ตระกูล”ชีวศิริ” ลั่นกลองตั้งบริษัท แบล็กแคท ค๊อฟฟี่ ”ลุยตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มแทนน้ำเมา ปั้นแบรนด์”แบล็กแคท”เปิดตลาดเซกเมนต์พรีเมียม เลี่ยงเบอร์ดี้คุมฐานลูกค้าใช้แรงงาน สร้างความต่างบรรจุภัณฑ์สดใส ทะลวงกลุ่มวัยรุ่น-เริ่มทำงานแทน
แหล่งข่าวจากบริษัท แบล็กแคท ค๊อฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มตรา”แบล็กแคท” เปิดเผยกับ”ผู้จัดการรายวัน”ว่า หลังจากตระกูล”ชีวศิริ” หรือนายไพศาล ชีวศิริ ได้ตัดสินใจขายหุ้นในบริษัทยูไนเต็ด ไวน์เนอรี่ แอนด์ ดิสทิลเลอรี่ ให้กับกลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดี หรือบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ในประเทศไทย
ล่าสุดตระกูลชีวศิริ ได้แตกไลน์ธุรกิจใหม่ โดยได้จัดตั้งบริษัท แบล็กแคท ค๊อฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มตราแบล็กแคท โดยเป็นชื่อตราสินค้าเดียวกับเหล้า”แบล็กแคท” ซึ่งบริษัทได้จดลิขสิทธิ์ทางการค้ากาแฟกระป๋องพร้อมดื่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มแบล็กแคท ใช้โลโก้รูปแมวดำ สีสันสดใส มีความทันสมัย ซึ่งนับว่าเป็นจุดขายของรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่แบล็กแคท ต้องการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง อาทิ เบอร์ดี้, กระทั่งกระทิงแดง ซึ่งส่วนใหญ่การทำตลาดจะเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้แรงงานเป็นหลัก
ในขณะที่กาแฟกระป๋องพร้อมดื่มแบล็กแคท วางกลุ่มเป้าหมายเป็น คนรุ่นใหม่และเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ใหญ่เช่นกัน ทั้งนี้เป็นเพราะพฤติกรรมการดื่มในกลุ่มนี้ กาแฟเป็นเครื่องดื่มในอันดับต้นๆ ที่กลุ่มนี้เลือกดื่ม โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังอยู่ในช่วงสอบ ซึ่งในตลาดนี้เบอร์ดี้ก็เริ่มมองเห็นและให้ความสำคัญเช่นกัน
สังเกตได้จากการเปิดตัวโครงการใหม่ “เบอร์ดี้ ...พาใจไปสู่ฝัน” โดยมี 3 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย กิจกรรม“สานฝันคนรักทะเล” เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใต้ทะเล กิจกรรม “ศึกษาธรรมชาติโดยศิลปวีธี” และกิจกรรม” อาสาสมัครฟื้นฟูศูนย์ช่วยชีวิตและศึกษาเพื่ออนุรักษ์สัตว์ป่าหมู่บ้านทะเลนอก”
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มแบล็กแคท ขณะนี้ได้ให้บริษัท นูบูน เป็นผู้ผลิตสินค้าให้กับบริษัทไปก่อน โดยแบล็กแคทวางตำแหน่งทางการตลาด เป็นกาแฟกระป๋องระดับพรีเมี่ยม มีด้วยกัน 2 รสชาติ ได้แก่ กาแฟผสมนมปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม และกาแฟดำเอสเปรสโซ่พร้อมดื่ม จำหน่ายในราคา 14 บาท ถูกกว่าเบอร์ดี้ ลีโอ คู่แข่งที่วางสินค้ากาแฟกระป๋องระดับพรีเมียม แต่จำหน่ายในราคา 15 บาท
ในขณะที่กาแฟกระป๋องพร้อมดื่มทั่วไปที่มีอยู่ในตลาดจำหน่ายราคา 12 บาท อาทิ เบอร์ดี้,เนสกาแฟ,กระทิงแดง และซู่ เป็นต้น โดยกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มแบล็กแคท เริ่มวางจำหน่ายตามร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น เป็นต้น
สำหรับแนวโน้มตลาดกาแฟกระป๋องมูลค่า 3,500 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 10 % ในขณะที่ตลาดกาแฟสำเร็จรูปสภาพตลาดติดลบ 2% ส่วนตลาดทรีอินวันมูลค่า 2,500-3,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดคือ 25% อย่างไรก็ตามสภาพตลาดกาแฟกระป๋องในไทยยังสามารถพัฒนาได้อีกมาก โดยเฉพาะด้านรสชาติใหม่ๆ รวมไปถึงเซกเมนต์ระดับพรีเมี่ยม ซึ่งยังมีคู่แข่งน้อยราย ซึ่งเบอร์ดี้ได้เตรียมเปิดตัวในเซกเมนต์ดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบเช่นกัน
ปัจจุบันตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม เบอร์ดี้ เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 65% จากความแข็งแกร่งทั้งในช่องทางร้านค้าสะดวกซื้อ เบอร์ดี้มีส่วนแบ่ง 56% ส่วนโมเดิร์นเทรด 57% ร้านค้าปลีกรายย่อย 70% ซึ่งปัจจุบันเบอร์ดี้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกช่องทาง 93% ส่วนอันดับสองของตลาดเนสกาแฟมีส่วนแบ่ง 32% อาฮ่า และแบรนด์อื่นๆ 3%
