สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ สรท.เตรียมเข้าไปตรวจสอบโครงการลงทุนของทีโอที ที่มีงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท อย่างน้อย 3 โครงการ หลังพบเอกชนผู้รับเหมาส่งมอบงานไม่ได้ตามสัญญา แต่ผู้บริหารไม่ได้สั่งปรับเงิน โดยเฉพาะโครงการขยายเลขหมายโทรศัพท์พื้นฐาน 560,000 เลขหมาย
นายนุกูล ศิริบวรนุกูล ประธาน สรท. เปิดเผยว่า สรท.ได้เข้าไปตรวจสอบโครงการลงทุนของทีโอที ที่มีงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท เนื่องจากพบว่ามีหลายโครงการล่าช้า แต่ทีโอที ไม่ดำเนินการตามสัญญากับภาคเอกชน ทำให้ทีโอที เสียผลประโยชน์ โดยเฉพาะโครงการขยายเลขหมายโทรศัพท์พื้นฐาน 560,000 เลขหมาย ซึ่งครบกำหนดส่งมอบงานตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2549 แต่พบว่าเอกชนผู้ติดตั้งอุปกรณ์ยังติดตั้งได้ไม่เกินร้อยละ 25 ของเลขหมายทั้งหมด หรือไม่ถึง 50,000 เลขหมาย แต่ผู้บริหารไม่มีการสั่งปรับวันละ 3 ล้านบาทตามสัญญาแต่อย่างใด ซึ่งจะต้องมีผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะผู้จัดการโครงการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการดังกล่าวมีเอกชน 2 ราย ชนะการประมูล ได้แก่ บริษัท ซีเมนส์ จำกัด และกิจการร่วมค้าอีริคสัน ซึ่งหากต้องจ่ายค่าปรับจะต้องจ่ายไม่ต่ำกว่า 134 ล้านบาท โดยเอกชนอ้างว่ามีปัญหาเรื่องของน้ำท่วมและขาดแคลนช่างติดตั้งอุปกรณ์ จึงขอเลื่อนกำหนดส่งมอบไปเป็นช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2550 แต่ประธาน สรท. ระบุว่า ปัญหาล่าช้าเกิดจากทองแดงขึ้นราคา ทำให้ต้นทุนเพิ่ม ขณะที่การประมูลผ่านอี-ออคชั่น มีการแข่งขันราคากันสูง จึงต้องแบกรับภาระภายหลัง
นอกจากนี้ สรท.ยังจะเข้าตรวจสอบโครงการที่ทีโอที อนุมัติงบลงทุนด้วยวิธีพิเศษอีกไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท โดยข้อมูลทั้งหมดจะเสนอต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อลงโทษความผิดทางอาญาต่อไป
นายนุกูล ศิริบวรนุกูล ประธาน สรท. เปิดเผยว่า สรท.ได้เข้าไปตรวจสอบโครงการลงทุนของทีโอที ที่มีงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท เนื่องจากพบว่ามีหลายโครงการล่าช้า แต่ทีโอที ไม่ดำเนินการตามสัญญากับภาคเอกชน ทำให้ทีโอที เสียผลประโยชน์ โดยเฉพาะโครงการขยายเลขหมายโทรศัพท์พื้นฐาน 560,000 เลขหมาย ซึ่งครบกำหนดส่งมอบงานตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2549 แต่พบว่าเอกชนผู้ติดตั้งอุปกรณ์ยังติดตั้งได้ไม่เกินร้อยละ 25 ของเลขหมายทั้งหมด หรือไม่ถึง 50,000 เลขหมาย แต่ผู้บริหารไม่มีการสั่งปรับวันละ 3 ล้านบาทตามสัญญาแต่อย่างใด ซึ่งจะต้องมีผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะผู้จัดการโครงการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการดังกล่าวมีเอกชน 2 ราย ชนะการประมูล ได้แก่ บริษัท ซีเมนส์ จำกัด และกิจการร่วมค้าอีริคสัน ซึ่งหากต้องจ่ายค่าปรับจะต้องจ่ายไม่ต่ำกว่า 134 ล้านบาท โดยเอกชนอ้างว่ามีปัญหาเรื่องของน้ำท่วมและขาดแคลนช่างติดตั้งอุปกรณ์ จึงขอเลื่อนกำหนดส่งมอบไปเป็นช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2550 แต่ประธาน สรท. ระบุว่า ปัญหาล่าช้าเกิดจากทองแดงขึ้นราคา ทำให้ต้นทุนเพิ่ม ขณะที่การประมูลผ่านอี-ออคชั่น มีการแข่งขันราคากันสูง จึงต้องแบกรับภาระภายหลัง
นอกจากนี้ สรท.ยังจะเข้าตรวจสอบโครงการที่ทีโอที อนุมัติงบลงทุนด้วยวิธีพิเศษอีกไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท โดยข้อมูลทั้งหมดจะเสนอต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อลงโทษความผิดทางอาญาต่อไป