เพิ่งเข้ารับตำแหน่งนายกสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย วาระปี2549-2550 หรือคนที่22ได้หมาดๆ "วิทวัส ชัยปาณี" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ครีเอทีฟ จูซ\จีวัน จำกัด ก็จำต้องรับศึกหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรืออย.ประกาศห้ามโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ผ่านสื่อทุกช่องทางตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้การรับมอบตำแหน่งนายกสมาคมฯอย่างเป็นทางการเดิมทีจะต้องมีช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่ดันมาติดเรื่องปัญหาการเมืองก่อนจึงต้องเลื่อนมาจัดในวันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม2549ที่ผ่านมา แต่พอเข้ามารับตำแหน่งใหม่ปุ๊ป "วิทวัส ชัยปาณี" ก็โดนแจ็คพ็อตใหญ่ที่ต้องรับงานหนักในเรื่องห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์24ชม. ไม่ว่าจะเป็นการได้รับเชิญไปออกรายการถึงลูกถึงคนเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวนี้ หรือการถูกนักข่าวสอบถามกันไม่ว่างเส้นแต่ละวัน รวมถึงการให้ข้อมูลแก่ภาครัฐและทุกหน่วยงาน เป็นต้น
สำหรับตำแหน่งนายกสมาคมฯคนใหม่นี้นายวิทวัสได้กล่าวว่าเป็นงานที่ท้าทายและต้องใช้ความรับผิดชอบสูง แต่เมื่อเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยต้องขอคำปรึกษาและคำแนะนำจากรุ่นพี่ในวงการโฆษณาด้วย พร้อมกันนี้ยังได้หยอดคำหวานและปล่อยหมัดเด็ดแก่รุ่นพี่ในวงการโฆษณาชนิดมัดมือชกกลางงานประชุมใหญ่สามัญประจำปีที่ผ่านไป อาทิ นางพรศิริ โรจน์เมธาที่ปัจจุบันหันไปเอาดีทางด้านแฟชั่นกับเกรฮาวด์ แต่ก็ไม่ลืมมาช่วยเหลือน้องๆในวงการโฆษณาอยู่เสมอ หรือนายปารเมศร์ รัชไชยบุญ ประธานกิติมศักดิ์และกรรมการสมาคมฯที่จะคอยคำปรึกษาน้องและให้สัมภาษณ์กับนักข่าวอยู่เสมอ
พร้อมกันนั้นนายกสมาคมฯคนล่าสุดได้ประกาศนโยบายหลักในการบริหารงานสมาคมฯ 6 ประการ อาทิ การสานต่อนโยบายหลักที่นายกสมาคมฯคนก่อนได้ทำมาในเรื่องการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในวงการโฆษณา รวมถึงการเพิ่มพูนและปรับรายได้ของวงการโฆษณาใหม่ เป็นต้น
"ปัญหาเร่งด่วนที่ต้องทำในฐานะนายกสมาคมฯ คือ ต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่วงการโฆษณา อาทิ การตั้งคณะกรรมการจรรยาบรรณหรือคอมเพลนบอร์ดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาจะมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่ดีทำให้คนมองภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาไม่ดีตามไปด้วย"
สำหรับประวัติการทำงานของ "วิทวัส ชัยปาณี" พบว่าคร่ำหวอดอยู่ในวงการโฆษณามานานกว่า 24 ปี โดยบริษัทแรกที่ทำให้คือ บริษัทเดนท์สุ (ประเทศไทย) จำกัด ในปี2525-2530 ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการบริหารงานลูกค้า ซึ่งในขณะนั้นมีลูกค้าอยู่หลายราย เช่น กูลิโกะ,ไทยไดมารูและอายิโนะโมะโต๊ะ จากนั้นเขาก็ย้ายมาทำงานที่บริษัทดีเอ็มบีแอนด์บี จำกัดในปี 2530-2532