แหล่งข่าวจากบริษัท แบล็กแคท ค๊อฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มตรา”แบล็กแคท” เปิดเผยกับ”ผู้จัดการรายวัน”ว่า หลังจากตระกูล”ชีวศิริ” หรือนายไพศาล ชีวศิริ ได้ตัดสินใจขายหุ้นในบริษัทยูไนเต็ด ไวน์เนอรี่ แอนด์ ดิสทิลเลอรี่ ให้กับกลุ่มเจริญ สิริวัฒนภักดี หรือบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ในประเทศไทย
ล่าสุดตระกูลชีวศิริ ได้แตกไลน์ธุรกิจใหม่ โดยได้จัดตั้งบริษัท แบล็กแคท ค๊อฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มตราแบล็กแคท โดยเป็นชื่อตราสินค้าเดียวกับเหล้า”แบล็กแคท” ซึ่งบริษัทได้จดลิขสิทธิ์ทางการค้ากาแฟกระป๋องพร้อมดื่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มแบล็กแคท ใช้โลโก้รูปแมวดำ สีสันสดใส มีความทันสมัย ซึ่งนับว่าเป็นจุดขายของรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่แบล็กแคท ต้องการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง อาทิ เบอร์ดี้, กระทั่งกระทิงแดง ซึ่งส่วนใหญ่การทำตลาดจะเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้แรงงานเป็นหลัก
ในขณะที่กาแฟกระป๋องพร้อมดื่มแบล็กแคท วางกลุ่มเป้าหมายเป็น คนรุ่นใหม่และเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ใหญ่เช่นกัน ทั้งนี้เป็นเพราะพฤติกรรมการดื่มในกลุ่มนี้ กาแฟเป็นเครื่องดื่มในอันดับต้นๆ ที่กลุ่มนี้เลือกดื่ม โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังอยู่ในช่วงสอบ ซึ่งในตลาดนี้เบอร์ดี้ก็เริ่มมองเห็นและให้ความสำคัญเช่นกัน
สังเกตได้จากการเปิดตัวโครงการใหม่ “เบอร์ดี้ ...พาใจไปสู่ฝัน” โดยมี 3 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย กิจกรรม“สานฝันคนรักทะเล” เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมใต้ทะเล กิจกรรม “ศึกษาธรรมชาติโดยศิลปวีธี” และกิจกรรม” อาสาสมัครฟื้นฟูศูนย์ช่วยชีวิตและศึกษาเพื่ออนุรักษ์สัตว์ป่าหมู่บ้านทะเลนอก”
แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มแบล็กแคท ขณะนี้ได้ให้บริษัท นูบูน เป็นผู้ผลิตสินค้าให้กับบริษัทไปก่อน โดยแบล็กแคทวางตำแหน่งทางการตลาด เป็นกาแฟกระป๋องระดับพรีเมี่ยม มีด้วยกัน 2 รสชาติ ได้แก่ กาแฟผสมนมปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม และกาแฟดำเอสเปรสโซ่พร้อมดื่ม จำหน่ายในราคา 14 บาท ถูกกว่าเบอร์ดี้ ลีโอ คู่แข่งที่วางสินค้ากาแฟกระป๋องระดับพรีเมียม แต่จำหน่ายในราคา 15 บาท
ในขณะที่กาแฟกระป๋องพร้อมดื่มทั่วไปที่มีอยู่ในตลาดจำหน่ายราคา 12 บาท อาทิ เบอร์ดี้,เนสกาแฟ,กระทิงแดง และซู่ เป็นต้น โดยกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มแบล็กแคท เริ่มวางจำหน่ายตามร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น เป็นต้น
สำหรับแนวโน้มตลาดกาแฟกระป๋องมูลค่า 3,500 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 10 % ในขณะที่ตลาดกาแฟสำเร็จรูปสภาพตลาดติดลบ 2% ส่วนตลาดทรีอินวันมูลค่า 2,500-3,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดคือ 25% อย่างไรก็ตามสภาพตลาดกาแฟกระป๋องในไทยยังสามารถพัฒนาได้อีกมาก โดยเฉพาะด้านรสชาติใหม่ๆ รวมไปถึงเซกเมนต์ระดับพรีเมี่ยม ซึ่งยังมีคู่แข่งน้อยราย ซึ่งเบอร์ดี้ได้เตรียมเปิดตัวในเซกเมนต์ดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบเช่นกัน
ปัจจุบันตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม เบอร์ดี้ เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 65% จากความแข็งแกร่งทั้งในช่องทางร้านค้าสะดวกซื้อ เบอร์ดี้มีส่วนแบ่ง 56% ส่วนโมเดิร์นเทรด 57% ร้านค้าปลีกรายย่อย 70% ซึ่งปัจจุบันเบอร์ดี้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกช่องทาง 93% ส่วนอันดับสองของตลาดเนสกาแฟมีส่วนแบ่ง 32% อาฮ่า และแบรนด์อื่นๆ 3%