“เอเอ็นเอ” สบช่องเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ อ้อนกรมการบินพาณิชย์ ขอเปลี่ยนแปลงเวลาบินเส้นทาง กรุงเทพฯ-นาริตะ จาก 22.40 น. เปลี่ยนเป็น 7.55 น. ประเดิมไฟล์ทแรก 30 ต.ค.นี้ หวังตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารได้มากขึ้น มั่นใจจะเพิ่มจำนวนผู้โดยสารได้มากกว่าเดิมอีก 20% ล่าสุดประกาศเปิดเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-ชิคาโก อีกวันละ 1 ไฟล์ท
นายคิมิย่า อาริม่า ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยและพม่า สายการบินออล นิปปอน แอร์เวส์(ANA) เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 ตุลาคมศกนี้ เอเอ็นเอจะเปลี่ยนแปลงเวลาการบิน สำหรับเที่ยวบิน NH 954 กรุงเทพฯ-นาริตะ จากปัจจุบันที่ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 22.40 น. จะเปลี่ยนเป็นเวลา 7.55 น. โดยการเปลี่ยนแปลงเวลาบินในครั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ใช้บริการได้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้โดยสารที่ต้องเดินทางเพื่อไปเปลี่ยนเที่ยวบินที่ นาริตะ เพื่อบินต่อไปซานฟรานซิสโก และลอสแอนเจลิส ประเทศอเมริกา จะประหยัดเวลาการเดินทางไปได้ถึง 8 ชั่วโมง เพราะจากปัจจุบันที่ต้องใช้เวลาเพื่อรอต่อเครื่องบินถึง 10 ชั่วโมง ก็จะเหลือเพียง1.30 ชั่วโมง
โดยบริษัทฯคาดว่า การเปลี่ยนแปลงเวลาบินดังกล่าว จะช่วยให้ มีผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากปัจจุบัน อัตราบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยว (โหลดแฟคเตอร์) ของ เอเอ็นเอ อยู่ที่ประมาณ 78% เพิ่มจากปีก่อนเล็กน้อย ที่มีอัตราบรรทุกต่อเที่ยวอยู่ที่ 76%
สำหรับการเปลี่ยนแปลงเวลาบินในครั้งนี้ ถือเป็นความเหมาะสมที่ลงตัว เพราะปัจจุบัน เอเอ็นเอ มีเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-นาริตะ วันละ 2 เที่ยวบิน โดยจะบินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 22.40 น. และ 23.55 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ใกล้กันจนเกินไป ทำให้ผู้โดยสารมีทางเลือกได้น้อยมาก เพราะไม่แตกต่าง แต่ตอนอยู่ที่สนามบินดอนเมือง ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตารางการบินได้ เนื่องจากการขึ้น-ลงของเครื่องบินค่อนข้างแออัด แต่เมื่อย้ายมาใช้สนามบินสุวรรณภูมิ บริษัทฯจึงทำเรื่องเสนอกรมการบินพาณิชย์ของเปลี่ยนแปลงเวลาบิน
“การเปลี่ยนแปลงเวลาบินครั้งนี้มีเหตุผล 3 ข้อ หลัก คือ 1.ต้องการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า 2.เพื่อความสะดวกของผู้โดยสารที่จะต้อต่อเครื่องไปอเมริกา และ 3.เพิ่มความสะดวกให้ผู้โดยสารที่จะต่อเครื่องในประเทศเพื่อบินไปเมืองอื่นๆในญี่ปุ่น”
นอกจากนั้น ในวันที่ 29 ตุลาคมศกนี้ เช่นกัน บริษัทฯจะเปิดเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-ชิคาโก วันละ 1 เที่ยวบิน ซึ่งในเส้นทางนี้ ในอดีตเคยบินอยู่แล้วและหยุดบินไปเมื่อเกิดเหตุการณ์ระเบิดตึก เวิลด์เทรด เมื่อวันที่ 11 กันยายน ซึ่งการเปิดเส้นบินนี้จะทำให้ เอเอ็นเอ มี 5 เดสติเนชั่น ที่บินไปประเทศอเมริกา เช่น วอชิงตัน ,ลอสแอนเจลิส ,ซานฟรานซิสโก , ชิคาโก เป็นต้น โดยมีเมืองนาริตะ เป็นฮับทางการบิน
นายอาริม่า กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ธุรกิจการบินในปีหน้า ยังขึ้นกับภาวะราคาน้ำมัน ซึ่งถือเป็นต้นทุนส่วนใหญ่ของการดำเนินธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันนี้ ราคาค่าตั๋วโดยสารจะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่เมื่อรวมค่าธรรมเนียมน้ำมันแล้วจะทำให้ราคาตั๋วจะแตกต่างกัน โดยสายการบิน เอเอ็นเอ จะถูกกำหนดต้นทุนน้ำมันจากตลาดญี่ปุ่น ขณะที่สายการบินไทย จะคำนวณต้นทุนน้ำมันจากราคาตลาดที่สิงคโปร์ ซึ่งจะถูกกว่า ซึ่งขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าปีหน้า การกำหนดราคาค่าโดยสารเครื่องบินจะเป็นเท่าใด เพราะเชื่อว่าทุกสายการบินก็จะดูท่าทีของคู่แข่งด้วยเสมอ
ทั้งนี้ในปี 2548 มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางมาประเทศไทยตลอดทั้งปีรวม 1,196,654 คน นับเป็นอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยด้วยเครื่องบิน โดยตั้งแต่ปี 2541นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 10% จนถึงปัจจุบัน นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้าประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วน 10.35% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ขณะที่มีคนไทยเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นในปี 2548 ประมาณ 127,000 คน