ต่อจากนั้นวิทวัสก็ย้ายมาอยู่ที่บริษัทโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการและรองประธานกลุ่มโอกิลวี่ประเทศไทย ซึ่งที่นี้เขาสร้างผลงานไว้มากมาย อาทิ ผลักดันให้โอกิลวี่เป็นเอเยนซี่ประสบความสำเร็จด้านครีเอทีฟ 3 ปีซ้อน,เปิดธุรกิจที่ปรึกษาในปี 2540 เป็นต้น สำหรับระยะเวลาที่ทำงานอยู่ที่นี่นานสุดกว่า 10 ปีหรือตั้งแต่ปี2532-2545
หลังจากนั้นเขาก็ย้ายมาทำงานที่บริษัท ครีเอทีฟ จูซ\จีวัน จำกัดในปี2545จนถึงปัจจุบันเขาสามารถผลักดันให้ครีเอทีฟ จูซ\จีวันได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่มีผลงานครีเอทีฟเป็นอันดับ 1ในเอเชียแปซิฟิคและติดอันดับ 7ของโลก ซึ่งถือว่าสูงที่สุดที่เอเยนซี่จากไทยจะทำได้ ดังนั้นจะกล่าวได้ว่าครีเอทีฟ จูซ\จีวันกลายเป็นเอเยนซี่ที่เติบโตเร็วที่สุดในวงการโฆษณา โดยพบว่าเติบโตเกิน 10 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 45 ราย โดยเฉพาะปี2549นี้พบว่ามีลูกค้าใหม่ 18 ราย เช่น กรุงเทพประกันชีวิต,จังซีลอนและน้ำผลไม้มาลี เป็นต้น ทั้งนี้ภายสิ้นปี2549นี้บริษัทฯคาดหวังยอดรายได้จะเติบโตขึ้น 21% หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท
ผลงานในวงการโฆษณากว่า 24 ปีของ"วิทวัส ชัยปาณี" คงเป็นตัวการันตีผลงานของเขาได้เป็นอย่างดี ส่วนตำแหน่งนายกสมาคมฯในช่วงระยะเวลา 2 ปีจากนี้ไปนับได้ว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของเขาอีกครั้งว่าจะทำได้ดีในระดับไหนในการช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่วงการโฆษณาไทยให้ผงาดอยู่ในอันดับต้นของเวทีโลกได้นานๆ
ทั้งนี้การรับมอบตำแหน่งนายกสมาคมฯอย่างเป็นทางการเดิมทีจะต้องมีช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่ดันมาติดเรื่องปัญหาการเมืองก่อนจึงต้องเลื่อนมาจัดในวันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม2549ที่ผ่านมา แต่พอเข้ามารับตำแหน่งใหม่ปุ๊ป "วิทวัส ชัยปาณี" ก็โดนแจ็คพ็อตใหญ่ที่ต้องรับงานหนักในเรื่องห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์24ชม. ไม่ว่าจะเป็นการได้รับเชิญไปออกรายการถึงลูกถึงคนเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวนี้ หรือการถูกนักข่าวสอบถามกันไม่ว่างเส้นแต่ละวัน รวมถึงการให้ข้อมูลแก่ภาครัฐและทุกหน่วยงาน เป็นต้น
สำหรับตำแหน่งนายกสมาคมฯคนใหม่นี้นายวิทวัสได้กล่าวว่าเป็นงานที่ท้าทายและต้องใช้ความรับผิดชอบสูง แต่เมื่อเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยต้องขอคำปรึกษาและคำแนะนำจากรุ่นพี่ในวงการโฆษณาด้วย พร้อมกันนี้ยังได้หยอดคำหวานและปล่อยหมัดเด็ดแก่รุ่นพี่ในวงการโฆษณาชนิดมัดมือชกกลางงานประชุมใหญ่สามัญประจำปีที่ผ่านไป อาทิ นางพรศิริ โรจน์เมธาที่ปัจจุบันหันไปเอาดีทางด้านแฟชั่นกับเกรฮาวด์ แต่ก็ไม่ลืมมาช่วยเหลือน้องๆในวงการโฆษณาอยู่เสมอ หรือนายปารเมศร์ รัชไชยบุญ ประธานกิติมศักดิ์และกรรมการสมาคมฯที่จะคอยคำปรึกษาน้องและให้สัมภาษณ์กับนักข่าวอยู่เสมอ
