“โรเบิร์ต" จากออสแรม กับภาระกิจโค่นแชมป์

ออสแรม ผู้นำทางด้านแสงสว่างระดับโลก สายเลือดนาซี กับบทพิสูจน์ ในการเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยมาได้ไม่ถึง 10 ปี แต่สามารถผงาดขึ้นติดท็อปทรีในตลาดได้อย่างสวยงาม ทั้งนี้เป็นเพราะกลยุทธ์ทางการตลาด และวิสัยทัศน์การทำงานของผู้บริหารที่เข้ามาดูแล

ล่าสุดสำหรับผู้บริหารคนใหม่ “โรเบิร์ต แมคคินนอน” กับการเข้ามารับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการบริษัท ออสแรม ประเทศไทย จำกัด ในวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาหมาดๆ พร้อมกับการเผยโฉมต่อหน้าสื่อมวลชนครั้งแรก ถือว่า สอบผ่านได้อย่างสวยงามทีเดียว โดยเฉพาะในเรื่องของความกระตือรือร้นและให้ความสนใจในการตอบข้อซักถาม

เพราะความเป็นผู้บริหารหนุ่มไฟแรง และความเชี่ยวชาญทางด้านการขายนี่เอง จึงทำให้ “ร๊อบ” ได้มารับผิดชอบดูแลตลาดในประเทศไทย หลังจากก่อนหน้านี้ เขานั่งเก้าอี้ผู้บริหารในตำแหน่ง OSRAM”s National Business Manager, Osram”s Head Office in Munich Germany. และ Sales Director of our Asia Pacific Region comprising Greater China, Japan, Australia and NZ.

ร๊อบ เล่าให้ฟังว่า ถึงแม้ว่าเขาจะเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง แต่เขาก็ได้มีการศึกษาตลาดในประเทศไทยมาบ้าง ทำให้มองเห็นว่า การทำตลาดในประเทศไทยนั้น ก้าวต่อไปนับจากนี้ไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งยอมรับว่าคนไทยให้ความสำคัญและยึดติดกับแบรนด์ ดังนั้นกลยุทธ์ของออสแรมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอย่างสง่างาม จะเน้นเรื่องการสร้างแบรนด์ ให้คนรู้จักมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางด้านโฆษณาประชาสัมพันธ์ และผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ

และที่สำคัญ ออสแรม จะโฟกัสสร้างฐานตลาดใหม่ เพื่อให้ตลาดหลอดไฟเติบโต จากการเพิ่มแคทากอรี่ในกลุ่มหลอดภาพมากขึ้น ด้วยการออกนวัตกรรมใหม่ๆ อาทิ หลอดไฟอินเนอจี เซฟวิ่ง, ไลท์ติ้ง คอลโทรล และไดนามิก ไลท์ติ้ง

การประจำอยู่ที่ประเทศไทยครั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี ดังนั้น ร๊อบ คาดหวังว่า ตลอดการทำงานที่เมืองไทยนั้น แต่ละปีออสแรมจะต้องมีการเติบโตมากกว่า 15 % ตามที่ออสแรมมีการเติบโตขึ้นในประเทศไทย ซึ่งเขาหวังไว้ว่าจะสามารถกว้าขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดหลอดไฟในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน ตามความสำเร็จของออสแรมในระดับโลก ที่ถือเป็นผู้นำตลาดหลอดไฟติดอันดับ 1 ใน 2 ของโลก นั้นเอง

เริ่มจากในปี 2550 ออสแรมจะมีการเพิ่มจำนวนพนักงานอีก 15 % พร้อมเพิ่มการจำหน่ายผ่านระบบรีเทล, โออีเอ็ม และเทรด พร้อมกับจะรุกหลอดไฟประเภทแอลอีดีมากขึ้น ขณะที่งบทางการตลาดจะใช้เพิ่มจากปีนี้อีก 25 % จะเน้นบีโลว์ เดอะ ไลน์เป็นหลัก 60 % และ อะโบพ เดอะ ไลน์ 40% กับการจัดกิจกรรมต่างๆ สำหรับการเจาะกลุ่มเป้าหมายในต่างจังหวัดนั้นเอง โดยมีช่องทางการจำหน่ายผ่านดีลเลอร์ และโมเดิร์นเทรด

ออสแรมจะนั่งบัลลังก์แชมป์หลอดไฟได้หรือไม่นั้น ระยะเวลาและการทำงานของแม่ทัพคนใหม่ที่ชื่อ “โรเบิร์ต แมคคินนอน” จะเป็นเครื่องพิสูจน์ บวกกับการที่มีทีมงามที่ดีมีความสามารถร่วมก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมๆกัน ความสำเร็จก็ย่อมมีความเป็นไปได้สูง