สมอ.เร่งตรวจสอบผู้นำเข้า-ผู้จำหน่ายถังก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) สำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในตามมาตรฐาน มอก.370-2525 หลังพบผู้ประกอบการบางรายนำเข้าถังบรรจุก๊าซ LPG ไม่ได้มาตรฐาน เตือนหากผู้บริโภคนำมาติดตั้งภายในรถยนต์จะไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน
นายไพโรจน์ สัญญะเดชากุล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้เร่งตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ถังก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)สำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายใน ทั้งที่ผลิตภายในประเทศและที่นำเข้าจากต่างประเทศ หลังจากที่มีการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการบางรายนำเข้าถังบรรจุก๊าซ LPG ที่ไม่ได้มาตรฐานมาจำหน่ายภายในประเทศ ซึ่งเกรงว่าจะส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเข้มงวดต่อผู้ประกอบการมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การนำเข้าถังบรรจุก๊าซ LPG อยู่ในข่ายควบคุมตามพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายใน มอก.370-2525 ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 แต่ปัจจุบันมีผู้บริโภคจำนวนหนึ่งที่นำถังบรรจุก๊าซ LPG รูปทรงยางอะไหล่รถยนต์หรือรูปทรงโดนัท ซึ่งไม่ได้มาตรฐานไปติดตั้งภายในรถ โดยใช้วิธีการติดตั้งแทนที่ในช่องยางอะไหล่ที่อยู่ส่วนท้ายของรถยนต์ ซึ่งในทางปฏิบัติที่ถูกต้องตามมาตรฐานและปลอดภัยจะต้องใช้ถังก๊าซรูปทรงแคปซูล โดยติดตั้งบริเวณช่องเก็บสัมภาระส่วนท้ายรถยนต์ ทำให้ สมอ.เกรงว่าผู้บริโภคจะหันมานิยมใช้ถังบรรจุก๊าซ LPG ที่ไม่ได้มาตรฐานและเป็นการติดตั้งที่ไม่ปลอดภัย แม้ว่าวิธีการติดตั้งดังกล่าวจะประหยัดเนื้อที่ก็ตาม
ทั้งนี้ สมอ.ได้ดำเนินการแจ้งข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ประกอบการ และทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความเข้าใจที่ตรงกัน โดยเฉพาะเรื่องการนำเข้าที่ผู้นำเข้าจะต้องรับทราบว่าการนำเข้าถังก๊าซ LPG มาจำหน่ายในราชอาณาจักรจะต้องขออนุญาตตามมาตรา 21 หรือหากมีความจำเป็นต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างไปจากมาตรฐานกำหนดเป็นการเฉพาะคราวต้องขออนุญาตตามมาตรา 21 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ขณะเดียวกัน สมอ.ได้ขอความร่วมมือผู้บริโภคในการเลือกใช้ถังบรรจุก๊าซ LPG ที่มีรูปแบบและการติดตั้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหากไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจะไม่สามารถนำรถยนต์ไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้
เลขาธิการ สมอ. กล่าวอีกว่า สมอ. กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าควรกำหนดมาตรฐานควบคุมดูแลเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อป้องกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริโภค และเป็นการส่งเสริมการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวกับรถยนต์ในระยะยาวต่อไป เพื่อช่วยประหยัดพลังงานของชาติในภาวะที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ส่วนบทลงโทษสำหรับผู้ใดไม่ให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปในสถานที่ผลิต เก็บ หรือจำหน่าย เพื่อตรวจสอบ หรือนำผลิตภัณฑ์ไปเป็นตัวอย่างเพื่อทดสอบ จะมีโทษต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมกันนี้ต้องทำตามคำสั่งของคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่สั่งให้แก้ไข ปรับปรุง หรือทำลาย ผลิตภัณฑ์ที่ถูกอายัด หากฝ่าฝืนจะมีโทษ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ หากสงสัยหรือพบเห็นการกระทำผิดโปรดติดต่อที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) โทรศัพท์ 0 2202 3482
นายไพโรจน์ สัญญะเดชากุล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้เร่งตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ถังก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)สำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายใน ทั้งที่ผลิตภายในประเทศและที่นำเข้าจากต่างประเทศ หลังจากที่มีการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการบางรายนำเข้าถังบรรจุก๊าซ LPG ที่ไม่ได้มาตรฐานมาจำหน่ายภายในประเทศ ซึ่งเกรงว่าจะส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเข้มงวดต่อผู้ประกอบการมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การนำเข้าถังบรรจุก๊าซ LPG อยู่ในข่ายควบคุมตามพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายใน มอก.370-2525 ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 แต่ปัจจุบันมีผู้บริโภคจำนวนหนึ่งที่นำถังบรรจุก๊าซ LPG รูปทรงยางอะไหล่รถยนต์หรือรูปทรงโดนัท ซึ่งไม่ได้มาตรฐานไปติดตั้งภายในรถ โดยใช้วิธีการติดตั้งแทนที่ในช่องยางอะไหล่ที่อยู่ส่วนท้ายของรถยนต์ ซึ่งในทางปฏิบัติที่ถูกต้องตามมาตรฐานและปลอดภัยจะต้องใช้ถังก๊าซรูปทรงแคปซูล โดยติดตั้งบริเวณช่องเก็บสัมภาระส่วนท้ายรถยนต์ ทำให้ สมอ.เกรงว่าผู้บริโภคจะหันมานิยมใช้ถังบรรจุก๊าซ LPG ที่ไม่ได้มาตรฐานและเป็นการติดตั้งที่ไม่ปลอดภัย แม้ว่าวิธีการติดตั้งดังกล่าวจะประหยัดเนื้อที่ก็ตาม
ทั้งนี้ สมอ.ได้ดำเนินการแจ้งข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ประกอบการ และทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความเข้าใจที่ตรงกัน โดยเฉพาะเรื่องการนำเข้าที่ผู้นำเข้าจะต้องรับทราบว่าการนำเข้าถังก๊าซ LPG มาจำหน่ายในราชอาณาจักรจะต้องขออนุญาตตามมาตรา 21 หรือหากมีความจำเป็นต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างไปจากมาตรฐานกำหนดเป็นการเฉพาะคราวต้องขออนุญาตตามมาตรา 21 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ขณะเดียวกัน สมอ.ได้ขอความร่วมมือผู้บริโภคในการเลือกใช้ถังบรรจุก๊าซ LPG ที่มีรูปแบบและการติดตั้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหากไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจะไม่สามารถนำรถยนต์ไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้
เลขาธิการ สมอ. กล่าวอีกว่า สมอ. กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าควรกำหนดมาตรฐานควบคุมดูแลเพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อป้องกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริโภค และเป็นการส่งเสริมการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวกับรถยนต์ในระยะยาวต่อไป เพื่อช่วยประหยัดพลังงานของชาติในภาวะที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ส่วนบทลงโทษสำหรับผู้ใดไม่ให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปในสถานที่ผลิต เก็บ หรือจำหน่าย เพื่อตรวจสอบ หรือนำผลิตภัณฑ์ไปเป็นตัวอย่างเพื่อทดสอบ จะมีโทษต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมกันนี้ต้องทำตามคำสั่งของคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่สั่งให้แก้ไข ปรับปรุง หรือทำลาย ผลิตภัณฑ์ที่ถูกอายัด หากฝ่าฝืนจะมีโทษ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ หากสงสัยหรือพบเห็นการกระทำผิดโปรดติดต่อที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) โทรศัพท์ 0 2202 3482