พร้อมกันนั้นนายกสมาคมฯคนล่าสุดได้ประกาศนโยบายหลักในการบริหารงานสมาคมฯ 6 ประการ อาทิ การสานต่อนโยบายหลักที่นายกสมาคมฯคนก่อนได้ทำมาในเรื่องการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในวงการโฆษณา รวมถึงการเพิ่มพูนและปรับรายได้ของวงการโฆษณาใหม่ เป็นต้น
"ปัญหาเร่งด่วนที่ต้องทำในฐานะนายกสมาคมฯ คือ ต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่วงการโฆษณา อาทิ การตั้งคณะกรรมการจรรยาบรรณหรือคอมเพลนบอร์ดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาจะมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่ดีทำให้คนมองภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาไม่ดีตามไปด้วย"
สำหรับประวัติการทำงานของ "วิทวัส ชัยปาณี" พบว่าคร่ำหวอดอยู่ในวงการโฆษณามานานกว่า 24 ปี โดยบริษัทแรกที่ทำให้คือ บริษัทเดนท์สุ (ประเทศไทย) จำกัด ในปี2525-2530 ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการบริหารงานลูกค้า ซึ่งในขณะนั้นมีลูกค้าอยู่หลายราย เช่น กูลิโกะ,ไทยไดมารูและอายิโนะโมะโต๊ะ จากนั้นเขาก็ย้ายมาทำงานที่บริษัทดีเอ็มบีแอนด์บี จำกัดในปี 2530-2532
ต่อจากนั้นวิทวัสก็ย้ายมาอยู่ที่บริษัทโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการและรองประธานกลุ่มโอกิลวี่ประเทศไทย ซึ่งที่นี้เขาสร้างผลงานไว้มากมาย อาทิ ผลักดันให้โอกิลวี่เป็นเอเยนซี่ประสบความสำเร็จด้านครีเอทีฟ 3 ปีซ้อน,เปิดธุรกิจที่ปรึกษาในปี 2540 เป็นต้น สำหรับระยะเวลาที่ทำงานอยู่ที่นี่นานสุดกว่า 10 ปีหรือตั้งแต่ปี2532-2545
หลังจากนั้นเขาก็ย้ายมาทำงานที่บริษัท ครีเอทีฟ จูซ\จีวัน จำกัดในปี2545จนถึงปัจจุบันเขาสามารถผลักดันให้ครีเอทีฟ จูซ\จีวันได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่มีผลงานครีเอทีฟเป็นอันดับ 1ในเอเชียแปซิฟิคและติดอันดับ 7ของโลก ซึ่งถือว่าสูงที่สุดที่เอเยนซี่จากไทยจะทำได้ ดังนั้นจะกล่าวได้ว่าครีเอทีฟ จูซ\จีวันกลายเป็นเอเยนซี่ที่เติบโตเร็วที่สุดในวงการโฆษณา โดยพบว่าเติบโตเกิน 10 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 45 ราย โดยเฉพาะปี2549นี้พบว่ามีลูกค้าใหม่ 18 ราย เช่น กรุงเทพประกันชีวิต,จังซีลอนและน้ำผลไม้มาลี เป็นต้น ทั้งนี้ภายสิ้นปี2549นี้บริษัทฯคาดหวังยอดรายได้จะเติบโตขึ้น 21% หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท
ผลงานในวงการโฆษณากว่า 24 ปีของ"วิทวัส ชัยปาณี" คงเป็นตัวการันตีผลงานของเขาได้เป็นอย่างดี ส่วนตำแหน่งนายกสมาคมฯในช่วงระยะเวลา 2 ปีจากนี้ไปนับได้ว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของเขาอีกครั้งว่าจะทำได้ดีในระดับไหนในการช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่วงการโฆษณาไทยให้ผงาดอยู่ในอันดับต้นของเวทีโลกได้นานๆ