นายคิมิย่า อาริม่า ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยและพม่า สายการบินออล นิปปอน แอร์เวส์(ANA) เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 ตุลาคมศกนี้ เอเอ็นเอจะเปลี่ยนแปลงเวลาการบิน สำหรับเที่ยวบิน NH 954 กรุงเทพฯ-นาริตะ จากปัจจุบันที่ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 22.40 น. จะเปลี่ยนเป็นเวลา 7.55 น. โดยการเปลี่ยนแปลงเวลาบินในครั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ใช้บริการได้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้โดยสารที่ต้องเดินทางเพื่อไปเปลี่ยนเที่ยวบินที่ นาริตะ เพื่อบินต่อไปซานฟรานซิสโก และลอสแอนเจลิส ประเทศอเมริกา จะประหยัดเวลาการเดินทางไปได้ถึง 8 ชั่วโมง เพราะจากปัจจุบันที่ต้องใช้เวลาเพื่อรอต่อเครื่องบินถึง 10 ชั่วโมง ก็จะเหลือเพียง1.30 ชั่วโมง
โดยบริษัทฯคาดว่า การเปลี่ยนแปลงเวลาบินดังกล่าว จะช่วยให้ มีผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากปัจจุบัน อัตราบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยว (โหลดแฟคเตอร์) ของ เอเอ็นเอ อยู่ที่ประมาณ 78% เพิ่มจากปีก่อนเล็กน้อย ที่มีอัตราบรรทุกต่อเที่ยวอยู่ที่ 76%
สำหรับการเปลี่ยนแปลงเวลาบินในครั้งนี้ ถือเป็นความเหมาะสมที่ลงตัว เพราะปัจจุบัน เอเอ็นเอ มีเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-นาริตะ วันละ 2 เที่ยวบิน โดยจะบินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 22.40 น. และ 23.55 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ใกล้กันจนเกินไป ทำให้ผู้โดยสารมีทางเลือกได้น้อยมาก เพราะไม่แตกต่าง แต่ตอนอยู่ที่สนามบินดอนเมือง ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตารางการบินได้ เนื่องจากการขึ้น-ลงของเครื่องบินค่อนข้างแออัด แต่เมื่อย้ายมาใช้สนามบินสุวรรณภูมิ บริษัทฯจึงทำเรื่องเสนอกรมการบินพาณิชย์ของเปลี่ยนแปลงเวลาบิน
“การเปลี่ยนแปลงเวลาบินครั้งนี้มีเหตุผล 3 ข้อ หลัก คือ 1.ต้องการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า 2.เพื่อความสะดวกของผู้โดยสารที่จะต้อต่อเครื่องไปอเมริกา และ 3.เพิ่มความสะดวกให้ผู้โดยสารที่จะต่อเครื่องในประเทศเพื่อบินไปเมืองอื่นๆในญี่ปุ่น”
นอกจากนั้น ในวันที่ 29 ตุลาคมศกนี้ เช่นกัน บริษัทฯจะเปิดเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-ชิคาโก วันละ 1 เที่ยวบิน ซึ่งในเส้นทางนี้ ในอดีตเคยบินอยู่แล้วและหยุดบินไปเมื่อเกิดเหตุการณ์ระเบิดตึก เวิลด์เทรด เมื่อวันที่ 11 กันยายน ซึ่งการเปิดเส้นบินนี้จะทำให้ เอเอ็นเอ มี 5 เดสติเนชั่น ที่บินไปประเทศอเมริกา เช่น วอชิงตัน ,ลอสแอนเจลิส ,ซานฟรานซิสโก , ชิคาโก เป็นต้น โดยมีเมืองนาริตะ เป็นฮับทางการบิน
นายอาริม่า กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ธุรกิจการบินในปีหน้า ยังขึ้นกับภาวะราคาน้ำมัน ซึ่งถือเป็นต้นทุนส่วนใหญ่ของการดำเนินธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันนี้ ราคาค่าตั๋วโดยสารจะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่เมื่อรวมค่าธรรมเนียมน้ำมันแล้วจะทำให้ราคาตั๋วจะแตกต่างกัน โดยสายการบิน เอเอ็นเอ จะถูกกำหนดต้นทุนน้ำมันจากตลาดญี่ปุ่น ขณะที่สายการบินไทย จะคำนวณต้นทุนน้ำมันจากราคาตลาดที่สิงคโปร์ ซึ่งจะถูกกว่า ซึ่งขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าปีหน้า การกำหนดราคาค่าโดยสารเครื่องบินจะเป็นเท่าใด เพราะเชื่อว่าทุกสายการบินก็จะดูท่าทีของคู่แข่งด้วยเสมอ
ทั้งนี้ในปี 2548 มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางมาประเทศไทยตลอดทั้งปีรวม 1,196,654 คน นับเป็นอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยด้วยเครื่องบิน โดยตั้งแต่ปี 2541นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 10% จนถึงปัจจุบัน นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้าประเทศไทยคิดเป็นสัดส่วน 10.35% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด ขณะที่มีคนไทยเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นในปี 2548 ประมาณ 127,000 คน