบริจาค 2.3 ล้านซี.ซี.