เถ้าแก่น้อย ประกาศรุกตลาดเต็มสูบใช้งบเพิ่ม2เท่าตัว เดินหน้ารุกขยายตลาดในประเทศดึงแชร์เพิ่มเป็น 50% เผยแผนอนาคตลอนซ์โปรเจกใหม่ ขนมขบเคี้ยวและน้ำดื่มต่อยอดธุรกิจ ล่าสุดเตรียมมุ่งหน้าขยายส่งออกตะวันออกกลาง ทุ่ม20ล้านจับมือเกาหลีนำเข้าวัตถุดิบเสริมความแข็งแกร่ง
นาย อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทฯ นับต่อจากนี้ไปจะเน้นรุกตลาดในประเทศมากขึ้น เบื้องต้นบริษัทเตรียมใช้งบประมาณในการทำตลาดในปี 2550 เพิ่มมากขึ้นถึง 2 เท่า จากเดิมที่ใช้งบในการทำตลาดแต่ละปีประมาณ 10 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทจะใช้สื่อ อะโบพ เดอะ ไลน์ และสื่อ บีโลว์ เดอะ ไลน์ เช่น ทางโทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต การจัดกิจกรรม โรดโชว์ ฯลฯ เพื่อเป็นการสอดรับกับทิศทางการเติบโตของตลาดในกลุ่มของสแน็คสาหร่ายที่มีการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับทิศทางการเติบโตของตลาดรวมในกลุ่มของสแนกสาหร่ายมีมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท การเติบโตในกลุ่มสินค้านี้มีอยู่ถึง 100%ของทุกๆปี และในปี 2550 บริษัทยังคาดว่าตลาดรวมน่าจะมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้นถึงเท่าตัว สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดมีการเติบโตมากเนื่องจาก สแนกสาหร่ายเป็นตลาดที่ใหม่ การขยายตัวยังมีได้อีกมาก บรรดาผู้ประกอบการหลายรายต่างก็ให้ความสนใจจับตลาดในกลุ่มนี้ จึงส่งผลให้กลุ่มตลาดสแนกสาหร่ายมีการเติบโตได้ต่อเนื่อง
ดังนั้นกลยุทธ์ที่จะสร้างความแตกต่างทางการตลาด(Differentiate Marketing) ของบริษัทไม่ว่าจะเป็นการสร้างจุดแตกต่างที่เหนือคู่แข่ง ในเรื่องของคุณภาพกระบวนการและวัตถุดิบที่ซื้อจากฟาร์มจากประเทศเกาหลีโดยตรง ซึ่งจะมีความแตกต่างกับผู้ประกอบรายอื่นที่ผ่านพาทเนอร์อีกต่อมาผลิต ความสดและความแปลกใหม่จะแยกให้เห็นถึงความชัดเจนต่อแบรนด์เป็นอย่างมาก
"สาหร่ายญี่ปุ่นทอดของเถ้าแก่น้อย ได้รับความนิยมเป็นอย่างดีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เราพร้อมจะรุกตลาดในเมืองไทยอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเสริมสร้างความเป็นผู้นำในตลาดสแนกสาหร่ายให้แข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อเน้นการผลักดันส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศให้โตขึ้นอีก 10% ในปีหน้าให้เพิ่มเป็น 50% จากมูลค่าตลาดรวมที่มีอยู่กว่า 600ล้านบาท"นายอิทธิพัทธ์ กล่าว
ทั้งนี้บริษัทยังมีการออกรสชาติใหม่มากระตุ้นตลาดไว้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดรสชาติใหม่ ซอสมะเขือเทศในช่วงปลายปี จากปัจจุบันรสชาติทั้งหมดของแบรนด์เถ้าแก่น้อย จะมีอยู่ 4 รสชาติ ประกอบด้วย รสคลาสสิก รสเผ็ด รสวาซาบิ และรสซีฟู๊ด
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายไลน์สินค้าใหม่ ต่อยอดธุรกิจขยายการทำตลาดออกสู่ตลาดให้กว้างมากขึ้น เบื้องต้นบริษัทมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวกับขนมขบเคี้ยว และน้ำดื่มที่มีส่วนผสมวิตามินมาเสริมรายได้ให้กับบริษัทได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งการแตกไลน์สินค้าใหม่ครั้งนี้จะเป็นการสร้างแบรนด์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด
ด้านแผนการขยายตลาดในต่างประเทศบริษัทเตรียมใช้งบลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท สำหรับการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับประเทศเกาหลีในการเสริมวัตถุดิบนำเข้าอีก อีกทั้งบริษัทยังเตรียมการปรับแพกเกจจิ้งใหม่เพื่อขยายตลาดการส่งออก ในแถบตะวันออกกลางเพิ่มอีก ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากันอยู่ คาดว่าจะมีความชัดเจนและเริ่มดำเนินการได้ในช่วงกลางปีหน้านี้
จากการทำตลาดบวกการจัดกิจกรรมที่มากขึ้น บริษัทเชื่อว่าจะสามารถทำให้กลุ่มผู้บริโภค หรือ กลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์สินค้าในขณะเดียวกัน ทางบริษัทฯได้เตรียมวางแผนงานกิจกรรมและจะขยายตลาดในระยะต่อไปเพื่อสร้างความผูกผันแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นในโอกาสต่อไป